ไร่เลื่อนลอย : ตราบาปของคนกะเหรี่ยง


แต่กระนั้นการตัดไม้ทำลายป่าที่ถูกสื่อผ่านการทำไร่เลื่อนลอย ของชนเผ่ากะเหรี่ยง ก็ยังเป็นตราบาปให้กะเหรี่ยงถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุกและทำลายป่าอยู่วันยันค่ำ

อ่านเรื่อง "กะเหรี่ยงกลิ้งหิน" ของ คุณอักขณิช  ศรีดารัตน์ http://www.gotoknow.org/blog/akkhanich/453460?refresh_cache=true  แล้วผู้เขียนอดไม่ได้ที่จะถ่ายทอดความรู้สึกอัดอั้นตันใจ ในฐานะที่เป็นกะเหรี่ยงแม้เนื้อหาในบันทึกจะเป็นบวก  เพราะคุณอักขณิช เขียนชื่นชมกะเหรี่ยงสองพ่อลูกไว้ได้อย่างน่าฟังยิ่งนัก  แต่ก็เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะเห็นเช่นนี้

 

เพราะที่ผ่านมาสังคมภายนอกยังมองภาพการทำไร่เลื่อนลอย (แท้จริงคือไร่หมุนเวียน ที่ทำขึ้นเพื่อปลูกข้าว และพืชผักนานา การหมุนเวียนจึงเป็นการพักเพื่อให้ดินได้ฟื้นตัว) ตามที่ วุฒิ  บุญเลิศ ได้อธิบายไว้ http://prachatai.com/journal/2011/08/36409 แต่กระนั้นการตัดไม้ทำลายป่าที่ถูกสื่อผ่านการทำไร่เลื่อนลอย ของชนเผ่ากะเหรี่ยง ก็ยังเป็นตราบาปให้กะเหรี่ยงถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุกและทำลายป่าอยู่วันยันค่ำ  ซึ่งความเป็นจริงการบุกรุกทำลายป่าในไทยส่วนใหญ่มีที่มาจากการเปิดสัมปทานป่าของรัฐบาลซึ่งเริ่มดำเนินการมานานแล้ว http://guru.sanook.com/encyclopedia/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%95/ 

 

ล่าสุดปฏิบัติการกวาดล้างชาวกะหร่าง (แท้คือกะเหรี่ยงนั่นเอง) ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจ่างที่ส่งผลให้เกิดโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่กับกองทัพบกไทย จากภาพที่ปรากฏตามสื่ออาจจะมองว่าเป็นความเลวร้ายที่ชาวกะเหรี่ยงเหล่านั้นบุกรุกและแผ้วถางป่า หากแต่เมื่อเทียบกับป่าที่หมดไปกับการสัมปทานของรัฐ และป่าที่ถูกบุกรุกโดยกลุ่มนายทุนแล้ว คงจะเทียบกันไม่ติด (เขียนเช่นนี้ใช่สนับสนุนให้มีการแผ้วถางป่า) เพราะด้วยปริมาณของไม้ กอรปกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการแผ้วถางแล้วยิ่งเทียบกันไม่ติด เพราะกลุ่มทุนจะใช้เลื่อยยนต์ในการตัด หากแต่ชาวกะเหรี่ยงใช้มีด - พร้า ในการแผ้วถาง

 

กับวันนี้แม้การสัมปทานป่าจะถูกปิดลง หลายองกรค์รณรงค์ให้อนุรักษ์ป่า เพิ่มการปลูกต้นไม้.. จนผ่านมาหลายสิบปี แต่เพียงเพราะการทำไร่เลื่อนลอยเพื่อปลูกข้าวไร่ และพืชพันธุ์นานาไว้เลี้ยงชีพ...กะเหรี่ยงตลอดจนพี่น้องชาวไทยภูเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ตามป่าเขา และบนยอดดอยสูง  ก็หนีไม่พ้นการยัดเยียดความเป็นเป็นแพะให้อยู่ดี  เหตุผลเพียงเพราะเขาเกิดและอาศัยผิดที่ผิดทาง และที่สำคัญวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของเขาไม่เหมือนชาวเมือง และชนพื้นราบเท่านั้นเอง....

 

เดินท่องมองดินฟ้ากว้าง
เวิ้งว้างนทีภูผา
หลายร้อยพันปีผ่านมา
มีกะลากะเหรี่ยงดงดอย 

 

อาศัยธรรมชาติเลี้ยงชีพ
ไม่รีบไม่เร่งใช้สอย
มีข้าวกินเพราะไร่เลื่อนรอย
เฝ้าคอยหมุนเวียนทำไป 

 

จวบจนสัมปทานป่าไม้
เข้าไปแผ้วถางเนินใหญ่
บุรุกป่าดงพงไพร
แล้วใส่ไฟว่ากะเหรี่ยงทำลาย 

 

ผืนป่าน้อยนิดทำไร่
อาศัยปลูกพืชข้าวไว้
เพียงเพื่อเลี้ยงใจและกาย
ยืนได้อยู่ไปวัน - วาน 

 

มักน้อยสันโดษเหลือขนาด
ใจไม่ขลาดเมตตาสงสาร
สัตว์ป่าสัตว์น้ำเต็มลำธาร
บนบานผีสางเทวดา 

 

ต่อเมื่อคนเมืองรุกล้ำ
เยียบย่ำดงดอยผืนป่า
เจ้าป่าเจ้าเขาเทวา
คงด่าทอพี่น้องเอาอา..(เอาเป็นภาษาเหนือ แปลว่า "น้า") 

 

เทวดาฟ้าดินจึงพิโรธ
ลงโทษหมู่เหล่ามนุษา
คนรับกรรมกลับเป็นชาวพนา
ปกาญอพี่น้องผองเรา.....

 

หมายเลขบันทึก: 453552เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2011 16:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 12:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)

แต่งกลอนได้เพราะมาก....

ผมเคยไปหมู่บ้านคนกะเหรี่ยงครับ

ด้วยความที่อยู่กับธรรมชาติ

ผมมองเห็นความรักของคนกะเหรี่ยงกับการรักธรรมชาติ

และทำวิถีชีวิตให้กลมกลืนกับธรรมชาติครับ

สำหรับผมแล้ว....เราทุกคนคือพี่น้องกันนะครับ

และเราทุกคนต่างก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวของธุลีฝุ่นแห่งจักรวาลเหมือนกันทั้งหมด

ขอเป็นกำลังใจให้อีกหนึ่งคนนะครับ

สวัสดีครับ คุณหมอ ทิมดาบ แหมชมกันมากไปแล้วครับ... ผมเขียนต่อยอดจาก บันทึกของอักขณิช  นะครับ ท่านเขียนชื่นชม กะเหรี่ยงพ่อลูกไว้ได้ดี แต่ผมหันมามองอีกมุมมันช่างแตกต่างนัก....

สวัสดีครับอาจารย์ อักขณิช ผมขอบคุณครับที่มองกะเหรี่ยงด้วยความเข้าใจ อันที่จริงแล้วอนัตตาคือสิ่งนิรันด์ สำหรับชาวพุทธอย่างแท้จริงครับ แต่คงน้อยคนนักที่คิดและมองเหมือนอาจารย์... แม้ทุกวันนี้ ไร่เลื่อนลอย ก็เป็นตราบาปของชนชาวกะเหรี่ยงจริงๆ ครับ ผมเชื่อเช่นนั้น (ความเห็นคนส่วนตนครับ)

  • สวัสดีครับ
  • เข้าใจในความรู้สึกครับ บ้านเราอยู่ที่ไหนก็ต้องใช้ผืนดินที่นั่นทำมาหากิน สำหรับผมเอง มองว่าเป็นการอยู่ร่วมกันกับผืนป่ามากกว่าครับ
  • ป่าไม้ถูกทำลายทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เรารู้ดีว่ามาจากการทำสัมปทานป่าไม้ ทั้งที่ทำให้เหมือนถูกต้อง ที่บอกว่าไม้นำเข้าจากพม่าความจริงเขารู้ดีว่ามาจากไหน ป่าไม้ของไทยปัจจุบันจึงลดลงอย่าน่าใจหาย แต่ผลร้ายคือเราได้รับผลกระทบกันทั้งเมือง และส่วนใหญ่ กว่าเราจะรู้ว่าเกิดผลร้ายก็เกือบสายนั่นเองครับ

กระเหรี่ยงสองมุม

อีกมุมหนึ่งอยุ่ที่นี่ครับ

http://www.gotoknow.org/blog/akkhanich/453460

การตัดไม้ทำลายป่าที่ถูกสื่อผ่านการทำไร่เลื่อนลอย ของชนเผ่ากะเหรี่ยง ก็ยังเป็นตราบาปให้กะเหรี่ยงถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุกและทำลายป่าอยู่วันยันค่ำ

เป็นเรื่องน่าเสียใจคะ ภาพดีๆ กว่าที่คนจะจดจำใช้เวลานาน  การจะขจัดภาพไม่ดี ก็ใช้เวลานานเช่นกัน ขอบคุณที่ให้ได้รับฟังความจริงอีกแง่หนึ่ง..แต่..
ขอให้มีกำลังใจ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ต่อไป นะคะ

 

สวัสดีครับ คุณ 

ชำนาญ เขื่อนแก้ว ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน และแลกเปลี่ยน
  • "การอยู่ร่วมกันกับผืนป่า" เป็นความลงตัวที่หาได้ยากครับ กะเหรี่ยงมีความเชื่อหลากหลายกับพงป่า...มีชุมชนกะเหรี่ยงหลายแห่งที่อยู่ร่วมกับป่าได้อย่างลงตัว และสามารถมองเห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน
  • ป่าไม้ถูกทำลาย.... แต่อย่างไรเราก็ยังเต็มใจและยินดีร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ป่าไม้ครับ

 

ขอบคุณ อาจารย์ โสภณ เปียสนิท  ที่แวะมาเยี่ยม และนำบันทึกมุมมองความต่าง ของ คุณ อักขณิช  มาฝากครับ

สวัสดีคุณหมอ CMUpal ครับ ตี้แวะเวียนมาหา ขอบคุณในน้ำใจ๋ตี้หื้อครับ และจะพยายามทำตามถ้อยคำตี่คุณหมอฝากไว้ครับ

ขอให้มีกำลังใจ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ต่อไป

น่าเห็นใจที่ชาวเขา ชาวดอยกลายเป็นแพะในหลายๆปัญหาสังคม

ทั้งๆที่แท้จริงแล้ว เราต่างรู้ๆกันดีอยู่ว่าเพราะ ... น้ำท่วม ... มังคะ

ส่งกำลังใจ รวมตัวสร้างพลังกลุ่ม ปรับมุมคิดผู้นำชุมชนใหม่ให้ได้ค่ะ  

  • สวัสดีค่ะ  คุณป่าไม้เลื้อย 
  • ป่าไม้เมืองไทย  เราทุกๆ คนก็คงรู้กันอยู่ว่าเพราะอะไรป่าหมด
  • ทุกครั้งที่มีการรณรงค์ปลูกป่าจากภาครัฐ  ก็ตั้งหน้าตั้งตา ปลูกกัน  แต่ไม่มีซักครั้งที่รณรงค์ให้  "ปลูกและรักษาป่าให้เจริญเติบโต"
  • ไฟไหม้ฟางซะทุกครั้งไป  ปักป้ายถ่ายรูป  แล้วก็จากไป
  • สงสารประเทศไทยค่ะ
  • เป็นกำลังใจในการทำงานให้กับองค์กร  รั้วของชาติต่อไปนะคะ
  • ขอบพระคุณมากนะคะ  ที่แวะไปทักทายค่ะ

มาเชียร์ชาวปกากะญอ บางทีคนที่ไม่รู้ว่าปกากะญอทำอะไร ก็ไม่เข้าใจวิถีชีวิตของพี่น้องปกากะญออย่างแท้จริง ตะบลือๆๆๆ

ได้สื่อสารบอกสังคม ก็ทำให้เข้าใจนะครับ

สวัสดีค่ะคุณ'พาดีซอ'

