แนวความคิดในการปฏิรูปการศึกษา


แนวความคิดในการปฏิรูปการศึกษา

แนวความคิดในการปฏิรูปการศึกษา

     ระบบการศึกษาในปัจจุบันพัฒนาไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง  โดยเห็นได้จากพนักงานของบริษัทต่าง ๆ ต้องใช้เวลารวมถึงค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีการปรับรื้อระบบของบริษัทครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งนี้ก็เพราะต้องการแข่งขันเพื่อความอยู่รอดก่อให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัวของธุรกิจ  และวิถีของกลุ่มคนรวมกับวัฒนธรรม  และความเป็นตัวของตัวเองหรือที่เรียกว่า ปัจเจกชนธุรกิจ   จึงต้องสนองตอบความหลากหลายนี้ ขณะที่การศึกษากำลังดำเนินการผลิตคนที่เหมาะสมกับสังคมยุคอุตสาหกรรม  หมายถึงทุกอย่างผลิตออกมาเหมือนกันหมดไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงาน   และสร้างคนให้มีพลังสร้างสรรค์ที่จะคิดริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นและมีงานที่ไม่เคยทำมาก่อน ดังนั้นระบบการศึกษาซึ่งมีหน้าที่เตรียมคนสำหรับงานในอนาคตจะต้องเป็นภาระที่นักการศึกษา บริษัท ห้างร้าน และสังคมต้องร่วมมือกันปฏิรูปขึ้นมาหใหม่ (F.J. Eyschen. 1994)

แนวความคิดในการปฏิรูปการศึกษา

             การเรียนรู้ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศจะไม่จำกัดอยู่เฉพาะในห้องเรียนและครู การเรียนการสอนแบบดั่งเดิมจะลดน้อยลง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนจะเปลี่ยนแปลงไปเกิดกระบวนการเรียนรู้แบบใหม    ่และเป็นตัวนำในการสร้างบริษัทใหม่จึงจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างระบบพัฒนาองค์ความรู้ใหม่จากองค์ความรู้เดิมที่มีอยู่โดยเฉพาะองค์กรการพัฒนาการเรียนการสอน และสภาพแวดล้อมทางการศึกษา

บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ

             เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทต่อการศึกษาอย่างมาก   โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์   และการสื่อสารโทรคมนาคมมีบทบาทที่สำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญต่อการศึกษาประกอบด้วย

             1. เทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องการเรียนรู้ปัจจุบันมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้หลายอย่าง   มีระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)  มีระบบมัลติมีเดีย  (Multimedia)  ระบบวิดีโออนนดีมานด์  (Video on Demand)  วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์  (Video Teleconference)  และอินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นต้น ระบบเหล่านี้เป็นระบบสนับสนุนการรับรู้ข่าวสารและการค้นหาข้อมูลข่าวสารเพื่อการเรียนรู้

             2. เทคโนโลยีที่เข้ามาสนับสนุนการจัดการศึกษาในการจัดการศึกษาสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลข่าวสารเพื่อการวางแผนการดำเนินการ     การติดตามและประเมินผลคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในเรื่องนี้

             3. เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้การสื่อสารระหว่างบุคคลเกือบทุกวงการ          ทั้งทางด้านการศึกษาจำเป็นต้องอาศัยการสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เขียน ผู้เรียนกับผู้เรียน เป็นต้น  ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเรียนการสอน   และการดำเนินงานในหลายด้านโดยอาศัยเทคโนโลยีการสื่อสาร และการดำเนินงานในหลายด้านโดยอาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบุคคล เช่น  การใช้โทรศัพท์  โทรสาร  เทเลคอนเฟอเรนส์  และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

บทบาทใหม่ขององค์กร

             ในส่วนของบทบาทและหน้าที่ใหม่ขององค์กรในยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศองค์กร หมายถึงหน่วยงานที่มีภาระกิจหลักดังนี้

              1. การบริการและการจัดหลักสูตรในหน่วยงานราชการศึกษา
              2. จัดให้มีการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และสื่อการเรียนต่าง ๆ ให้ทันสมัย
              3. จัดสิ่งอำนวยความสะดวกและจัดสภาพแวดล้อมทางการศึกษา

กล่าวคือองค์กรต้องกำหนดรูปแบบการบริหารใหม่ดังนี้

             1. การใช้แหล่งสารสนเทศในแนวอนาคต    ประกอบด้วยนโยบายด้านสารสนเทศจัดสภาพแวดล้อมของเครือข่าย      การเรียนรู้การกระจายการใช้คอมพิวเตอร์  การรวมแหล่งสารสนเทศ ความเร็วของสารสนเทศ การใช้ห้องสมุดดิจิตอล   (Digital Library)  สื่อการเรียนการสอนในรูปของสื่อผ่านระบบเครือข่าย (Web-Based) การบูรณาการเทคโนโลยีรวมถึงการประเมินค่าใช้จ่ายและผลที่คาดหวังจากการดำเนินงาน

             2. นโยบายด้านโครงสร้างขององค์กร ควรมีการปรับรื้อโครงสร้างใหม่เป็นองค์กรบริหารแห่งสารสนเทศเริ่มจากแผนยุทธศาสตร์องค์กรกระบวนการตามโครงสร้างของไซเบอร์เนติก (Cybernetics) การปรับรื้อระบบบริการจัดสื่อการสอนในรูปของระบบเปิด โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นหลัก

การพัฒนาการเรียนการสอน

             การพัฒนาในหมวดนี้เป็นการพัฒนาในรูปแบบของการปรับรื้อระบบการเรียนการสอนใหม่  โดยคำนึงถึงการพัฒนาที่เกี่ยวกับการเจริญงอกงามในตัวผู้เรียนเน้นทักษะการเลือกสารสนเทศ  การวิเคราะห์  และสังเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร    ขณะเดียวกันต้องทำการฝึกทักษะกระบวนการจัดกระทำกับข้อมูลข่าวสารให้กับผู้เรียนพร้อมกับการตอบสนองกับข้อมูลข่าวสารอย่างชาญฉลาด  ครู  และนักเรียนต้องช่วยกันสร้างสรรค์สารสนเทศ เพื่อให้เกิดคุณค่าต่อการเรียนการสอนครูต้องพัฒนาการสอนโดยเพิ่มทักษะการสืบค้นสารสนเทศให้กับนักเรียน  และประเมินผลจากการนำมาใช้มากกว่าการจดจำเนื้อหา  หมายถึงอาศัยสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ในการเสนอแนวคิดและเนื้อหาเพื่อก่อให้เกิดกระบวนการเข้าใจมากกว่าการจดจำ

รูปแบบกระบวนการเรียนการสอน

             กระบวนการเรียนการสอนตามแนวคิดในการปฏิรูปต้องแตกต่างไปจากการเรียนการสอนแบบดั่งเดิม กล่าวคือ

             1. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความคิดโดยฝึกการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์อย่างมีเหตุผล    การใฝ่หาความรู้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาตนเอง และแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม

             2. จัดระบบเครือข่ายการเรียนรู้ให้เป็นแหล่งความรู้สำหรับการค้นคว้าหาความรู้ทุก ๆ ด้านที่ผู้เรียนต้องการ  เช่น   สื่อมวลชนทุกแขนง  เครื่องคอม- พิวเตอร์  ทรัพยากรท้องถิ่น  ภูมิปัญญาชาวบ้าน และหน่วยงานต่าง ๆ  ให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้พัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างกว้าง-ขวาง

             3. จัดกิจกรรมทั้งใน  และนอกหลักสูตร  โดยให้ผู้เรียนทำกิจกรรมที่ต้องเรียนในห้องเรียนให้เสร็จสิ้นและให้แบ่งเวลาทำกิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อเสริมประสบการณ์ทางสังคม             

             4. ปรับกระบวนการเรียนการสอน   และเทคนิคการสอนของครูให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการจัดการศึกษา    เน้นให้ครูเป็นเพียงผู้อำนวยความ-สะดวกและชี้แนะให้ผู้เรียนทำการศึกษาค้นคว้า คิดและตัดสินใจด้วยตนเอง  ขณะเดียวกันครูต้องเป็นต้นแบบด้านคุณธรรม  และจริยธรรมด้วย ซึ่งต้องปลูกฝังทั้งในชั่วโมงเรียนและกิจกรรมการฝึกปฏิบัติ

การจัดการศึกษา

              การเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของเทคโนโลยีสารสนเทศส่งผลกระทบต่อระบบโครงสร้างของการจัดการศึกษาในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งสามารถสรุปเป็นด้าน ๆ ได้ดังนี้

 

องค์ประกอบทางการศึกษา

คุณลักษณะ/กิจกรรมการศึกษา

ระบบสังคม

- การศึกษาควรตอบสนองระบบสังคมยุคเทคโนโลยีสารสนเทศโดยให้คุณค่าในสารสนเทศ
- เน้นการเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของ สังคม

ระบบความคิดเห็นของชุมชน นักเรียนและครู

- ให้ทุกคนสามารถคิดได้หลากหลายและสามารถ แสดงความคิดเห็นได้
- ใช้การวิเคราะห์ความต้องการ

คุณค่าและจุดมุ่งหมายในการเรียน

- เน้นคุณภาพและคุณค่าในแต่ละบุคคล
- ตอบสนองความพึงพอใจเป็นหลัก

กลุ่มผู้เรียน

- เน้นการศึกษาในกลุ่มเล็ก
- เน้นการศึกษาเป็นรายบุคคล

หลักสูตร

- เป็นหลักสูตรแบบยืดหยุ่น
- กระจายโอกาสทางการศึกษา
- กระจายและมีหลักสูตรหลาย ๆ ด้าน

การประเมินผล

- ประเมินผลหลาย ๆ ด้าน
- ให้คุณค่าต่อการคิดวิเคราะห์และแสดงเหตุผล
- พิจารณาจากการพัฒนาในตัวผู้เรียนเป็นเกณฑ์

สื่อและเทคโนโลยี

- ใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนมากกว่าการสอนเช่น มัลติมีเดีย ซีดีรอม อิเล็กทรอนิกส์บุคคล
  วิดีโอออน์มานด์ วิดีโอเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ ไฮเปอร์เท็กซ์ และอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
- เทคนิคกระบวนการเรียนรู้ โดยจัดกระทำกับสารสนเทศ เลือกวิเคราะห์สร้างสรรค์ ประเมิน
  สารสนเทศเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และการนำเสนอความรู้นั้น

สถานที่และการบริการ

- กระจายการบริการสู่ชุมชน
- จัดเป็นกลุ่มเล็ก
- สร้างเครือข่ายการเรียนรู้
- ใช้การสื่อสารเพื่อการปฏิสัมพันธ์เป็นหลัก

คุณลักษณะของผู้เรียน

- เน้นความสามารถในการสืบค้นสารสนเทศ
- เน้นความสามารถในการจินตนาการและสร้างสรรค์
- เน้นความสามารถในการนำเสนอความรู้ใหม่หรือ แนวคิดใหม่
- เน้นความสามารถในการสื่อสารกันด้วยสื่อสารสนเทศ
- เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์แบบเชิงเหตุเชิงผล

 กล่าวโดยสรุป

           การจัดการศึกษายุคของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียนรู้ใหม่  และเปลี่ยนแปลงความต้องการในการศึกษาในอนาคต  สื่อ  และเทคโนโลยีสารสนเทศแบบใหม่เข้ามาแทนที่สื่อแบบเก่า  แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้จะเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาแบบใหม่    ซึ่งก่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาขึ้นปรับปรุงโครงสร้างทั้งระบบใหม่โดยเฉพาะการบริหารการบริการการพัฒนาการเรียนการสอนและการจัดการศึกษา ซึ่งจากเดิมสถาบันการศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบมาเป็นสังคมและชุมชนร่วมกันรับผิดชอบต่อการจัดการศึกษามากยิ่งขึ้น

หมายเลขบันทึก: 451725เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2011 09:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 เมษายน 2012 05:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิรูปทางการศึกษา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท