ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง
บางคนอาจไม่ได้พูด บางคนอาจไม่ได้ยิน บางคนไม่มีแม่แต่จะได้โอกาสฟังมันหรือคิดถึงเขาคนนั้นหรือแม้แต่ตัวเอง ด้วยเพราะบางคนคิดว่าตัวเองไม่สมควรได้รับความรักจึงตัดสินใจเดินจากไปอย่างเงียบๆ สู่ความว่างเปล่าเพื่อพยายามปกปิดช่องว่างในอดีต แต่อันที่จริงแล้วหากใช้มุมมองของความรักที่เกิดขึ้น คือ ความร้ายแรง โหดร้ายหรือถูกละทิ้ง และถาโถมเข้าสู่ชีวิต มันได้ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นจริงใช่หรือไม่ ณ ตอนนี้ผมว่าแค่ไม่ต้องรู้สึกว่าอะไรจะว่าอย่างไร แค่ให้รับรู้ว่ามันแค่หนทางหนึ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้เท่านั้นและรับรู้ว่ามันมีความหมายกับชีวิตช่วงนี้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเข้มแข็งขึ้นเพื่อกักขังหรือพันธนาการตนเอง แค่เรารู้สึกถึงมันได้ก็พอแล้วและพยายามใช้ชีวิตข้างหน้าต่อไปอย่างคนในยุคโบราณ ลองมืดบอดดูบ้าง หูหนวกดูบ้าง ทำอะไรไม่ได้บ้าง นอกเสียจากมือกับสติที่เข้ามาช่วยเหลือ มันอาจจะมีความรู้สึกคล้ายครึงกับความเปราะบางแต่ก็ต้องไม่ใช่ความอ่อนแอดังคนในโลกปัจจุบันมา เชื่อผมเถอะว่าวิถีเช่นนี้มันไม่ต้องการความทะนุถนอมเพราะเกรงจะแตกหักง่ายแต่ให้เหล่าอารมณ์คิดเช่นนี้กลายเป็น "ความงดงาม" เสียเถอะ ผมสามารถมองเห็นได้จากแววตาของคุณ อย่าลืมที่จะให้โอกาสหัวใจตัวเองด้วยนะครับ
5/9/54
จากนาย คณาภรณ์ ธนูธรรมเจริญ
ไม่มีความเห็น