ผมได้มีโอกาสเข้าพบคุณบุญเกียรติ โชควัฒนา เมื่อเดือนก่อน อบรมหลักสูตร "ป.โท ผู้บริหารปฐมภูมิ..ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" ตอนที่ 1 และมีโอการได้ฟังปาฐกถาของท่าน อบรมหลักสูตร "ป.โท ผู้บริหารปฐมภูมิ..ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" ตอนที่ 2 มหกรรมสุขภาพชุมชนภาคเหนือ (ปาฐกถา อาจารย์กระแส) ในงานมหกรรมสุขภาพภาคเหนือ ทำให้ได้มุมมองการบริหารจาก CEO อันดันต้นๆ ของเมืองไทย ท่านเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัท ICC เนื่องจากเนื้อหามีมากขอแบ่งออกเป็นตอนย่อย 3 ตอนนะครับ
คิดเชิงบวกเป็นอย่างไร
ความคิดเชิงบวกช่วยทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักบอกตัวเองว่า
“ยาก ลำบาก อาจไม่สำเร็จ”
“คนบางคนพูดแต่ปัญหา”
“งานจะสำเร็จได้ทุกคนต้องช่วยกัน”-แบบนี้ก็ไม่มีวันสำเร็จ
“งานเพื่อส่วนรวมต้องรอคนช่วยเหลือหรือริเริ่มก่อน”-อันนี้ไม่มีวันได้ทำ
มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยน “mindset” การที่จะเปลี่ยนวิธีคิดให้เป็นเชิงบวกนั้นมีความสำคัญมาก เพราะสิ่งที่เราคิดจะกลายเป็นคำพูดและการกระทำเสมอ ดังนั้นการเริ่มที่วิธีคิดจึงเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง การคิดบวกควรคิดบวกกับทั้งตัวเอง คนอื่น และสถานการณ์ การชื่นชมตัวเองให้ได้ในสิ่งที่เราเป็น เห็นคุณค่าของผู้อื่น (ชื่อชมเขาเราได้บุญ) มองเรื่องดีที่เกิดขึ้นเป็นพลัง มองเรื่องที่ผิดหวังคือบทเรียน
จุดที่จะเริ่มปรับเริ่มจากตัวเองก่อน พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ การที่จะรู้ว่าคิดบวกได้จริงนั้นคือเรามีความสุขมากขึ้น เราให้อภัยคนได้มากขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เราคิดบวกมากพอจนถึงจุดหนึ่งคนรอบข้างจะได้รับอานิสงส์นั้น ในทางตรงกันข้ามถ้าเรายังหงุดหงิดอยู่ให้หันกลับมาพิจารณาตัวเองก่อนว่ามีส่วนที่ต้องปรับปรุงไหม คนเราส่วนใหญ่เพ่งโทษคนอื่นนั้นเป็นตัวที่ทำให้เราขาดโอกาสในการพัฒนาตัวเองไปอย่าน่าเสียดาย
ในทัศนะของอาจารย์บุญเกียรติ มีความเห็นว่า “วิธีคิดบวก” ก็คงจะตรงกับความคิดแบบพุทธในเรื่อง “บุญ” การทำบุญต่างกับการทำทานตรงที่ “ทำบุญทำด้วยใจ ทำทานทำด้วยกาย” จะเห็นได้ว่าบุญเกิดที่ใจ
สิ่งที่จะบอกว่าเรื่องนั้นเป็นบุญหรือเรื่องนั้นเป็นบวกจริงหรือไม่ นั้นดูที่ผลที่เกิดขึ้นเกิดประโยชน์ต่อตนเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น
เห็นไหมครับ ตอนแรกยังได้ quotation เด็นๆ เพียบ ติดตามตอนต่อไปนะครับ
การชื่นชมตัวเองให้ได้ในสิ่งที่เราเป็น เห็นคุณค่าของผู้อื่น (ชื่อชมเขาเราได้บุญ) มองเรื่องดีที่เกิดขึ้นเป็นพลัง มองเรื่องที่ผิดหวังคือบทเรียน
สมบูรณ์เนื้อหา สาระ ในข้อความนี้
ขอบคุณพี่โรจน์ที่นำมาแบ่งปันคะ
จากน้อง ผู้ติดคำว่า "แต่.." :-)
แต้...ลบคำว่าแต่ออกไปจากชีวิต เราจะมีความคิดที่ไร้ขีดจำกัด
จากพี่ชายที่มีแต่คำว่า....เชื่อว่าทำได้...