เรื่องสั้น


ผลงานเรื่องสั้นบทประพันธ์ของนักเรียน

ห้

ทุกวัน

อย่า

บาด

หมาง

 I wish disagree every day

 

 

 

…“ความบาดหมางของสองตระกูลที่ถ่ายทอดจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกทำให้อัคนีและอัจจิมาเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อทั้งคู่เข้ามาบริหารฟาร์มโคนมของตนซึ่งมีเพียงรั้วไม้สีขาวกั้นอาณาเขต การปะทะคารมอย่างรุนแรงจึงเกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ แท้จริงแล้ว ภายใต้ท่าทีอันแข็งกร้าวของทั้งสองคนนั้นซ่อนความห่วงใยซึ่งกันและกันไว้”…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นาย วันปิยะ  จันทรเดช นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๔ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เลย

๒๕/๐๒/๒๕๕๔

 ครูผู้สอน ครูสุธะนะ   พามนตรี

 

 

 

 

 

…“แต่แล้วเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็นำพาให้ทั้งคู่ได้เผยความรู้สึกต่อกัน ติดอยู่ที่ก้างชิ้นใหญ่คือพ่อของฝ่ายหญิงที่ไม่ยอมละทิฐิยอมรับว่าที่ลูกเขยคนนี้แล้วอัคนีจะทำเช่นไร เพื่อให้ได้ดวงใจที่เขาแสนรักมาครอบครอง”…

 

 

 

อให้ทุกวันอย่าบาดหมาง
          อัคนี หรือ ไฟ ทายาทแห่งตระกูลอดิศวร เป็นหนึ่งในฝาแฝดสี่คนของ มนตรี) กับ สุพรรษา ถูกวางตัวให้เป็นพี่ชายคนสุดท้าย เขาเป็นคนค่อนข้างเจ้าอารมณ์ มุทะลุ และได้รับมอบหมายจากบิดาให้ดูแลกิจการฟาร์มโคนมซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการหลายอย่างของครอบครัว

          อัจจิมา หรือ จี๊ด  ทายาทแห่งตระกูลพศวัต เป็นลูกสาวของ พิศาล และเป็นน้องสาวของ ศิลา) เธอนับเป็นคู่แข่งในทุก ๆ เรื่องกับอัคนีมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนที่ตัวจังหวัด ทั้งคู่ผลัดกันได้ที่หนึ่งที่สองเป็นประจำ แถมยังสอบติดคณะเกษตรศาสตร์สาขาวิชาสัตวศาสตร์เหมือนกันอีกด้วย

          แต่สาเหตุหลักที่ทั้งคู่ไม่ถูกกันนั้นก็คือ การมีเรื่องบาดหมางกันระหว่าง มนตรี กับ พิศาลในอดีต เพราะทั้งคู่เกิดไปหลงรักสุพรรษา แถมยังชิงดีชิงเด่นกันในเชิงธุรกิจฟาร์มโคนมอีกด้วย แต่ในที่สุดมนตรีก็เป็นฝ่ายชนะใจได้สุพรรษาไปครองคู่ พร้อมกับควบรวมไร่ของตัวกับของสุพรรษาจนใหญ่โตและขยายกิจการไปหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นการโรงแรมหรือจะเป็นไร่องุ่น รวมไปถึงกิจการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบครบวงจร ทำให้ฟาร์มของมนตรีใหญ่โตเกินหน้าเกินตาของพิศาล ทำให้พิศาลเคียดแค้นมนตรีและไม่ขอญาติดีด้วย

          เขาบังเอิญไปแต่งงานกับลูกสาวผู้ว่าราชการจังหวัดและมีทายาทสองคน นั่นคือศิลาและอัจจิมา แต่เมื่อคลอดอัจจิมาออกมา ภรรยาของเขาก็มีอันต้องเสียชีวิตลง พิศาลจึงเป็นคนเลี้ยงดูลูกและก็ได้ปลูกฝังให้ลูก ๆ ทั้งสองคนให้เกลียดพวกอดิศวรเหมือนเขา จนเป็นที่มาของความขัดแย้งที่แฝงไปด้วยความรักของทั้งอัคนีและอัจจิมา

          เมื่ออัคนีและอัจจิมามาเรียนที่คณะเกษตรด้วยกัน ก็แข่งกันเป็นที่หนึ่งที่สองมาตลอดจนจบ แล้วแยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของตัวเอง โดยอัจจิมาบินไปเรียนที่เดนมาร์ก ส่วนอัคนีกับพี่น้องนั้นรับราชการอยู่ต่างอำเภอสองสามปี ก่อนจะบินไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาเพื่อดูแลทิพย์ธาราน้องสาวคนสุดท้องที่ไปเรียนต่อทางด้านแพทยศาสตร์ที่นั้น หลังจากนั้นทั้งอัคนีและอัจจิมาจึงกลับมาบริหารงานที่ฟาร์มซึ่งมีอาณาบริเวณติดกัน ทำให้ทั้งคู่กลับกลายมาเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันอีกครั้ง

          อยู่มาวันหนึ่ง วิรัชหรือใหญ่เพื่อนที่คณะสัตวศาสตร์ของทั้งคู่ได้ร่อนการ์ดเชิญงานแต่งงานของเขามาให้กับอัคนีและอัจจิมา โดยขอให้อัคนีรับเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ด้วย ทั้งคู่จึงตกลงตอบรับที่จะไปร่วมงานที่จัดขึ้นที่ภูเก็ตในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า นั่นทำให้ทั้งคู่มีอันต้องเตรียมชุดสำหรับงานที่จะมาถึง ทั้งคู่จึงต้องพบเจอและปะทะคารมกันตลอดที่ร้านตัดเสื้อในเมือง หรือแม้แต่ในร้านของชำซึ่งพวกเขาจะไปซื้อหาของขวัญก็ตามที

          แต่การพบกับอัคนีโดยบังเอิญครั้งหนึ่งก็ทำให้เธอพบว่า อัคนีมักจะเข้าออกโรงพยาบาลแห่งหนึ่งอยู่เป็นประจำ เธอแอบตามเข้าไปดูก็พบว่าเขาชอบมาเยี่ยมเยียนหญิงชราคนหนึ่งซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร จนเป็นปริศนาค้างคาใจเธอไปจนตลอดเรื่องระหว่างนั้นเอง ไกรภพ เศรษฐีกำมะลอจากกรุงเทพฯ เกิดมาต้องใจที่ดินอันงดงามของฟาร์มพศวัตเข้า แล้วเมื่อรู้ว่าพิศาลเจ้าของไร่นั้นเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อบุญธรรมผู้ล่วงลับของเขา เขาจึงจัดการวางแผนใช้ความสนิทชิดเชื้อนี้หวังฮุบเอาไร่นี้เพื่อนำไปขายต่อเอาเงินมาชดใช้หนี้สินที่เกิดจากการพนัน แต่เมื่อเขาเห็นอัจจิมาก็เกิดต้องใจขึ้นมาอีก และหวังจะเคลมเธอเพื่อเอาไปเป็นเมียของเขาด้วยในคราวเดียวกัน

          ไกรภพได้หลอกพิศาลว่าจะลงทุนทำรีสอร์ท พิศาลเห็นว่านี่เป็นช่องทางที่จะแข่งกับมนตรีซึ่งมีกิจการรีสอร์ทอยู่ด้วย เขาจึงตกลงและตัดสินใจขายที่แปลงหนึ่งซึ่งเป็นที่ดินของภรรยาผู้ล่วงลับเพื่อมาลงทุนร่วม ไกรภพได้ใช้ความสนิทสนมหลอกเอาเอกสารสำคัญ โดยอาสาว่าจะจัดการเรื่องขายที่กับไล่ที่พวกชาวบ้านซึ่งมาตั้งรกรากอยู่ตั้งแต่สมัยภรรยาของพิศาลยังมีชีวิตอยู่ออกไปให้ด้วย ในขณะเดียวกันเขาก็ได้หลอกพาศิลาลูกชายคนโตของพิศาลไปที่บ่อนการพนันด้วยเพื่อหลอกล่อให้เป็นหนี้สินก้อนใหญ่หวังจะใช้เป็นลูกมือในการจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับฟาร์มพศวัตและเรื่องของอัจจิมา

          เมื่ออัจจิมารู้เรื่องที่บิดาจะขายที่ซึ่งมีชาวบ้านเช่าพักอาศัยอยู่หลายครัวเรือนไปเพื่อลงทุนกับไกรภพ จึงเกิดการทุ่มเถียงกัน แต่เธอก็ไม่อาจขัดบิดาได้จึงต้องหาทางช่วยเหลือชาวบ้านเหล่านั้นตามกำลังของตัวเอง ส่วนศิลา พี่ชายของอัจจิมานั้นเป็นคนเกกมะเหรกเกเร เป็นนักเลงหัวไม้ เขาชอบวางแผนกลั่นแกล้งฟาร์มของอัคนีอยู่ร่ำไป เขาได้ใช้คนงานของอัคนีซึ่งติดเงินเขาอยู่คอยเป็นหนอนบ่อนไส้ปั่นป่วนฟาร์มอดิศวรอยู่ตลอดเวลา อัคนีต้องคอยตามแก้เรื่องราวต่าง ๆ ที่ศิลาทำเอาไว้ตลอดเวลา ประกอบกับครั้งหนึ่งทั้งคู่เคยรักผู้หญิงคนเดียวกัน แก่งแย่งกันจนผู้หญิงคนนั้นต้องเสียชีวิตลง ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันชนิดที่เรียกได้ว่าไม่สามารถจะมองหน้ากันได้แม้เพียงหางตา ไม่ว่าจะเจอกันที่ไหนเป็นได้ฟาดปากกันจนวินาศสันตะโรอยู่ร่ำไป

          เมื่อวันงานวิวาห์ของวิรัชใกล้จะมาถึง เพื่อนเจ้าสาวเกิดอุบัติเหตุขาหัก เขาจึงขอร้องให้อัจจิมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้แทน ทั้งอัคนีและอัจจิมาจึงต้องเดินทางไปก่อนวันงานเพื่อเตรียมงานต่าง ๆ ในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว  ระหว่างทางทั้งคู่เกิดการทุ่มเถียงกันตลอด แต่มันก็เจือไปด้วยความรู้สึกผูกพันอะไรบางอย่างที่แทรกซึมเข้าสู่จิตใจของทั้งคู่จนบางครั้งก็ถึงกับแปรเปลี่ยนมาเป็นความเอื้ออาทรกัน

          แต่ที่เกาะรายาในภูเก็ต อัคนีกลับได้พบกับคู่ต่อสู้หัวใจคนสำคัญ นั่นคือพฤกษ์ หนุ่มไฮโซเจ้าของรีสอร์ทที่จะใช้จัดงานแต่งงาน ทั้งอัจจิมาและพฤกษ์เกิดปิ๊งปั๊งจี๋จ๋ากันจนทำให้อัคนีหมั่นไส้และเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหึงหวงคู่ปะทะคารมคนนี้เข้าเสียแล้ว ทำให้อัคนีต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะทำลายความสัมพันธ์ของพฤกษ์กับอัจจิมาจนเกิดเป็นเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวายขึ้น

          ก่อนจะถึงวันวิวาห์ของวิรัชนั้นทางเพื่อนเจ้าสาวคนเดิมได้จัดให้มีปาร์ตี้สละโสตขึ้น หวังให้เป็นงานของพวกหนุ่มสาวก่อนจะมีงานพิธีรีตอง ทำให้อัจจิมาซึ่งรับเป็นเพื่อนเจ้าสาวจำเป็นต้องมาร่วมกับอัคนีเพื่อจัดงานนี้ ทำให้เกิดการปะทะคารมและขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลา

          แต่จนแล้วจนรอดงานก็สำเร็จลุล่วงลงอย่างที่ทั้งคู่ไม่คาดคิดนัก เพราะช่วงท้ายของงานสละโสด ทั้งคู่เกิดถูกจับให้มาดวลเบียร์กัน ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดฮิตของทั้งคู่ตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่ด้วยความอ่อนเพลียจากการเตรียมงานนี้จนดึกดื่นก็ทำให้ทั้งคู่เมามายกันกว่าปรกติจนเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ทั้งคู่พบว่าตัวเองต่างนอนอยู่บนเตียงเดียวกันในสภาพเปลือยกายทั้งคู่ แถมยังมีหยดเลือดอยู่บนเตียงอีกต่างหาก แต่ความจริงแล้วหยดเลือดสีแดงนั้นเป็นเพียงลิปสติกของ เจ๊ต่อ (เกริก ชิลเลอร์)

          อัคนีที่เพิ่งตื่นจากอาการมึนเมาจึงเข้าใจว่าเขาได้ทำอะไรผิดพลาดลงไปแล้ว ส่วนอัจจิมาก็นึกว่าตัวเองเสียรู้คู่ปรับตลอดการเข้าให้ ทั้งคู่จึงเกิดการทุ่มเถียงทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้นมาอีก อัคนีต้องพึ่งวายุภัค พี่ชายจอมเจ้าชู้เพื่อจะวางแผนขอโทษอัจจิมา แต่แผนการทุกอย่างกลับต้องล้มเหลวเพราะมีเรื่องแทรกซ้อนหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องของพฤกษ์ด้วย

          หลังจากงานแต่งงานของวิรัชจบลง อัคนีตัดสินใจจะไปเอ่ยปากขอโทษอัจจิมาด้วยตัวของเขาเอง แต่เขากลับพบว่าเธอได้เก็บกระเป๋ากลับฟาร์มไปเสียแล้ว นั่นจึงทำให้หนทางที่จะขอโทษหญิงสาวเริ่มตีบตันลง เพราะฟาร์มพศวัตสำหรับอัคนีแล้วมันก็เปรียบเสมือนป้อมปราการดี ๆ นี่เอง ทุกคนในนั้นจะต้องจัดการเขาแน่ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งถ้าหากเขาทะเล่อทะล่าเข้าไป

          เมื่ออัคนีกลับมาถึงฟาร์มอดิศวรรังสรรค์เขาจึงได้รับข่าวร้ายว่าในคืนวันงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่เขาไม่อยู่นั้น โรงเก็บหญ้าแห้งของฟาร์มหลังหนึ่งถูกวางเพลิงวอดไปทั้งหลัง ยังดีที่ปฐพีกับวายุภัคระดมคนมาช่วยกันดับไว้ได้ทันก่อนที่จะลุกลามไปในส่วนอื่น ๆ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็พบว่านายเข้มซึ่งเป็นคนงานคนสำคัญนั้นถูกทำร้ายอาการโคม่า และนายเข้มคงเป็นคนเดียวที่จะบอกได้ว่าใครคือคนที่ทำเช่นนั้น

          อัคนีมอบหมายให้ตำรวจจัดการสืบหาเรื่องนี้ ส่วนเขาเองก็วางแผนที่จะพบอัจจิมาให้ได้ เขาลอบไปที่ท้ายฟาร์มพศวัต ซึ่งเป็นส่วนที่อัจจิมาทำการปลูกป่าหวังจะใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอนาคต เพราะรู้ว่าเธอจะต้องมาดูงานแต่เช้าตรู่ทุกวัน แต่เมื่อศัตรูหัวใจคนสำคัญคือ พฤกษ์ ตัดสินใจมาเยี่ยมอัจจิมาหวังสานความสัมพันธ์ ทั้งปฐพีและวายุภัคจึงรวมหัวกันวางแผนให้พฤกษ์เป็นนกต่อเพื่อจะทอดสะพานให้อัคนีได้พบกับอัจจิมาได้บ่อยขึ้น เพราะพฤกษ์ได้ตัดสินใจมาเป็นแขกของรีสอร์ทที่ปฐพีดูแลอยู่

          ทั้งสามได้วางแผนทัวร์พิเศษให้กับพฤกษ์เพราะรู้ว่าเขาจะต้องชวนอัจจิมามาด้วยแน่ แล้วก็เป็นจริงดั่งคาด เมื่อแผนลุล่วง อัคนีจึงได้พบและพูดจาปรับความเข้าใจกับอัจจิมาหลายต่อหลายครั้งจนเริ่มเข้าใจกั และหลอกให้มิลค์ซึ่งมาติดพันอัคนี (แต่อัคนีไม่เล่นด้วย) อยู่ช่วยแยกพฤกษ์ให้ออกห่างจากอัคนีโดยบอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นเกย์จะมาเคลมอัคนี มิลค์จึงยอมทำตาม แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งมิลค์กับพฤกษ์เกิดต้องใจกันขึ้นมาเสียนี่

          แต่แล้วก็มีเหตุให้อัจจิมาหึงหวงอัคนีกับมิลค์เอาเสียได้ ทำให้อัจจิมาไม่ยอมมาพบกับอัคนีอีก อัคนีจึงปลอมตัวเป็นแขกเข้าไปกับคณะสัตวแพทย์ที่เข้ามาฉีดวัคซีนในฟาร์มของอัจจิมา เขาได้ฉุดเธอเข้าไปพูดคุยกันในโรงเก็บหญ้าแห้ง คราวนี้กลับเผลอใจมีอะไรกันขึ้นมาจริง ๆ ยังผลให้อัจจิมาเกิดท้องขึ้นมา อัจจิมาโกรธอัคนีมากที่เขาฉวยโอกาสกับเธอเช่นนี้ เธอจึงไม่ยอมพบเขาอีก

          ตอนนี้เองที่ไกรภพเริ่มดำเนินแผนการสุดท้ายของเขา เขาได้นำเอกสารสำคัญของพิศาลไปจัดการโอนที่เป็นของตัวเอง จากนั้นจึงให้ศิลาหลอกอัจจิมามาเที่ยวงานวัดแล้วจะฉุดไปปลุกปล้ำ แต่อัคนีกลับรู้ทันและตามไปช่วยไว้ได้ทันทั้งคู่จึงปรับความเข้าใจกันอีกครั้งและเข้าใจกันในที่สุด แต่เมื่อไกรภพและศิลาไปโกหกกับพิศาลว่าอัคนีมาทำร้ายแล้วฉุดอัจจิมาไป พิศาลจึงโกรธแล้วจัดการขังอัจจิมาเอาไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหนเพื่อเตรียมตัวแต่งงานกับไกรภพ

          อัคนีทนความคิดถึงไม่ไหวจึงแอบลอบไปหาที่ห้องนอนของอัจจิมาและพบว่าเธอถูกบังคับให้แต่งงานกับไกรภพ เขาจึงชวนเธอหนีไปด้วยกัน แต่อัจจิมาปฏิเสธเพราะไม่ต้องการให้บิดาเสียใจ อัคนีจำต้องตามใจและหาวิธีอื่นที่จะช่วยไม่ให้อัจจิมาต้องไปแต่งงานกับคนอื่น โดยความช่วยเหลือจากพี่ชายและนายศักดิ์ลูกน้องคนสนิท เขาได้ค้นพบว่าไกรภพนั้นเล่นไม่ซื่อกับฟาร์มพศวัต ขณะเดียวกัน นายเข้มซึ่งบาดเจ็บสาหัสก็เสียชีวิตลง นายเพิ่มผู้เป็นพ่อเสียใจมากที่มีส่วนกับการตายของลูก จึงมาสารภาพกับอัคนีว่าเขาเป็นต้นทางให้กับพวกของนายศิลาเข้ามาวางเพลิงในวันปีใหม่

          อัคนีจึงนำหลักฐานทั้งหมดส่งตำรวจ ไกรภพเห็นท่าไม่ดีจึงบังคับให้ศิลาหลอกอัจจิมามาที่ท้ายสวนหวังปลุกปล้ำให้สำเร็จอีกครั้ง และหวังจะปิดปากอัคนีตอนที่เขามาช่วยเธอด้วยเพื่อให้คดีที่ฟ้องร้องกันจบลง แต่อัคนีก็สามารถแก้สถานการณ์ช่วยทั้งอัจจิมาและศิลาออกมาจากเงื้อมมือของไกรภพจนได้

          ช่วงระหว่างที่กลับบ้านนี้เองที่อัจจิมารู้ว่าผู้หญิงชราที่อัคนีไปหาที่โรงพยาบาลบ่อย ๆ นั้นคือมารดาของคนรักเก่าที่เสียชีวิตไปเพราะพี่ชายของเธอจนทำให้ทั้งอัคนีและศิลาบาดหมางกันจนมาถึงทุกวันนี้ ส่วนศิลาเมื่อถูกหักหลังก็สำนึกในความผิดที่มีต่อน้องสาว เขาจึงมาสารภาพกับบิดา การกระทำของศิลาต่อน้องสาวนี้เอง ทำให้พิศาลเกิดอาการหัวใจกำเริบจนต้องเข้าโรงพยาบาล และศิลาถูกตำรวจจับตัวไป

         

ถึงตอนนี้ทั้งอัจจิมาและอัคนีรู้แล้วว่าเธอท้อง จึงพยายามมาขอขมาพิศาล แต่เขาก็ไม่ยอม จนเมื่อพิศาลออกจากโรงพยาบาล ไกรภพก็ได้จ้างคนมายิงเขาเพื่อหวังล้มล้างคดีต่าง ๆ ที่เขาก่อขึ้น แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะอัจจิมาเอาตัวเข้ารับลูกปืนแทน และอัคนีสามารถจับตัวคนร้ายส่งตำรวจได้ ตำรวจจึงขยายผลไปจับไกรภพ

          อัจจิมาต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน การอยู่ในห้องผ่าตัดเนิ่นนานทำเอาอัคนีคลั่งแทบเป็นบ้า ทำให้พิศาลเห็นใจ ประกอบกับมนตรี บิดาของอัคนีเข้ามาช่วยพูดและยอมคุกเข่าขอขมาเพื่อลูกชาย พิศาลจึงใจอ่อน อัจจิมาและอัคนีจึงได้แต่งงานกันและมีลูกด้วยกัน

          2 วันต่อมา หลังจากงานแต่งงาน มีสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้น ซึ่งประเทศเกาหลีเหนือใช้ไทยเป็นสนามรบกับสหรัฐอเมริกา แล้วพิกัดที่เกาหลีเหนือตั้งไว้คือ ฟาร์มอดิศวรรังสรรค์ บ้านหลังคาสีแดง หน้าบ้านมีน้ำพุ รูปพญานาค รูปไก่และ รูปหมา โดยอาวุธที่ประเทศเกาหลีใช้คือ นิวเคลียร์ชีวโมเลกุลโดยใช้หลักการเดียวกับพีทาโกรัส เมื่อทันที่มีคำสั่งยิง ทุกคนไม่เคยรู้เลยว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ทุกคนจะเป็นครอบครัวทันทีที่เสียงระเบิดดังขึ้นความสูญเสียที่ 52◦ 37 ลิปดา ความสูญเสียนี้คือสิ่งทุกคนไม่อยากให้มันเกิดขึ้น อัคนีและอัจจิมาได้เสียชีวิตในสิ่งที่ทุกคนในโลกล้วนที่จะไม่อยากให้มันเกิดขึ้น

 

 

END

หมายเลขบันทึก: 450212เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2011 13:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท