วันเสาร์ คือ วันนี้ โดน โรงเรียนแห่งหนึ่ง ยกเลิก บรรยายของผม แบบบอกล่วงหน้าสองวัน เหตุผล คือ งานที่โรงเรียนเยอะมาก
ดูแล้ว ก็สงสารครู รับเอาทุกเรื่องมาทำ คนทำก็มีแต่หน้าเดิมๆ คนแว่บก็แว่บไปหาเงิน คนอยากทำ Lo ก็รู้สึกผิดที่นัดผมแล้วโดนเบี้ยว งานสากกะเบือยันเรือรบ เต็ม โรงเรียนไปหมด
อนิจจา การศึกษาไทย
ดังนั้น ก็ต้องขอบคุณที่เบี้ยวผม เพราะ ทำให้ วันนี้ มีบันทึก โพสต์ออกมา มากมาย
บทที่ xxx LO เล่มสาม องค์กรเปี่ยมสุข และ นวตกรรมวงเล่า
พวกเราวันๆหนึ่ง คุยกันมาก แต่ ก็มีจุดอ่อน และ เทคนิคที่ต้องปรับปรุงอีกมามาย เช่น
๑) เมื่อคุยกันไปเรื่อย ความคิดต่างๆ ผุดขึ้นมา ไม่ว่าจะจากใครในวงก็แล้วแต่ จากผู้เฒ่า จากเด็กน้อย จากคนที่เดินผ่านมา จากคนที่ดูจะไม่ค่อยได้เรื่อง จากคนเก่ง จากลูกน้อง ฯลฯ ความคิดดีๆเหล่านี้ ไม่ค่อยจะมีใครบันทึก เมื่อจบวงเล่า ก็ลืมเลือนจางหายไป ดังนั้น คุณลิขิต (คนบันทึก) อาจจะใช้ MP3 ใช้ กล้อง VDO สมัยนี้ ราคาไม่แพง เป็นดิจิตอล เก็บง่าย ตัดต่อง่าย มีโปรแกรมตัดต่อหนังมากมาย ( เช่น U Lead หรือ Premier ) และเมื่อบันทึกแล้ว เอามาใส่ ใน Blog (มาจากคำว่า WebLog)ของเรา หาก สนใจเรื่องทำ Blog ก็สามารถเข้าไป ศึกษาได้ที่ http://gotoknow.org
๒) หากมีคน ที่ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ในวงเล่า “วงแตก”ได้ครับ คนพวกนี้ยังไม่ได้เข้า ค่ายฝึกอารมณ์ รู้จักการฟังอย่างลุ่มลึก (Deep listening)
๓) หากมีพวก ประจบประแจงมากไป ก็จะมีแค่ คนไม่กี่คน ที่ได้พูด แต่ ก็ยังดีกว่า โดนขัดคอแล้ววงแตกครับ นั่นคือ ผมอยากให้ ทุกคนได้พูด ผิดถูก อย่าตะคอก เน้นบรรยากาศการชื่นชม และหัวเราะจะดีกว่า ๔) การพูดคุยกันมากๆ ความคิดจะแตกยอด แตกหน่อ กระจายออกไป เหมือนเชื้อรา ทั้งกว้างและลึก แต่ ก็ควรอยู่ในบรรยากาศสบายๆ ไม่เป็นทางการ (Informal) ถอดเสื้อนอกออก (เสื้อสูท เนคไทร์) เปิดเพลงคลอเบาๆ เพลงคุ้นหูหน่อย น้ำดีๆ (ไม่ควรใช้สารทำลายสติ เช่น ไวน์ เบียร์ เหล้า เดี๋ยวจะกลายเป็น วงเหล้า) อาจจะใส่ชุดว่ายน้ำไปคุยกันในสระ Jacuzzi นอนนวดแผนโบราณพร้อมๆกัน นั่งเล่นที่ลานวัด นั่งแบบโซฟา (อย่านั่งแบบห้องประชุม) มีผ้าเย็นแจก น้ำผลไม้ นวดฝ่าเท้าไปคุยกันไป ขี่จักรยานไปพักคุยกันไป ไปบนยอดเขาที่วิวสวยๆ ไปปิกนิค มีเสื่อ ส้มตำ ฯลฯ๕) สมัยนี้ ใช้ วงเล่า แบบ MSN คือ online ทางคอมพิวเตอร์ Internet คุยกันหลายๆคนได้แล้ว เห็นหน้าเห็นตา แลกเปลี่ยนข้อมูล ภาพ เสียง ได้แล้ว ราคาไม่แพง ถูกลงเรื่อยๆ มีแพทย์หลายท่านใช้กับคนไข้ประจำ ประเภทเรื้อรังแล้ว คนไข้สบายใจขึ้นเยอะ ยิ่งคนไข้หลายๆคน ได้เจอกัน รู้สึกว่า ไม่ได้มีเขาป่วยคนเดียว ได้แบ่งปันความรู้สึก ตักเตือนกัน ช่วยกันออกกำลังกายตามที่หมอสั่ง ฯลฯ แม้นจะอยู่ห่างไกลกัน พวกคนไข้ที่เป็นมะเร็งจะเข้าใจบรรยากาศและอารมณ์ที่ผมเขียนถึงนี้ได้ดีครับ
๖) คนในวง ควรมี คนประเภทนักสัมภาษณ์มืออาชีพ สมัครเล่นปนๆอยู่บ้าง คนเหล่านี้ คือ คุณยั่ว ซึ่งต้องได้รับการฝึกเชิงปฏิบัติมาก่อนครับ มีตำราเรื่องเทคนิคการสัมภาษณ์ การตั้งคำถาม ให้ศึกษาครับ
มีเรื่องให้อบรมกันก่อน ฝึกกันก่อนตั้งวงเล่า ดังนี้
(ก) หมวกหกใบของ De Bono ต้องฝึกกันหน่อย ไม่ยากครับ ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งเอง ทำทั้งในและนอกองค์กร ฝึกทำที่บ้าน ที่ชุมชน ที่โรงเรียน ฯลฯ
(ข) การฟังอย่างลุ่มลึก (Deep listening) เน้น ทฤษฎีตัวยู ของ Peter Senge และพวก การฝึกดูจิต แยก “จิต สติ ความคิด” ทำจิตว่างๆ อย่ารีบร้อนสอดแทรก อย่าหมั่นไส้ อย่ามีอคติ อย่าลำเอียง อย่าเบรค (ขัดคอ) แบบสร้างศัตรู ฯลฯ ต้องมี “สติ” ในการฟัง คนฟังต้องได้รับการประเมิน (ตรงๆ หรือ แอบดู) จนแน่ใจว่า คนฟังมีสติ มีทักษะพอ
(ค) การจดบันทึก ด้วย กล้องดิจิตอล ด้วย MP3 หรือ MP4 การใช้โปรแกรมตัดต่อ การทำ “หนัง” การสรุปผล หลังการตั้ง “วงเล่า” การเอา คำพูดหยาบ คำพูดที่อาจทำร้ายความรู้สึกคนที่ไม่ได้อยู่ในบรรยกาศนั้นออกไป อย่าลืมว่า บรรยากาศคนในวงเล่า กับ คนฟังนอกวง ไม่เหมือนกัน วิธีคิดก็จะต่างกัน และ ที่สำคัญ คนที่ไม่ได้ฝึก “สติ” จะเต็มไปด้วยอัตตา อคติ ฯลฯ คุณลิขิต จะต้อง ได้รับการทดสอบจนแน่ใจว่ามีทักษะดีพอ
(ง) การสนทนาแบบ “คิดต่างกัน แต่ ก็เคารพกัน” เป็นการสนทนาของคนมี “สติ” ซึ่งต้องฝึกให้มาก แต่ ฝึกฟังจะดีกว่า จำเป็นกว่าฝึกพูด ระวังคนพูดมาก ยกตนเอง แย่งคนอื่นพูด ฯลฯ ต้องหา คนตัดบท ตัดเกมให้ทัน อาจจะมี ประธานแฝง (หรือ ประธานเทียม ในวงเล่า) ทำหน้าที่ ใส่หมวกฟ้า ( ควบคุม สรุป ดำเนินเรื่อง ฯลฯ) เทคนิคการสนทนาแบบ “คิดต่างกัน แต่ ก็เคารพกัน” นี้ ต้องฝึกหนัก มีcoach ด้วยยิ่งดี
(ฉ)ฝึกดูจิต สติ ความคิดไปด้วย ทุกวินาทีที่เรายังไม่ตาย เราสามารถสะสมกำลังสติได้เสมอ คุยไป ก็ดูความคิดชั่วในตัวเราด้วย รู้จักดับ ข่ม กลั้น ฯลฯ นี่แหละ ฝึกจิตในวงเล่าได้ด้วย
เวลาประชุมส่วนใหญ่เคยชินในการฟังมาตลอด เพราะโอกาสที่จะได้แสดงความเห็นน้อย บางครั้งบรรยากาศก็ไม่ค่อยดี จึงชินที่จะฟังมากกว่าพูด (เพราะพูดไปก็ไม่ค่อยมีใครสนใจฟังอย่างจริงจัง) นานๆเข้าก็พูดไม่ค่อยเป็นค่ะ ส่วนใหญ่เลยทำให้เคอะเขินเวลาต้องพูด ก็พยายามใช้วิธีฝึกสติไปด้วย ก็ช่วยได้บ้างค่ะเพราะเราจะมุ่งพิจารณาที่ตนเอง ลดการใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ดูหนังเรื่อง The greatest game ever play
สอน การตัดความคิด ทำจิตปกติ ได้มาก
ดูเนื้อหาย่อ ในเว็ป http://imdb.com ก็ได้
พระเอก เป็นนักกอล์ฟ สมัครเล่น ที่ ชนะ US Open เมื่อ ร้อยปีก่อน ชื่อ Francis Ouiyet เป็นเรื่องจริงครับ
แล้วจะหามาดู ขอบคุณค่ะ