มะกอกน้ำ ที่งอก และโฉนดเก่า
๑ กันยายน ๒๕๕๔ . สามวันที่ผ่านมานี้น้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ น้ำในแม่น้ำไหลแรงพัดกอสวะ ผักตบชวา กอมหึมาลอยมาเป็นระยะๆ ญาติและเพื่อนพ้องน้องพี่พากันเป็นห่วงถามไถ่ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ภาวะน้ำมาก น้ำหลาก น้ำท่วมเห็นทีจะมาถี่และมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้นตามเหตุปัจจัยแห่งการเกิดภาวะโลกร้อนด้วยมลพิษและ การรุกล้ำทำลายป่า หากคิดจะมีชีวิตอยู่ริมน้ำต่อไปก็จะต้องใช้สติและปัญญามากขึ้น
- มะกอกน้ำ ริมตลิ่งยืนอยู่ในน้ำมาเป็นเวลานาน แต่ก็ยังยืนยง
แถมช่วงนี้มีลูกมากมาย คงชอบน้ำ ยินดีปรีดาที่น้ำมาก ช่วงที่เขาออกดอก ดอกก็สวยงามเหมือนดอกของ ต้นไคร้น้ำ จากนั้นดอกก็กลายเป็นลูกผอมๆเรียวแหลม พอแก่ก็ดูมน กลมเกลี้ยงไปทั้งลูก คนงานชอบเก็บและกัดกินแบบสดๆเลย ผู้เขียนเคยลอง มะกอกน้ำสดๆนั้นทั้งเปรี้ยวและฝาดค่ะแต่เจ้ากระรอกคงชอบ
- ที่งอก การที่มี หน้าน้ำ มานานก่อนที่ผู้เขียนจะเกิดและมาอยู่ที่นี่เสียอีก ทำให้ผู้เขียนมาปลูกบ้าน ครองเรือนอยู่ที่ตรงนี้ได้ เพราะบ้านที่อยู่นั้นอยู่บนที่ดินที่งอกจากการที่แม่น้ำพัดพาตะกอนดินมากมายมาทับถมไม่รู้กี่สิบปี อาจจะราวร้อยปีเสียละมังคะ เรียกที่ดินงอกริมตลิ่งนี้ว่า ที่งอก และมีกฎหมายคุ้มครองกรรมสิทธิ์ การใช้ประโยชน์เป็นเรื่องเป็นราวค่ะ
ป.พ.พ. มาตรา 1038 บัญญัติว่าที่ดินแปลงใดเกิดที่งอกริมตลิ่ง ที่งอกย่อม
เป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น
จากบทบัญญัติดังกล่าวบัญญัติให้เจ้าของที่ดินที่มีงอกริมตลิ่งเกิดขึ้นเป็น
เจ้าของที่งอกด้วย คำว่าเจ้าของนี้มิได้บัญญัติว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิ
ครอบครองดังนั้นจึงรวมถึงผู้มีสิทธิครอบครองด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2346/2523 ผู้ซึ่งมีสิทธิครอบครองที่ดินตาม
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ของที่ดินแปลงใด ย่อมมีสิทธิครอบครองที่งอกริมตลิ่งของที่ดินแปลงนั้นด้วย
...หลักประการสำคัญที่จะเกิดที่งอกริมตลิ่งได้นั้น ประกอบด้วยเงื่อนไขสำคัญดังนี้
1. จะต้องมีริมตลิ่ง กล่าวคือ ที่ดินที่เกิดที่งอกริมตลิ่งได้นั้นจะต้องมีส่วนใด
ส่วนหนึ่งอยู่ติดกับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นหนอง คลอง บึง แม่น้ำ ทะเล ทะเลสาบ
2. ที่งอกนั้นจะต้องเกิดขึ้นตามธรรมชาติ มิใช่เกิดจากการกระทำของมนุษย์
(ที่มา http://www.netithai.com/index.php?topic=473.0;wap2)
ด้วยเหตุที่เป็นที่งอก มีการทับถมของตะกอนดิน ที่ดินที่ท่าน้ำจึงมีความอุดมสมบูรณ์ ปลูกอะไรก็งอกงามดีค่ะ
ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เราทำการปรับบ้านเพื่อการมีชีวิตที่จะมีความสุขมากเป็นพิเศษยามน้ำหลาก ด้วยการวางแผนสร้างห้องทานข้าวและห้องครัวให้อยู่ชั้นบนหมด แต่ก็ยังไม่เสร็จ
ภาพนี้ถ่ายจากพื้นบริเวณที่จะเป็นห้องครัวใหม่(ในอนาคตอันใกล้) มองเห็นโค้งน้ำด้านวัดแคอรัญญิก ปกติน้ำจะอยู่นอกแนวต้นไม้ด้านนอก ตอนนี้น้ำไต่ระดับเข้ามาเรื่อยๆ
- โฉนดเก่า หลายปีมาแล้วตอนที่เขามีการสำรวจที่ดินเพื่อขอยื่นรังวัด ออกโฉนด เราได้ไปติดต่อที่ที่ดินอำเภอท่าเรือ เอาโฉนดที่ดินอีกแปลงที่อยู่ลึกเข้าไปเพื่อขอจดโฉนดแบ่งแยกและเพิ่มที่งอกที่เราตั้งบ้านเรือนอยู่ (โฉนดเดิมเก่ามากๆปัจจุบันเขาออกใบใหม่มาให้แล้ว)
ปรากฏว่าออกโฉนดที่งอกไม่ได้ และที่ดินมีโฉนดที่เราถือครองอยู่ถัดจากที่งอกเข้าไปในแผ่นดิน ก็ไม่มีพิกัดที่งอกอยู่ พูดง่ายๆว่า หากดูจากเอกสารที่ดินเดิม บ้านเราอยู่ในน้ำนั่นเอง ผู้เขียนก็เพิ่งมาประจักษ์ข้อเท็จจริงครั้งนั้นเอง และไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร ที่จริงรู้สึกพิเศษที่มีโอกาสอยู่บนที่ดินที่เชื่อมต่อยุคสมัย เราก็อยู่แค่ตาย ไม่ได้คิดจะเอาไปทำนิติกรรม หรือ ไปขายต่อทำกำไร แค่ได้มาอยู่มีความสุขบนที่ดินงอกผืนนี้ก็มีความสุข สงบเย็นดีค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะในความห่วงใยจากทุกท่าน และยืนยันว่ายังอยู่ดีมีสุขพอประมาณ ทุกข์ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามระดับน้ำ ขอให้ทุกท่านมีความสุขเช่นกันนะคะ
ความเห็น (18)
*ยินดีด้วยนะคะที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างอุดมสมบูรณ์..ภาพมะกอกน้ำและกระรอกน่ารักมากค่ะ..สบายใจที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วมค่ะ..
*ส่งเมนูน้ำพริกปลาทู (จากครัวน้องสาว)และเครื่องจิ้ม (จากสวนผักในบ้านพี่ใหญ่) มาฝากค่ะ..มียอดมะระขี้นก..เมล็ดพันธุ์ น้อง ดร.ขจิต..
...สวัสดีค่ะ..คุณนุช..."น้ำขึ้นปลากินมด..พอน้ำลด..เรามา..จับปลา.กินกัน..นะคะ.."...ลุยโคลนเล่น..คงสนุกดี..(แต่ยายธี..จนป่านนี้..ยังว่ายน้ำไม่เป็นเจ้าค่ะ..เกิดใน ป่า..แต่ไป..โตในเมือง..เลยทำอะไรไม่เป็นซักกะอย่าง..อิอิ)...อยากจะให้คุณดุลทำเรือนแพให้..ซักหลังได้ไหมเอ่ย...เรือนไม้สัก..ถอดได้..ทั้งหลัง..สมัย.อยุธยารุ่งเรือง..ยังมีให้เห็นไหมเนอะ...คุณนุช(หาข้อมูลให้หน่อยซิเจ้าคะ)..เรือนแพคงไม่ต้องใช้โฉนด.เนอะ..(ยายธีแอบคิด).....
- พี่นุชเจ้า..
-
กำลังจะเตรียมตัวกลับบ้านค่ะ เพราะ "ไม่ไหวแล้ว" กับอาการทั้งหลายที่ดูเหมือนจะไม่บรรเทา แต่กลับเพิ่มทวีขึ้นมา จนต้อมรู้สึกปวดแสบปวดร้อนไปหมดทั้งตัว
แต่ก็ยังอยากตามเข้ามาอ่านบันทึกของพี่นุชอยู่ตามลิงค์ที่กรุณาให้มา แล้วก็....ได้ความรู้ "เรื่องที่งอก" อีกต่างหาก
โอย..ย..ย เจ้ากระรอกสีขาวแซมเทาตัวนั้นน่ารักจังค่ะ และต้อมไม่เคยเห็นต้นมะกอกน้ำ แต่เมื่อวาน..ตอนแวะซื้อกับข้าวที่ปากซอย เขาจะมีมะกอกน้ำวางบนโต๊ะสำหรับให้คนที่มาซื้อเหล้าทานเป็นกับแกล้ม ด้วยความที่ต้อมไม่เคยได้ลิ้มรสมานาน จึงหยิบมาหนึ่งลูกและเล็มๆ ชิม รสชาติฝาดๆ เปรี้ยวๆ ดีค่ะ
- พี่นุชครับ
- กำลังลุ้นอยู่ว่าบ้านพี่น้ำจะท่วมไหม
- ดีจังเลยที่ปีนี้ท่วมไม่มาก
- เคยคุยกับน้องสามารถ
- บล็อกเกอร์เราใน gotoknow
- ที่เป็นนักวิชาการของมหาวิทยาลัย
- เรื่องมะกอกน้ำ
- คาดว่าเป็นต้นไม้ที่น่าปลูกแถวๆใกล้ที่น้ำท่วมแบบท่าเรือ บางบาลนะครับ
มีกระรอกวิ่งเล่นให้ดูด้วย เพลินเชียว
แต่ว่าน้ำจะมากกว่าเดิมไหมครับ
กลัวกระรอกไม่มีที่วิ่งเล่นนะครับ อิอิ
ดีจริงๆที่ดินงอก...กำแพงดินตามธรรมชาติ...
ปลูกบ้านเรือนได้ปลอดภัยสบายใจว่าที่ดินและบ้านเราจะไม่โดนน้ำเซาะค่ะ
เป็นกำไรที่ธรรมชาติมอบให้แก่ผู้ครอบครองค่ะ....^^
ส่งใจให้พี่นุชและท่านอาจารย์ สุขกายสุขใจ ในทุกวันคืนค่ะ
สวัสดีพี่นุชเจ้า
ดูข่าวน้ำท่วมเสนาฯแล้ว กำลังนึกไปว่า เอ บ้านริมน้ำ ป่าสักพี่นุช จะเป็นไงบ้างหนา
ฝนตกทั่วฟ้าแดนไทย จริงๆเลยคะปีนี้ ส่งกำลังใจ งานซ่อมแซมบ้านแล้วเสร็จยังคะพี่
ขอบคุณบันทึกงามๆ ของธรรมชาติ ชอบเจ้ากระรอกน้อย
ฝนพรำพราย ส่งความคิดถึง ไปนะคะ
สวัสดีค่ะพี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ เมนูอาหารสุขภาพแสนอร่อยจากพี่ใหญ่นี่ทำให้หิวข้าว ใกล้เที่ยงแล้ว เที่ยงนี้ก็จะทานคล้ายๆกันอย่างนี้ค่ะ เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จะเอาน้ำพริกแสนอร่อยที่พี่น้อยตำไว้อยู่ในตู้เย็นมาผัดกับข้าวเย็น เป็นข้าวผัดน้ำพริกปลาทูและมีดอกโสนแกล้มค่ะ
กระรอกที่บ้านหลายตัวมากค่ะ มีความสุขที่ได้ดูเขาเพลิดเพลินกับการไต่ไปมาและได้อาหารจากต้นไม้ของเราด้วยค่ะ มะกอกน้ำที่แก่จัดร่วงลงน้ำเยอะเลยค่ะ
ขอบพระคุณพี่ใหญ่ที่เป็นห่วง น้ำเริ่มลดลงเล็กน้อยตั้งแต่เมื่อวาน สงสารคนอีกมากมายที่น้ำท่วมมาเป็นเดือน หมดที่ทำกินนะคะ
คุณยายธี โรแมนติคจังชอบเรือนแพ นุชก็ว่ามันดีนะคะ เรือนแพเก่าแบบอยุธยาน่ารักมากเคยเห็นค่ะ คุณยายธีมาทำไว้นอนเล่นสักหลังที่ท่าน้ำบ้านนุชมั้ยล่ะคะ จะส่งอาหารให้ทุกมื้อที่มาอยู่
เรือนแพไม่ต้องมีโฉนดค่ะ เอาล่องไปไว้ตรงไหนก็ได้ พูดแล้วนึกถึงพวกบ้านเรือในคลองที่อัมสเตอร์ดัม น่าอยู่มาก สะดวกสบายค่ะ
ได้ทราบเรื่องคุณต้อมเนปาลีแพ้อาหารทะเลอาการรุนแรง ไม่ใช่น้อยๆเลยนะคะ สงสารจัง ป่านนี้คงหายดีแล้วเพื่อสารที่ก่ออาการแพ้ถูกขับออกจากร่างกายไปเรื่อยๆ ต้องระวังมากๆเลยเวลาทานอาหารนอกบ้านที่เราอาจไม่ทราบส่วนผสมที่ใส่มานะคะ
ขอบคุณที่อุตส่าห์ทนความเจ็บปวดมาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
ขอให้มีวันหยุดวันนี้เป็นอาทิตย์หรรษาสำหรับคุณต้อมนะคะ
สภาวะของโลกปัจจุบันทำให้เราจะมามีชีวิตทำตัวแบบเดิมๆไม่ได้แล้วล่ะค่ะอาจารย์ขจิต ฝอยทอง จะสู้กับธรรมชาติอย่างไรก็ไม่มีทางชนะ แต่เราต้องรู้จักอยู่อย่างเข้าใจ ปรับตัว ปรับวิถีชีวิต เรื่องใหญ่ๆก็คือ นอกจากช่วยกันลดภาวะโลกร้อนแล้ว การปลูกบ้านก็ต้องมีการออกแบบ การปลูกพืชก็ต้องคิดให้มากๆ ฟื้นฟู หรือ พัฒนาพืชที่ทนน้ำมาปลูกแล้วสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ พืชพวกมะกอกน้ำเป็นภูมิปัญญาไทยที่บรรพบุรุษเข้าใจภูมิศาสตร์ที่ดำรงชีวิตอยู่อย่างยิ่งค่ะ
ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ เดี๋ยวให้ซ่อมบ้านเสร็จพี่ได้รบกวนอาจารย์อีกแน่เลย
ขอบพระคุณอาจารย์โสภณ เปียสนิทค่ะ น้ำตอนนี้มีทีท่าว่าลดลงเล็กน้อยค่ะ
กระรอกต้องดีใจที่อาจารย์เป็นห่วง ^____^ เขาไม่ต้องลงพื้นดินเลยค่ะ กระโดด ไต่ไปมาจากต้นไม้ต้นนี้ไปต้นโน้น สลับวิ่งบนหลังคา ดังนั้นจึงมีที่วิ่งเล่นเยอะอยู่ค่ะ
ขอบคุณคุณแจ๋วค่ะ
เรื่องที่งอกนี้น่าสนใจมากสำหรับพี่ เพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ปลูกบ้านในที่งอก ที่จริงแรกเริ่มที่มาอยู่ เราซื้อกรรมสิทธิ์ที่งอกจากชาวบ้านที่ครองสิทธิ์อยู่ ใครๆก็งงๆว่าทำไมเรากล้าปลูกบ้านในที่งอกซึ่งจะเอาไปขายก็ยาก เอาไปจำนองจำนำธนาครก็ไม่ได้ เราบอกว่าก็ปลูกเพื่ออยู่ให้มีความสุข ไม่ได้คิดมาซื้อเพื่อทำกำไร ต่อมาเราจึงได้ซื้อที่มีโฉนดที่อยู่ลึกเข้าไป เพื่อคุ้มครองที่งอกอีกชั้นหนึ่งค่ะ
ปีนี้ฝนตกมากแทบทุกที่จริงๆคะน้องปูจ๋าPoo ขอบคุณน้องที่เป็นห่วงและส่งใจมา บ้านพี่ทำไปเรื่อยๆเสร็จทุกวัน คือเสร็จเท่าที่เห็น ไม่เป็นปัญหาค่ะ เพราะอย่างไรก็ปลอดภัย ธรรมชาติรอบตัวก็งามล้นเหลือค่ะ ^____^
แวะมาทักทายอาจารย์ครับ อาจารย์ยังจำผมได้ไหมครับ บ้านยายผมที่เสนาก็ต้องขายไปแล้ว เพราะอุปสรรคน้ำท่วมครับ ส่งความสุขความปลอดภัยแด่อาจารย์ในช่วงน้ำท่วมครับผม
สวัสดีครับ พี่นุช...
ดูบันทึกนี้แล้ว ยิ่งมั่นใจตัวเองว่า วันอาทิตย์นี้จะกลับไปขนปุ๋ยคอกใส่ต้นไม้ที่ปลูกไว้ที่ทุ่งนา ฝนลงมาหลายช่วง ต้นไม้คงแตกกิ่งก้านมากขึ้นแล้ว...
สุขภาพแข็งแรงๆ...นะครับ
จำDr. Popได้อยู่แล้วค่ะ ^___^ ขอบคุณที่มาทักทายนะคะ พี่ก็ยังอยู่ที่เดิม เราก็พยายามปรับตัว ปรับใจ ปรับที่อยู่อาศัยและวิถีชีวิต ให้เป็นสุขได้ทุกฤดูกาลค่ะ การอยู่บ้านริมน้ำสมัยนี้ต้องปรับบ้าน ปรับใจกันเยอะมากค่ะ เพราะธรรมชาติสะท้อนกลับความผิดปกติที่มนุษย์กระทำต่อธรรมชาตินั่นเอง
ดีจังค่ะอาจารย์แผ่นดิน ยังจำภาพที่ได้ชมครอบครัวอาจารย์ช่วยกันทำงานอยู่กับธรรมชาติ
หน้าฝนชุ่มฉ่ำดี บางช่วงตกสองวันสองคืนไม่หยุดค่ะ