แวะมาอ่าน'ไร่เลื่อนลอย : ตราบาปของคนกะเหรี่ยง'...นึกถึงเจอ flight cancle ตกเครื่องนานหลายชั่วโมง ได้คุยกับคนไทยที่อยู่ Missouri USA  มา 40 กว่าปี เป็นอาจารย์สอนมวยไทย และมีร้านขายอาหารไทยที่นั่น

เล่าให้ฟังว่า 'พวกชาวเขาจากพม่าไปอยู่ที่นั่น ขยันมากทำสวนปลูกผักเก่ง ขายจนรวย... ' เมืองไทยชาวเขายังทำไร่เลื่อนลอยอยู่ แล้วชาวไทยก็ยังตัดไม้อยู่...เลยไม่รู้ว่าโลกเขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว...

 

สวัสดีครับ คุณ Poo  ขอบคุณสำหรับแรงใจ (ดอกไม้) ที่ให้มานะครับ ขอบคุณสำหรับความห่วงใย และภาวนาให้มุมมองผู้นำใหม่ๆ เป็นไปในทิศทางที่คุณ  Poo  หวังเช่นกันครับ

สวัสดีครับ คุณ บังอร แก้ววิไล ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดีๆ ครับ "ไฟไหม้ฟาง" เป็นคำจำกัดความที่ดีทีเดียวครับ

ขอบคุรอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง  ครับ เอ... ต้องบอกว่า "ตะบลึ" เช่นกันครับ

 

*** "ตะบลึ" เป็นภาษากะเหรี่ยงครับ  แปลว่า ขอบคุณ แต่ว่าไปภาษากะเหรี่ยงมีอีกคำที่คล้ายๆ กับ "ตะบลึ" คือ "ต่าปลื้อ" แต่คำหลังนี่ แปลว่า "ผีบ้าครับ" 555

สวัสดีครับ คุณ นาย เพชร พรหมสูตร์ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ยังไงก็ต้องช่วยกันสื่อสารต่อไปครับ

สวัสดีครับ ท่าน ดร. พจนา - แย้มนัยนา 

ขอบคุณครับที่แวะมาเยือน แต่น่าเสียดายครับที่เกิดมาผมยังไม่เคยไปต่างประเทศ (แม้ลาวกับพม่า) จีังไม่รู้ว่าต่างประเทศเขาเป็นยังไง

แต่ถ้าเป็นในประเทศไทย ชาวเขา (ม้ง เย้า กะเหรี่ยง ลีซู ลาหู่ อาข่า ฯลฯ) ก็ยังเป็นชนชาวเขาที่ต่ำต้อย ในสายตาคนส่วนใหญ่อยู่ดีครับ อาจจะมีส่วนน้อยที่เข้าใจ ด้วยใช้จิตใจสัมผัสอยางแท้จริง (หากแต่ก็เป็นส่วนน้อยอยู่ดี)

ขอบคุณสำหรับเรื่องม้งดีๆ ที่นำมาฝากครับ เชื่อว่าโดยธรรมชาติชาวเขาทุกเผ่าพันธุ์มีความขยันอยู่ในสายเลือดอยู่แล้วครับ แต่ด้วยวัฒนธรรมประเพณีของแต่งละเผ่า อาจจะมีวิถีการดำรงชีวิตที่แตกต่างไปครับ...

สวัสดีค่ะ

  • วันหยุด มีเวลาแวะเข้ามาอ่านบันทึกดี ๆ
  • จริง ๆ แล้วก็เคยแวะเข้ามาอ่าน เพื่อทำความรู้จักเจ้าของนาม "ป่าไม้เลื้อย/พาดีซอ" อยู่บ้าง แต่มิได้ทิ้งร่องรอย
  • วันนี้ขอทำความรู้จักอย่างเป็นทางการ คริ...คริ
  • อ่านบันทึกนี้แล้วก็อดคิดถึง น้องหนานเกียรติ ที่ล่วงลับไปแล้วไม่ได้
  • เพราะเขาก็คือหนึ่งในชาวเขาเผ่าลีซอ  แห่งดอยมูเซอ  ที่เผยแพร่เรื่องราวของชาวปกากะญอ และเป็นผู้ที่รักบ้านเกิดเป็นอย่างยิ่ง
  • เรื่องการตัดไม้ทำลายป่า เราก็รู้กันอยู่ว่า เป็นอย่างไร ใครคือคนทำ
  • ชาวบ้าน ชาวเขา  ทำไปก็เพื่อการประกอบอาชีพ เพื่อทำมาหากิน เลี้ยงชีพมิได้หวังร่ำรวย
  • แต่ต้องมาเป็นแพะรับบาป แทนพวกนายทุน ผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย ซึ่งถ้าโยงใยให้ดีแล้ว พวกนี้ก็ไม่แคล้วที่จะเป็นผู้เพ่นพ่านอยู่ในสภานั่นแหละ
  • ขอบพระคุณค่ะ  เป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คน  ขอให้มีความสุขเสมอ ๆ นะคะ
  • มีภาพนี้มาฝากค่ะ เพื่อขออภัยที่นำบทกลอนมาใช้โดยมิได้รับอนุญาต

ต้องกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ อิงจันทร์ ณ กระท่อมอิงจันทร์ เป็นอย่างสูงครับ ที่แวะเวียนมาเยี่ยม และให้โอกาส (ทิ้งร่องรอยในวันนี้) 

ว่าไปแล้ว GotoKnow ก็ทำให้ผมได้เปิดโลกทัศน์ และเพิ่มกัลยาณมิตรใหม่ๆ หลากหลายอาชีพ เพศ วัย ครับ (ความดีนี้ขออุทิศแด่ดวงวิญญาณขออาจารย์เกียรติ) ที่เป็นผู้ชักนำผมให้เข้ามาสู่ชุมชนแห่งนี้ แม้จะไม่ใช่การชักนำโดยตรง (แต่แรงบันดานใจเริ่มจากท่านจริงๆ) http://www.gotoknow.org/blog/noi-1/439435 

แม้วันนี้อาจารย์เกียรติ จะล่วงลับไปแล้ว แต่ศิษย์ขอปฏิญาณว่า จะอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิก GotoKnow เพื่อตอบแทน คุณงามความดีของอาจารย์  ที่ไม่ลืม และทอดทิ้งพี่น้องชาวดอย และตอบแทนที่อาจารย์ไม่เคยปิดบังว่าอาจารย์มีเชื้อสายลีซู/ลีซอมาโดยตลอด อีกทั้งยังยอมรับว่าผูกพัน และชื่นชอบในความเป็น ปกาเกอญอ ด้วยครับ.....

ส่วนเรื่องการตัดไม้ทำลายป่า เชื่อว่าแท้จริงแล้วสังคมรู้กันดีว่าใครเป็นต้นตอ....จึงไม่ต้องอธิบายให้มากความ

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากสื่อในบันทึกนี้แท้จริงคือ อยากให้สังคมส่วนใหญ่รับรู้ว่า ไร่เลื่อนลอย/ไร่หมุนเวียน ที่ชนชาวกะเหรี่ยงทำนั้น มิใช่ต้นตอแท้จริงของการตัดไม้ทำลายป่า 
อีกทั้งในปัจจุบัน กะเหรี่ยงส่วนใหญ่ก็จำต้องละทิ้งวิถีปฏิบัติส่วนนี้ เพื่อสนองต่อนโยบายรัฐ (กะเหรี่ยงเป็นคนว่าง่ายครับ รักสันโดษ) แม้จะต้องหันมาปลูกผักบ้าง รับจ้างบ้าง ทนกับแรงเสียดทานจากภายนอก ทนกับการใช้ยาฆ่าแมลง เพื่อสนองตอบนโยบายรัฐ แลกกับการซื้อข้าวในราคาแพง ๆ กะเหรี่ยงก็ยอมทำ
ส่วนสุดท้ายต้องขอบคุณอาจารย์ ที่นำบทกลอนของผมมาแต่งแต้มสีสัน ให้เปล่งประกายประดุจเพชรที่เจียรไนแล้ว ขอบคุณจริงๆ ครับ
*** ปล. หากอาจารย์ ชื่นชอบ และอยากนำบทกลอนหลายๆ บทของผมไปเผยแพร่ ก็ไม่สงวนนะครับ (จะยินดียิ่ง หากบอกที่มาเหมือนเช่นในภาพนี้)

