ความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นนั้นหากเรามองให้ลึกๆลงไปแล้วมันเกิดจากจิตที่เป็นอกุศล จะด้วยอำนาจกิเลศตัวไหนก็แล้วแต่ เพราะมันไปสู่อคติที่ฝังรากหยั่งลึกลงไปในจิตของมนุษย์เรา แล้วอวิชชาก็พอกพูนขึ้น บางคนอาจงงว่าทำไมอกุศลจิตทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำได้ ถ้าเราตั้งสติตริตรองพิจารณาให้ดีแล้ว ไม่ใช่มนุษย์หรอกหรือที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ แล้วอะไรเล่าทำให้มนุษย์สร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้น ตามความเข้าใจแล้วความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นเพราะมีสิ่งสองสิ่งให้เปรียบเทียบ ดุจดังเหรียญที่มีสองด้าน เช่น ดีกับไม่ดี รวยกับจน หล่อกับขี้เหร่ มีโอกาสกับไม่มีโอกาส มีการศึกษากับขาดการศึกษา เหล่านี้เป็นต้น ถ้าเรามองลึกลงไปในสังคมไทย เรามักจะพูดเสมอว่าสังคมของเรามีความเหลื่อมล้ำฯลฯ
ในที่นี้ขอเสนอวิธีการลดความเหลื่อมล้ำที่ต้นเหตุ
1. ฝึกฝนปัญญาของตนให้มีสัมมาทิฎฐิ คือให้เข้าใจว่าทุกคนในโลกหล้าล้วนพี่น้องร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ประโยชน์อะไรที่เราจะเอารัดเอาเปรียบกัน, ให้เข้าใจว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน หากส่วนอื่นที่ไม่ใช่ส่วนเราขาดโอกาสก็จะส่งผลกระทบกับเราด้วย,ให้มองทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของสังของเราฯลฯ(ให้เข้าใจสิ่งต่างๆเป็นปฏิจจสมุปบาทหรืออิทัปปัจจยตา)
2. ให้ระลึกถึงมรณานุสติเสมอ ให้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่ยั่งยื่น ให้ลดตัวตนของตนบ้าง ให้นึกถึงวาจาอมตะนี้"เกิดมาทั้งทีเอาดีให้ได้ จะตายทั้งทีฝากดีเอาไว้"ฯลฯ
นมัสการ ได้สติกลับคืนมา เราทุกคนทุกท่านต่างเวียนว่ายตายเกิด และตายอยู่ทุกขณะจิต การลดความเหลี่อมล้ำในสังคม
ก็คือลดที่ตัวเราเอง ลดความเหลื่อมล้ำในตัวเอง กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าเป็นอย่างสูง
นมัสการ ครับ
ผมเพิ่งนำใบงานหมายเลข ๔ ขึ้นเว็บนะครับ
จึงอยากให้ขอให้ท่านเข้าไปอ่านแนวปฏิบัติอีกครั้งหนึ่งครับ
เพื่อท่านจะได้ปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ;)...
กราบนมัสการ กระผมเคยอ่านบทความตอนหนึ่งของท่านพุทธทาสภิกขุ ที่ว่าการศึกษาที่ไม่ทำให้คนมีศีลธรรมนั้น ไม่ใช่การศึกษา ...แผนการศึกษาของโลกสมัยนี้ ไม่มีการทำให้เด็ก ๆ รู้ว่าเกิดมาทำไม? เมื่อคนเราไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม? มันก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน จะไปได้อะไรอันเป็นสิ่งสูงสุด น่าจะลดความเหลื่อมลําในแง่ความคิดของท่านได้นะครับ