491 โครงการสวดมนต์แผ่พลังเมตตาให้โลก...ขอเริ่มรณรงค์


พลังบวกเพื่อเราเอง

 

 

จากบันทึกนี้ http://www.gotoknow.org/blog/poldejw/453242 ผมคิดต่อเรื่องการสร้างพลังบวกเพื่อให้เกิดแรงต้านกับพลังลบ ซึ่งพลังลบนี้ เกิดขึ้นแล้ว ในหลายประเทศ และยังมีพลังส่งต่อไปอีกยังไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อใด ดังนั้นเพื่อให้เกิดแรงต้าน จึงต้องมีการสร้างพลังบวกขึ้นมา ซึ่งวิการนี้ ก็เป็นกฏธรรมชาตินั่นเอง สมดุลย์ เราช่วยธรรมชาติได้ ซึ่งก็เท่ากับเราช่วยมนุษย์เราเอง

ทุกวันนี้ มนุษย์เราก็ใช้สัญชาติญานนี้เอาตัวรอดอยู่แล้ว เช่นไฟใหม้ ก็ช่วยกันดับ คลื่นยักษ์มา ก็สร้างสิ่งป้องกันและเตือนภัย..........ก็ทำนองเดียวกัน สัญญานสติของคนในสังคมโลกตกต่ำมาก จนเกิดระเบิดในหลายประเทศ ก็เป็นภัยที่เข้ามาแล้ว สมควรที่เราจะช่วยกันสร้างสิ่งป้องกัน ในเรื่องนี้คือพลังบวก แผ่เมตตา ให้เกิดพลังเย็นไปคลายร้อนที่เกิดขึ้นในจิตคนในโลก

ก็อยากฝากรัฐบาลใหม่ครับ เป็นโอกาสแล้วที่จะแสดงให้ชาวโลก สังคมโลกเห็นว่าประเทศไทยมีของดี สามารถนำมาใช้ในการช่วยโลกได้ ในฐานะที่ประเทศไทยเป้นพุทธที่เข้มแข็งที่สุดในโลก(จากการที่องค์การสหประชาชาติได้ไว้วางใจให้ประเทศไทยจัดงานวิสาขบูชาโลกทุกปีมานานหลายปีแล้ว...) อีกทั้ง ณ มุมหนึ่งของโลก พระสงฆ์ไทยองค์หนึ่ง(พระอาจารย์อารยะวังโส แห่งลำพูนก็ได้จัดงานมาฆบูชาโลกขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้วที่เวฬุวันมหาวิหาร อินเดีย ......ในส่วนของพระอาจารย์อารยะวังโสนั้น ได้เล้งเห็นภัยที่กำลังเกิดขึ้นจึงได้จัดสวดมนต์พระปริตรที่วัดพระแก้วเดือนละ 1 ครั้งมานานกว่า 30 ครั้งแล้ว สิ่งนี้ช่วยโลกได้แน่นอน

จึงอยากจะให้มีการสวดมนต์โดยพระสงฆ์ ชาวพุทธไทยและชาวพูทธทั่วโลก ผ่านมหาจุฬาฯ ทางวัดยานนาวา ก็มีศูนย์พระสงฆ์นักเผยแพร่พุทธศาสนา  มีโทรทัศน์พระพุทธศาสนา....เหล่านี้ ช่วยกันจัดงานสวดดังกล่าว โดยให้แจ้งองค์การสหประชาชาติด้วยว่าประเทศไทยกำลังทำอะไรอยู่

เราชาวพุทธทราบดีว่า พลังแผ่เมตตานั้นมีผลมากอย่างไร เพราะชาวพุทธไทยนั้นทำบุญเก่ง แผ่เมตตามาก จึงมีสิ่งนี้คุ้มกันอยู่มาจนทุกวันนี้ แต่ถ้าไม่ป้องกัน ไม่เตรียมพร้อม วันหนึ่งก็จะทานไม่อยู่เช่นกัน

จึงขอเชิญชวนชาวโกทูโนทั้งหลายครับ ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ช่วยโลก โดยเการแผ่เมตตาจากตัวเองก่อน ให้ชาวโลกเท่าที่จะทำได้

ชว่ยกันต่อยอด แลกเปลี่ยนความเห็นว่าจะทำอย่างไรให้ชาวโลกได้รับพลังเมตตาดังกล่าว ช่วยกันเสนอแนะ สนับสนุน ผลักดันให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ผมมั่นใจว่าพลังที่จะสร้างกันนี้ ไม่สูญเปล่า

ที่สำคัญ ในวโรกาสที่เป็นมหามงคลสมัย 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เราสมควรที่จะเทอดพระเกียรติและร่วมใจสร้างกุศลถวายพระองค์ท่าน ซึ่งก็ทำกันแล้ว การสวดมนต์เพื่อโลกนี้ ก็สามารถเป็นสิ่งหนึ่งที่เราจะทำเพื่อพระองค์ได้.....ผมเริ่มทำแล้ว ของผมเองก่อนนอน นั่งสมาธิเพื่อการนี้ และจะทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึง 5 ธันวาคม

จริงๆ แล้ว หากโลกเป็นสิ่งมีชีวิต ก็เป็นทั้งพ่อและแม่ของเราชาวประชาโลกที่อาศัยอยู่นะครับ ดังนั้นการทำเพื่อโลกก็เหมือนทำเพื่อพ่อเพื่อแม่ ผู้มีพระคุณเหมือนกัน....ฝากด้วยนะครับ

เจริญสุขครับ 

หมายเลขบันทึก: 453626เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2011 10:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 11:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

Ico24 Poo 

เชิญร่วมกันแผ่เมตตาครับ วันละนิดวันละหน่อย ใครทำใครได้ครับ

 Ico24 แพรภัทร

น้องโยคี ร่วมบุญกัน ทำเท่าที่จะทำได้ แค่ไหนแค่นั้น ถ้าจำคำที่ว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว....เราทำสมาธิแผ่เมตตา ก็สะเทือนถึงโลกได้

ขอบคุณทั้งคู่ที่แวะมาให้กำลังใจกันครับ 

เหตุการณ์ในอังกฤษนั้น สะเทือนกระตุกให้คิดถึงศีลธรรมของมนุษย์ จริงๆคะ

การเบียดเบียนคนอื่น กลายเป็นความ "สนุก"

เขาหล่านั้น ขาดเมตตา..ความมีเมตตา จึงน่าเป็นสิ่งป้องกันเหตุร้ายได้

รบกวนถามความหมายภาพเขียคะ ดอกบัวขึ้นกลางดิน และมีเลือด หมายถึงอะไรคะ

Ico48

คุณหมอ

ผมวาดภาพนี้ด้วยความรู้สึกปลงธรรมสังเวช ในช่วงที่พุทธศาสนาเกิดข่าวไม่ค่อยดี ทั้งพระที่ไม่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหรือชาวพุทธที่แฝงเข้ามาหากินกัยพุทธศาสนา รวมทั้งประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่นับถือพุทธศาสนาแต่ชาวพุทธกลับประพฤติที่สวนทางกับศีล 5 ทั้งนั้น

เห็นไกลลิบคือเจดีย์ที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย ที่กว้างใหญ่ มีแต่ทราย เม็ดทรายนับไม่ถ้วน ตามธรรมชาติของทะเลทราย ก็แปรรูปไปตามกระแสลม พายุที่พัดใส่

เจดีย์นั้นคือพุทธศาสนาครับ สำหรับผมหากมีเจดีย์ ก็มีวัด มีพระ มีอุบาสก อุบาสิกา แต่เจดีย์อยู่ท่ามกลางทะเลทราย เพราะอะไร ก็คงพอจะเดากันได้นะครับ

ดอกบัวนั้น ผมหมายถึงพุทธศาสนาในแง่ของการปฏิบัติ คือความหลุดพ้น ความรู้แจ้งซึ่งเกิดมาจากแดนพุทธภูมิ ใบโพธิ์จึงมีอยู่ในก้านบัวด้วย  เพราะถ้าไม่มีโพธิ์เป็นฐาน ก็คงไม่มีดอกบัว

ใบโพธิ์ที่แห้งแต่ยังอยู่นั้นเหมือนเปรียบเสมือนสังเวชนียสถานที่ยังคงมีอยู่ให้เราเห็น และที่เห็นโผล่แทรกขึ้นมาจากทรายไม่ใกล้นั้น ผมจะบอกว่า แม้จะอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความหวังที่สิ่งดีงามจะเกิดขึ้นใหม่ได้เสมอ ยังจะมีการหลุดพ้นอยู่เสมอ

ดอกบัวที่มีหยดเลือดนั้น ก็จากการที่มีคนทำลายพุทธศาสนา ทำลายธรรมะของพุทธศาสนา ซึ่งก็พวกเราเองนั่นแหละครับ ชาวพุทธที่ทำลายกันเอง ทั้งพระที่มิได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชาวพุทธที่หลงงมงาย ไม่ปฏิบัติธรรมที่ควรปฏิบัติ แต่หากินกับพุทธศาสนา ข่าวการแฝงตัวของคนในคราบพุทธศาสนาเกิดขึ้นทุกระยะๆ ทำลายศรัทธาของชาวพุทธมากเหลือเกิน ผมจึงสะท้อนด้วยการบาดเจ็บ หลั่งเลือดของดอกบัว ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ก็คงไปไม่รอด

หากชาวพุทธช่วยกัน ดอกบัวก็สามารถจะบานได้ครับ ด้วยการปฏิบัติตามที่พระพทุธองค์ทรงสั่งสอนเอาไว้

หัวใจพุทธศาสนามีเพียง 3 ข้อที่เราทุกคนปฏิบัติได้ คือ ละการทำชั่ว ทำแต่ความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส

ก็เหมือนจะบอกว่าในภาพที่ผมวาด หยุดทำร้ายดอกบัว ดูแลดอกบัวด้วยการปฏิบัติ และทำดอกบัวให้บาน

อย่างไรก็ดี ภาพศิลป์นี้ดีตรงที่ว่า ผู้ดูไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกและความเห็นเหมือนผู้วาดครับ  ซึ่งผมก็คิดว่าดีเพราะทุกคนต่างมีเสรีที่จะจินตนาการตามแต่จะคิดครับ

เจริญสุขนะครับ

 

และที่เห็นโผล่แทรกขึ้นมาจากทรายไม่ใกล้นั้น ผมจะบอกว่า แม้จะอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความหวังที่สิ่งดีงามจะเกิดขึ้นใหม่ได้เสมอ ยังจะมีการหลุดพ้นอยู่เสมอ

ขอบคุณสำหรับคำอธิบายอย่างละเอียดคะ รวมทั้งขอมีความหวังด้วยคน

เริ่มแผ่เมตตาก่อนนอนให้โลกตั้งแต่คืนวันที่ 13 สค.เพื่อให้โลกลดความร้อนลง

วันก่อนดูรายการโทรทัศน์ทีจีเอน มีเรื่องของร้านอาหารมังสะวิรัตที่ชื่อว่า Loving Hut ที่มีแนวทางเชิญชวนทานอาหารมังสะวิรัตเพิ่อลดความร้อนของโลก น่าสนใจมากและคิดว่าน่าจะมีผลต่อโลกเช่นกัน

วันนี้พบกับคณะผู้พิการ ได้สนทนากันและได้แนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมโดยการแผ่เมตตา ว่าจะเป็นการสร้างพลังบวก ช่วยคลายโลกร้อนได้ ที่สำคัญ คิดว่าในแง่ของการปฏิบัติธรรม ผู้พิการที่มิได้พิการทางสมองหรือพิการโดยอุบัติเหตุหรือที่มิได้พิการมาโดยกำเนิด คนเหล่านี้ สามารถจะปฏิบัติธรรมได้เท่ากับคนปรกติ

ได้เชิญชวนให้ผู้พิการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง เพราะนอกจากจะพัฒนาจิตตนเองแล้ว ยังจะสามารถช่วยคนอื่นและช่วยโลกได้เช่นกัน

ในส่วนตัว จะได้ศึกษาเรื่องการทานมังสะวิรัตเพื่อลดความร้อยของโลกด้วย

บันทึก ณ คืนวันที่ 16 สค. 2554

แผ่เมตตาให้โลก

บันทึก ณ คืนวันที่ 17 สค.2554

แผ่เมตตาให้โลก

บันทึก ณ วันที่ 18 สค.2554

แผ่เมตตาให้โลก

บันทึก ณ วันที่ 19 สค. 2554

แผ่เมตตาให้โลก

พร้อมด้วยไอเดียบุญให้กัลยาณมิตรคนพิการ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ แต่อยากทำ

บันทึก ณ วันที่ 20 สค. 2554

แผ่เมตตาให้โลก

วาดภาพสีน้ำมันอีก 2 ภาพ เผื่อจะใช้ประโยชน์สำหรับทำกุศลในอนาคต

บันทึก ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2554

แผ่เมตตาให้โลก พรุ่งนี้จะมีหรือไม่(สำหรับตัวเอง) ไม่ทราบ แต่คืนนี้ขอแผ่เมตตาให้เช่นเคย

แต่งภาพสีน้ำมันจนพอใจและพอดี พุทธศิลป์อีก...เช่นเคย

บันทึก ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2554

แผ่เมตตาให้โลก

นำภาพ BudAura ขึ้นโกทูโน เป็นภาพสีน้ำมันภาพแรกหนึ่งในสามภาพที่วาดตั้งแต่เขียนบันทึกนี้ในวันที่ 13 สค. 2554  

หวังว่าในอนาคตคงจะใช้ประโยชน์จากภาพทั้งสามนี้เพื่อทำการกุศลอย่างใดอย่างหนึ่ง เท่าที่จะมีโอกาส

บันทึก ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2554

แผ่เมตตาให้โลก

พรุ่งนี้จะเดินทางไปพุทธคยา จะได้นำเรื่องมาเล่าสู่กันฟังต่อไป

ภาพที่สองจะนำขึ้นคืนนี้ หากมีเวลา

บันทึก ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2554

(จะแผ่เมตตาให้โลกจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2554)

 

แผ่เมตตาให้โลก ช่วงที่อยู่ที่พุทธคยา 2 คืน ได้ปลงธรรมสังเวชมากอีกครั้งหนึ่ง จากการเดินทางไปพุทธคยา เห็นสภาพของวิถีชีวิตของคนที่นั่น

แต่สิ่งที่ได้คือสติและปัญญา

บันทึก ณ วันที่ 28 สค. 2554

แผ่เมตตาให้โลก

ณ วันใหม่ วันเริ่มต้นการเดินทาง

สิ้นสุดการแผ่เมตตาให้โลก ตามที่ได้ตั้งใจไว้ทุกประการ

ปล.ได้กิ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา มา 1 กิ่ง นับเป็นบุญส่วนตัวมหาศาล

อนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท