ด้วยกรอบความคิดของการศึกษาที่เอาความรู้เป็นตัวตั้งและเป็นระบบแพ้คัดออก ทำให้มีเด็กเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่จะสามารถเรียนต่อไปในระดับสูงขึ้นได้ โอกาสแคบลง ในบางกระบวนการยังเป็นการย่ำยีคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวเด็กโดยการเปรียบเทียบหรือตีค่า การใช้ความกลัวกับความอยากเป็นเครื่องล่อคนไปสู่เป้าหมายยิ่งทำให้เด็กอ่อนแอในกระแสบริโภคนิยม วัตถุนิยม หรือค่านิยมตามอย่าง เด็กอีกส่วนหนึ่งที่ไม่เก่งด้านวิชาการจึงถูกทิ้งระหว่างทางทั้งที่พวกเธอเหล่านั้นต่างก็มีศักยภาพด้านอื่นๆ ที่รอการงอกงาม
มูลนิธิลำปลายมาศพัฒนาซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศล จึงก่อตั้งโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ที่มีทั้งระดับอนุบาล ประถมศึกษา และ มัธยมศึกษา เพื่อเป็นโรงเรียนตัวอย่างในการจัดการศึกษาที่เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง อันจะเป็นที่ที่มนุษย์ได้สร้างการเรียนรู้สำหรับมนุษย์โดยไม่ละทิ้งใครแม้แต่คนเดียว ซึ่งจะมีครู พ่อแม่ และชุมชน ร่วมมือกันในการเกื้อหนุนให้เด็กทุกๆ คนได้มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและงอกงามได้ตามศักยภาพตามความถนัดและตามความปรารถนาของตน
เชิญร่วมบริจาคในการจัดการศึกษาเพื่อการกุศล และ เพื่อการขยายผลอันจะส่งผลต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย
นิยาม การศึกษาโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
การศึกษา เป็นเครื่องมือที่นำคนไปพบสัจจะเพื่อปลดปล่อยผู้คนให้เป็นอิสระ อิสระจากความไม่รู้ และ สิ่งครอบทั้งปวง
นิยาม การเรียนรู้โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
การเรียนรู้เป็นกระบวนการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น สูงขึ้นอย่างเป็นองค์รวม ทั้งองค์รวมภายในคนคนหนึ่ง และ องค์รวมที่เชื่อมสัมพันธ์กันอยู่ในระบบใหญ่
เป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
ได้แก่การพัฒนาความฉลาดทางด้านร่างกาย และ ด้านสติปัญญา
ความฉลาดทางด้านร่างกาย (Physical Quotient) เป็นการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถดูแลและใช้กายอย่างมีคุณภาพ มีความแข็งแรง อดทน อวัยวะทุกส่วนทำงานอย่างสอดประสานกัน
ความฉลาดทางด้านสติปัญญา (Intellectuals Quotient)
การได้มีเครื่องมือที่เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ และ การดำเนินชีวิต ทั้งที่เป็นทักษะชีวิตและทักษะสำหรับอนาคต เช่น ทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ทักษะการเรียนรู้ร่วมกัน ทักษะการคิดหลายๆ ระดับ ทักษะทาง ICT ทักษะการจัดการ ทักษะการสื่อสาร และ ทักษะการเป็นผู้ผลิตปัจจัยในการดำรงชีวิต เป็นต้น เพื่อการนำไปสู่การเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ ให้เข้าใจต่อโลกและปรากฏการณ์ต่างๆ ซึ่งจะต้องได้มากกว่าความรู้ เป็นความเข้าใจ เพราะเมื่อถึงความเข้าใจอย่างแท้จริงผู้เรียนจะเห็นถึงความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวพันธ์เชื่อมโยงกันอยู่ และเมื่อเห็นสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้องเกื้อกูลตนเองอยู่ก็จะเห็นคุณค่าต่อสิ่งเหล่านั้น ในที่สุดจะเกิดความยินดีและพอใจกับความเป็นไปของสิ่งต่างๆ
ความฉลาดทางด้านจิตวิญญาณ(Spiritual Quotient) และ ความฉลาดทางด้านอารมณ์(Emotional Quotient ) ได้แก่
- การรับรู้อารมณ์และความรู้สึกของตนเอง(รู้ตัว) การรับรู้อารมณ์และความรู้สึกต่อผู้อื่น
- การเห็นคุณค่าในตัวเอง คนอื่น และสิ่งต่างๆ ดำเนินชีวิตอย่างมีความหมาย
- การเห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างตนเองกับสิ่งต่างๆ นอบน้อมต่อสรรพสิ่งที่เกื้อกูลกันอยู่
- การอยู่อย่างภารดรภาพ เช่น ยอมรับในความแตกต่าง เคารพและให้เกียรติกัน อยู่อย่างพอดีและพอใจได้ง่าย
- การมีสติอยู่เสมอ รู้เท่าทันอารมณ์เพื่อให้รู้ว่าต้องหยุด หรือ ไปต่อ กับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ มีความสามารถจัดการอารมณ์ตนเองได้
- มีสัมมาสมาธิเพื่อกำกับความเพียรให้การเรียนรู้หรือการทำงานลุล่วง มีความอดทนทนทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
- การมีจิตใหญ่มีความรักความเมตตามหาศาล
- มีวินัย มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม เช่น รู้เวลา รู้หน้าที่
วิธีการ/นวัตกรรม
- พัฒนาครูให้มีคุณภาพ และเป็นแบบอย่างที่ดี
- ใช้จิตวิทยาเชิงบวก ให้คุณค่าความเป็นมนุษย์
- ใช้กระบวนการจิตศึกษา
- ผ่านวิถีชีวิตในโรงเรียนที่มั่นคง กิจกรรม/ เวลา สม่ำเสมอคงเส้นคงวา มีเหตุมีผล
- ผ่านการเรียนรู้ร่วมกันทั้งในและนอกห้องเรียน
- อยู่ในบรรยากาศของชุมชนที่เกื้อหนุนสิ่งดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สงบและใกล้ชิดกับธรรมชาติ
ไม่มีความเห็น