 

สวัสดีค่ะ

ครูอิงลืมแจ้งไปว่า ภาพที่นำมาฝากนั้น ครูอิงได้ใช้ประกอบบันทึกในบล้อกที่จัดทำสำหรับรำลึกถึงน้องหนานเกียรติโดยเฉพาะ ที่นี่ค่ะ

http://www.gotoknow.org/blog/yoddoi/451738

ขออนุญาตย้อนไปอ่านบทกลอนก่อน ๆ หน้านี้  และขออนุญาตนำชื่อ ป่าไม้เลื้อย/พาดีซอ ขึ้นทำเนียบนักกลอนที่ บ้านกลอนไฉไลด้วยนะคะ ที่นี่ค่ะ http://www.gotoknow.org/blog/yodsapon/450867

มาชม

มีสาระน่าสนใจดีแท้ ๆ

ขอบคุณ อิงจันทร์ ณ กระท่อมอิงจันทร์ ที่แวะเวียนกลับมาทักทายอีกรอบ และนำบันทึกดีๆ มาฝากครับ และ อ.umi ครับที่แวะมาเยี่ยมชม

สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักกับศิษย์พี่สถาบันเดียวกันค่ะ

สวัสดี ศิษย์น้อง "แรงบันดาลใจ" เช่นกันจ๊ะ

ยินดีที่แวะเวียนมาเยี่ยม ยังไงก็หมั่นแวะมานะจ๊ะ

สวัสดีค่ะ..คุณป่าไม้เลื้อย

ได้อ่านแล้ว..ค่อนข้างสลดใจ เพราะโดยส่วนตัวไม่เคยคิดเช่นนั้น

ตราบาป..มันดูรุนแรงและน่ากลัวมิใช่น้อยกับการที่มิได้เป็นผู้กระทำ

อย่างไรเสีย..สวรรค์ มีตา..คงนำพาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

เรา..เชื่อในความบริสุทธิ์ใจของท่าน โลกนี้กว้างใหญ่นัก

มีอีกหลากหลายมุม..ที่เรายังเข้าไม่ถึง

แวะมาเพียงเพื่อให้..กำลังใจ..แก่ คุณป่าไม้เลื้อย รั้วของชาติ

ถ้าพอเพียง..ก็เพียงพอ

สวัสดีครับ ครูเล็ก  ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ เห็นด้วยครับ ถ้าพอเพียง..ก็เพียงพอ..

อีสานไม่มีกะเหรี่ยงแต่ป่าอีสานถูกทำลายมากกว่าภาคอื่น พวกที่ทำลายป่าอย่างแท้จริงคือพวกที่บุกรุกเข้าไปครอบครองแล้วปลูกเพียงพืชไร่ในฤดูฝนหลังจากนั้นก็ปล่อยให้หญ้าขึ้นรกพอปีถัดไปก็ทั้งใช้ไฟเผาและยาฆ่าหญ้าทำลายสิ่งแวดล้อมสาหัสยิ่งกว่าวิธีที่กะเหรี่ยงใช้ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเท่า แต่ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ละเลยหรือรู้เห็นเป็นใจป่าก็คงไม่ถูกทำลายมากขนาดนี้ ทุกวันนี้ฝนตกทีไรก็ต้องระวังน้ำท่วม ขนาดแถวบ้านเราที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีน้ำท่วมเหมือนอย่างปีนี้ก็กลับท่วม อยากเห็นการยึดคืนพื้นที่ป่าอย่างจริงจังและทั่วถึง ข้อสำคัญเอาตัวคนผิดทั้งคนบุกรุกและเจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมาลงโทษด้วย

สวัสดีครับ คุณหัวใจสีเขียว 

ต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ ที่แวะมาให้กำลังใจ และแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจ และอยากให้เจ้าหน้าที่รัฐทำหน้าที่อย่างจริงจัง...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท