ได้ฟัง น.พ.ยงยุทธ
วงศ์ภิรมย์ศานติ์
บรรยายเรื่องสมองกับการเรียนรู้
ในการอบรมเชิงปฎิบัติการพัฒนาการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสมองของเด็กปฐมวัย
ซึ่งมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจ จึงขอเก็บมาเล่าต่อ…
สมองของคนเรามี 2
ส่วนคือ
1.สมองส่วนคิด มี 80 % จะเกี่ยวข้องกับ
IQ (ความรู้/ความเก่ง) และ EQ (คุณธรรม/ความดี) ซึ่ง EQ
จะควบคุมสมองส่วนอยาก
2.สมองส่วนอยาก มี 20%
เป็นสมองที่เกี่ยวกับความต้องการ/สัญชาตญาณ
ถ้าสมองส่วนคิด (EQ) ควบคุมไม่อยู่
ก็จะเตลิดเปิดเปิงไปตามความอยากของสมองส่วนที่ 2 นี้ได้
สมองของคนมีเซลล์หนึ่งแสนล้านเซลล์
มีใยประสาทเชื่อมโยงกัน สมองส่วนที่มีการจัดระเบียบ
ใยประสาทจะเชื่อมโยงกัน
ใยประสาทส่วนไหนใช้บ่อยจะหนาตัวขึ้น หากไม่ใช้ก็จะหายไป
สมองจะเติบโตมากที่สุดช่วง 0-6
ปี หลังจากนั้นการเจริญเติบโตจะลดลง
แต่มีการจัดระเบียบใยประสาทมากขึ้น สมองจะเติบโตไปจนถึงอายุ 25
ปี ซึ่งแต่ละช่วงอายุจะเติบโตต่างกัน สมองแบ่งเป็น
ซีกซ้าย(ภาษา คณิต เหตุผล) กับซีกขวา (ดนตรี
ศิลป มิติสัมพันธ์ )
พ่อแม่คนไทยจะเป็นโรค 2 โรค คือ
1.โรคใจอ่อน ชอบตามใจลูก
สอนลูกผิดๆ เช่นเวลาลูกร้องไห้ ลงไปนอนดิ้น
ก็จะเข้าไปอุ้มไปโอ๋
ทำให้เด็กเรียนรู้ถึงพฤติกรรมที่ได้รับการตอบสนอง
ก็จะทำบ่อยๆ ไม่เหมือนพ่อแม่ฝรั่งที่เขาใจแข็ง
2.โรคผีเข้าผีออก อารมณ์ไม่คงที่
ทำให้เด็กสับสน
พัฒนาการทางสมองของเด็ก
จึงสอดคล้องกับคำกล่าวของคนโบราณที่บอกว่า
วัยเด็กเหมือนกับผ้าขาวที่จะซึมซับสีต่างๆได้เร็วมาก
ถ้าจะใส่สีอะไรลงไปก็ติดทนยาวนาน
ดังนั้นการจัดการเรียนรู้ให้แก่เด็กปฐมวัยจึงต้องเข้าใจหลักจิตวิทยาพัฒนาการ
และการเติบโตทางสมองด้วย
สมองกับการเรียนรู้ จิตวิทยาการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กปฐมวัยครูก็รู้ แต่ทำไมการจัดการเรียนการสอนเด็กปฐมวัยจึงไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
จะเป็นที่ตัวครูผู้สอน ผู้บริหาร หรือผู้ปกครอง (คงไม่ใช่ตัวเด็ก)