ด้วยความที่มีความคิดว่าตนเองก็กำลังศึกษาเล่าเรียนในระดับปริญญาเอกด้วย ก็น่าที่จะได้นำความรู้ที่ได้รับจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิประจำหลักสูตรยุทธศาสตร์การพัฒนามานั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศ.ดร.เฉลียว บุรีภักดี ประธานหลักสูตรฯ ท่านได้ให้เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างยุทธศาสตร์ คือ “ตัวแบบทางความคิด เรื่อง ยุทธศาสตร์การพัฒนา” หรือที่เรียกย่อๆ ว่า “ตัวแบบ 5 ขั้นตอน” สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นแผนที่นำทางในการสร้างยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้
ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาตนเองของคนวัยทอง
...เมื่อตนเองเข้าสู่ช่วงอายุ 40 ปีเป็นต้นมาจนกระทั่งครบ 45
ปีแล้วนั้น มีความรู้สึกว่าตนเองมีอาการแปลกๆ
ที่เกิดกับร่างกายตนเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (ก่อนอายุ 40 ปี)
ได้แก่ มือซ้ายไม่มีแรงเปิดฝาโหลใส่น้ำตาลแบบฝาปิดสุญญากาศ
มีอาการเหมือนเส้นจะพลิกเมื่อนั่งกางขาและจะหุบขากลับคืน
มีอาการเวียนศีรษะชั่ววูบแล้วจะล้ม
มีอาการเข่าขวาเส้นพลิกขณะเดินและเกร็งเดินไม่ได้เกือบล้มทั้งยืน ฯลฯ
อะไรอีกมากมายซึ่งอยู่ในระหว่างการเขียนบันทึกอาการแปลกๆ เพิ่มเติมอีก
ซึ่งเคยได้รับทราบข้อมูลมาว่าช่วงอายุ 40
ปีเป็นต้นไปเป็นช่วงวัยของคนวัยทอง แต่ตนเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
จนเกิดอาการแปลกๆ ดังที่เกริ่นไว้เบื้องต้น
ด้วยความที่มีความคิดว่าตนเองก็กำลังศึกษาเล่าเรียนในระดับปริญญาเอกด้วย
ก็น่าที่จะได้นำความรู้ที่ได้รับจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิประจำหลักสูตรยุทธศาสตร์การพัฒนามานั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศ.ดร.เฉลียว บุรีภักดี ประธานหลักสูตรฯ
ท่านได้ให้เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างยุทธศาสตร์ คือ
“ตัวแบบทางความคิด เรื่อง ยุทธศาสตร์การพัฒนา” หรือที่เรียกย่อๆ ว่า
“ตัวแบบ 5 ขั้นตอน”
สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นแผนที่นำทางในการสร้างยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้
สำหรับยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาคนวัยทองนั้น
สามารถสรุปแนวคิดได้ดังนี้
-
ปัญหาทุกข์ร้อน คือ
สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นและต้องการที่จะขจัดปัญหาหาให้หมดไป
ซึ่งปัญหาสำหรับคนวัยทองที่สำคัญคือ
“สุขภาพของคนวัยทองไม่สมบูรณ์แข็งแรง”
โดยจากการสังเกตตนเองและสอบถามจากเพื่อนๆ ช่วงวัยเดียวกัน
รวมทั้งได้อ่านเอกสารเผยแพร่ต่างๆ
เกี่ยวกับกับคนวัยทองจะพบว่าคนที่เข้าสู่ช่วงวัยทองแล้วจะพบอุปสรรคร่างกายตนเองไม่แข็งแรง
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาที่ตามมา (ปัญหาสืบเนื่อง)
ได้แก่ 1)
เกิดโรครุมเร้าต่อตนเองหรือมีหลายโรคเกิดกับตนเองโดยที่ไม่คาดคิด 2)
มีปัญหาในที่ทำงานเนื่องจากทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ล่าช้า และ
ทำงานกับผู้ร่วมงานไม่ได้ และ 3) มีปัญหาในครอบครัว
โดยการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างสามีและภรรยา
เนื่องจากฝ่ายหญิงส่วนใหญ่มักจะพูดมาก และฝ่ายชายมักไม่ค่อยพูด
นิ่งเงียบ อยากอยู่คนเดียว
เมื่อถูกรบเร้ามากขึ้นก็เกิดการทะเลาะกันเป็นปัญหาความแตกแยกเกิดขึ้นในบ้านได้
สำหรับสาเหตุของปัญญา (ปัญหาปัจจัย) ที่เกิดขึ้นนั้น
จากการวิเคราะห์แล้วพอทราบสาเหตุก็คือ
เกิดมาจากการที่คนวัยทองมักจะไม่มีการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่วัยทอง
และส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยใส่ใจในสุขภาพของตนเอง
คิดว่าตนเองยังแข็งแรงเป็นคนวัยฉกรรจ์ตลอดเวลา
จึงยังคงดำเนินชีวิตหรือใช้ชีวิตตามปกติเหมือนกับคนปกติดทั่วไป
ซึ่งเหล่านี้เป็นเหตุปัจจัยสำคัญต่อคนเข้าสู่วัยทองแล้วพบปัญหากับตนเองอย่างแก้ปัญหาไม่ได้
-
ปัญหาเป้า คือ
ปัญหาที่ได้จากการวิเคราะห์ปัญหาทุกข์ร้อนที่เกิดขึ้นโดยที่เมื่อได้รับการแก้ไขแล้วจะทำให้เจ้าทุกข์มีความสุขและสนองต่อความต้องการของเจ้าทุกข์ด้วย
ดังนั้น ปัญหาที่ต้องการแก้ไขในกรณีนี้ คือ
“คนวัยทองขาดความรู้ความเข้าใจในการเตรียมตัวเข้าสู่วัยทองและการปฏิบัติตนในช่วงวัยทอง”
จากการสอบถามพี่ๆ เพื่อนๆ
ในช่วงวัยทองแล้วจะทราบว่าส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองอยู่ในช่วงวัยทอง
และ ไม่สนใจรวมทั้งไม่มีความรู้ในการปฏิบัติที่ถูกต้องอีกด้วย
หากจำแนกองค์ประกอบภายในกรอบปัญหานี้จะพบว่าคนวัยทองมีองค์ประกอบปัญหา
ดังนี้
-
- ไม่เข้าใจและไม่มีความรู้เกี่ยวกับช่วงวัยทอง
- ไม่มีความรู้ในการเตรียมตัวที่ดีก่อนเข้าสู่วัยทอง
- ไม่ทราบวิธีปฏิบัติตนในช่วงวัยทอง
- ไม่เข้าใจสาเหตุหรืออาการที่เกิดกับคนวัยทอง -
ไม่มีความรู้ในวิธีการแก้ปัญหาและการป้องกันเมื่อเกิดอาการของคนวัยทอง
-
เป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนา คือ
ผลจากการวิเคราะห์ปัญหาที่ต้องการจะแก้ไข (ปัญหาเป้า)
ว่าเรามีแนวทางในการแก้ปัญหานั้นได้อย่างไรและควรที่จะแก้ปัญหาในระดับคุณภาพใด
ซึ่งจากกรณีปัญหาของคนวัยทองนั้น เป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนา คือ
“ต้องมีแนวปฏิบัติการเตรียมตัวและการปฏิบัติตนของคนวัยทอง”
จากการวิเคราะห์ปัญหาเป้าและองค์ประกอบของปัญหาเป้าแล้วจะเห็นว่าคนวัยทองส่วนใหญ่ขาดความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติตนและไม่ค่อยให้ความสนใจใส่ใจในตนเอง
ดังนั้น
การที่คนวัยทองควรให้ความตระหนักมากที่สุดคือการหาความรู้ในแนวทางการเตรียมตัวและการปฏิบัติตนที่เหมาะสมของคนวัยทองเพื่อที่จะให้สามารถดำรงตนได้อย่างมีความสุขปราศจากปัญหาที่อาจจะเกิดได้อย่างไม่คาดคิด
-
หน่วยระบบทำงาน ประกอบด้วย 6
หน่วยระบบในการแก้ปัญหา โดยมีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้
-
หน่วยระบบทำงานที่ 1
รวบรวมความรู้เกี่ยวกับช่วงวัยทอง
ซึ่งมีการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งได้แก่หนังสือ วารสาร อินเทอร์เน็ต
เป็นต้น และมีการจัดหมวดหมู่เนื้อหาเพื่อให้สามารถศึกษาได้โดยง่าย
มีหัวข้อหลักๆ ดังนี้
- วัยทองคืออะไร "วัยทอง"
เป็นช่วงต่อระหว่างวัยผู้ใหญ่ตอนต้นและวัยสูงอายุ
ประชากรชายและหญิงในช่วงอายุ 40 หรือ 45 ปีขึ้นไป
ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะมีการผลิตฮอร์โมนเพศลดลง
ทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของบุคคลในวัยนี้
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่นในครอบครัวและสังคมได้ ในผู้ชายวัยทอง
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
เนื่องจากการลดลงของฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)
ไม่ได้ลดลงอย่างเฉียบพลัน ผู้ชายบางคนก็อาจมี
หรือหยุดทันทีเหมือนผู้หญิง ในทางตรงกันข้าม
วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือนของผู้หญิงเป็นช่วงเวลาที่สิ้นสุดการมีประจำเดือนแล้ว
เนื่องจากรังไข่หยุดทำงาน ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง เกิดอาการต่างๆ
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว กลุ่มอาการหมดประจำเดือน (Menopausal
Symptom) ได้แก่ มีอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกในเวลากลางคืน
นอนไม่หลับหรือหลับยาก อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หลงลืมง่าย
บางคนมีปัสสาวะบ่อย แสบ เวลาไอจามอาจมีปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดแห้ง
เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ สำหรับผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวที่พบ ได้แก่
โรคกระดูกพรุน
โรคหัวใจและหลอดเลือดจากการมีระดับไขมันในเลือดสูงโดยเฉพาะระดับโคเลสเตอรอล
บางรายอาจเกิดโรคอัลไซเมอร์เมื่ออายุมากขึ้น
- แนวทางป้องกันและแก้ไข
- 1) การให้ฮอร์โมนทดแทน 1.1) สำหรับเพศหญิง มี 3 ชนิด คือ 1.1.1)
ชนิดมีเอสโตรเจนเพียงชนิดเดียว มีทั้งชนิดรับประทาน ฝังใต้ผิวหนัง
แปะบนผิวหนัง ครีมและเจลทาบริเวณผิวหนังหรือช่องคลอด 1.1.2)
โปรเจนเตอโรนเพียงชนิดเดียว
ใช้ป้องกันมะเร็งของเยื่อบุมดลูกในสตรีที่ร่างกายยังสามารถสร้างเอสโตรเจนได้เพียงพอ
1.1.3) ชนิดที่มีเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน นิยมให้แบบรอบเดือน
โดยแต่ละเม็ดจะมีปริมาณฮอร์โมนไม่เท่ากัน
ซึ่งส่วนใหญ่จะมีปริมาณฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเลียนแบบลักษณะการเปลี่ยนแปลงปริมาณฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกาย
1.2) สำหรับเพศชาย ชนิดที่มีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนอยู่ในรูปเกลือต่างกัน
มีทั้งชนิดรับประทาน เจลทาภายนอกและชนิดฉีด 2)
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยสิ่งที่ควรเน้นเป็นพิเศษคือ 1)
บริโภคโปรตีนถั่วเหลืองที่มีไอโซฟลาโวนหรือการเสริมไอโซฟลาโวนสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและลดอาการร้อนวูบวาบที่เกิดจากภาวะหมดประจำเดือน
- 2) บริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูงได้แก่ นม
ปลาทอดกรอบกินได้ทั้งกระดูก กุ้งแห้ง เต้าหู้ (ผลิตภัณฑ์จากถัวเหลือ)
เป็นต้น ในการป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
- 3) กินอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันจากพืช เช่น ถั่วแดงหลวง
ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ถั่วแขก เมล็ดพืชต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง
เมล็ดทานตะวัน รวมทั้งธัญพืชจำพวกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์
และข้าวไรย์
- 4) กินปลาที่มีมันมาก จำพวกปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า
ปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาซาบะ ปลาสวาย และพุงปลาช่อน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
เพื่อเพิ่มกรดไขมันจำเป็นให้ร่างกาย นำไปสร้างความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง
ช่องคลอด และเยื่อบุช่องคลอด
- 5) กินผลไม้รสเปรี้ยว จำพวกส้มต่างๆ แอ๊ปเปิ้ล เชอรี่ พลัม
สับปะรด เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ และ
- 6) น้ำมะพร้าวชะลอวัยทองสมองเสื่อมได้ 3) หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การดื่มสุรา ชา และกาแฟ 4) หมั่นออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น
วิ่งจ๊อกกิ้ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค และอื่น ๆ
เป็นประจำอย่างน้อยวันละประมาณ 15-30 นาที 5) ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง
อย่างวิตกกับอาการที่เกิดขึ้นและควรพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ
- การเตรียมตัวเข้าสู่วัยทอง เมื่อรู้เหตุและปัญหาของ “วัยทอง” แล้ว
ก็ควรที่จะเตรียมร่างกาย และ จิตใจ ควรจะมีการเตรียมตัวมาตั้งแต่เด็กๆ
หรือ เมื่อนึกได้ก็ยังไม่สายเกินไปนัก
โดยเพียงแค่หากเปรียบเทียบการเดินข้ามสะพานไม้แคบๆ
คนหนุ่มสาวมักจะเดินทรงตัวได้ดีกว่าคนที่อายุมากแล้วก็เท่านั้นเอง 1)
การฝึกบุคลิกภาพและฝึกจิตใจ
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะหากเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงแล้วจะช่วยลดปัญหาสภาพจิตใจแปรปรวนได้เป็นอย่างดี
2) รู้จักวิธีผ่อนคลาย และจัดการกับความเครียด
เพราะคนเรายิ่งมีอายุมากขึ้นยิ่งมีขยะอารมณ์เพิ่มเป็นเงาตามตัว
หากไม่รู้จักวิธีขจัดจะกลายเป็นสะสมเมื่อมันทะลักล้นก็จะควบคุมไม่ได้
ซึ่งคนเรารู้จักวิธีคิดและวิธีวิเคราะห์แต่คนเราไม่รู้วิธีหยุดคิด
ดังนั้น ต้องรู้จักการหยุดคิดด้วยการนั่งสมาธิ ฝึกชีกง หรือ โยคะ
เพื่อให้ลมหายใจกำหนดอยู่ที่จิตใจ 3) เรื่องสุขภาพร่างกาย สิ่งแวดล้อม
ก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
เปรียบเหมือนต้นไม้ที่เจริญเติบโตงอกงามด้วยปุ๋ย ดิน อากาศ และ น้ำ
ดังนั้นเราก็ควรเตรียมความพร้อมด้านนี้ด้วย เช่น อาหาร น้ำ แสงแดด และ
อากาศ ต้องได้รับสิ่งที่ดีมีประโยชน์
-
หน่วยระบบทำงานที่ 2
เตรียมตัวเข้าสู่วัยทอง
ซึ่งเป็นวิธีการปฏิบัติตนในการเตรียมตัวของวัยหนุ่มสาวก่อนเข้าสู่วัยทองมีแนวปฏิบัติดังนี้
- 1) การออกกำลังกายเป็นประจำ
- โปรแกรมเต้นแอโรบิค
- การออกกำลังกาย เช่นการเต้นแอโรบิค การวิ่งเหยาะๆ การเดินเร็ว
หรือการว่ายน้ำ ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง และควรออกกำลังกายวิธีนี้
อย่างน้อย 30 – 40 นาที ต่อครั้ง 3 – 4 วันต่อสัปดาห์ -
บริหารการทรงตัว – การออกกำลังกาย เช่น ทรงตัวโดยการยืนขาเดียวประมาณ
5 วินาที หลังจากนั้นสลับข้างและทำต่ออีก 5 วินาที
จะช่วยรักษาการทรงตัวให้ดีขึ้น
- งานอดิเรก –การหางานอดิเรก หรือ กิจกรรมที่ชื่นชอบ เช่น งานจัดสวน
เต้นรำ นั้นช่วยทำให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา
- ยืดเส้นยืดสาย –การยืดกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก ลำตัว
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย และช่วยลดการเกิดการบาดเจ็บอีกด้วย
- โปรแกรมเพิ่มความแข็งแกร่ง
- เพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อโดยการฝึกยกน้ำหนักแบบเบาๆ
สามารถช่วยเผาผลาญไขมัน
อีกทั้งช่วยกระชับกล้ามเนื้อไม่ให้หย่อนคล้อย
- 2) การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
สามารถสรุปหลักการกินเพื่อลดหรือ ควบคุมน้ำหนักของร่างกายให้พอเหมาะ
และเอาใจใส่ในเรื่องสุขภาพให้มากขึ้นด้วยหลักการกินคนวัยทอง 6 ประการ
คือ
- กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยกินทุกวัน และให้หลากหลายชนิด ไม่ซ้ำซาก
จะส่งผลทำให้ไม่เป็นโรคขาดสารอาหาร
- กินอาหารประเภทที่ให้สารโปรตีน ซึ่งมีกรดอะมิโนอาร์จินีน ได้แก่
ถั่วเหลือง งาขาว กุ้งแห้ง ปลาป่น ปลาทะเล ถั่วแดง ถั่วเขียว ไข่ นม
เป็นต้น โดยเลือกกินเพิ่มเติมจากรายการอาหารทั่วไป
จะส่งผลให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นให้มีการหลั่งไกรทฮอร์โมน
ทำให้เซลล์เจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- ผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักมากผิดปกติ ต้องลดการกินเนื้อสัตว์
แต่เพิ่มการกินอาหารทะเล และอาหารที่มีกากใยสูง
- กินอาหารประเภทผักและผลไม้ รวมถึงข้าวไม่ขัดสี ได้แก่ ข้าวกล้อง
ผักสดและผักต้ม และ ผลไม้ตามฤดูกาล
โดยเลือกกินเพิ่มขึ้นและเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม
จะส่งผลทำให้ร่างกายสามารถดูดซับไขมันและน้ำดีไว้ในลำไส้
ทำให้ได้รับอาหารที่มีไขมันลดลง
- กินอาหารที่มีแคลเซียมสูงได้แก่ ถั่ว ปลาเล็กปลาน้อย เป็นต้น
โดยการเลือกอาหารที่มีแคลเซียมสูงในแต่ละมื้อ
จะส่งผลให้ร่างกายไม่เกิดเป็นโรคกระดูกพรุน และ
สามารถรักษาระดับแคลเซียมและการสูญเสียแคลเซียมในร่างกาย
- กินอาหารจำพวกพืชที่ให้สารไฟโต เอสโตเจน
ฮอร์โมนชนิดนี้ได้จากการสังเคราะห์ แต่ในพืชก็มีเช่นกัน เช่น
ข้าวกล้อง มันฝรั่ง มะละกอ ข้าวโพด แครอท บร็อคโคลี กะหล่ำปลี ฟักทอง
งา ถั่วดำ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง
มีประโยชน์โดยเฉพาะกับเพศหญิงที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม
มะเร็งมดลูก 3) การลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ 4)
การงดพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรค เช่น หลีกเลี่ยง
บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดอาหารที่มีไขมันจากสัตว์ เป็นต้น 5)
การเพิ่มพฤติกรรมที่ดี เช่น
มีงานอดิเรกรับประทานอาหารผักและผลไม้มากขึ้น
และรับประทานแคลเซียมเสริมที่เหมาะสม 6)
การพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำ
เพื่อตรวจหาโรคบางอย่างที่พบได้บ่อยในวัยกลางคนจนถึงวัยสูงอายุ
เพื่อรับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เช่น โรคความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต ต่อมลูกหมากโต
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรตรวจระดับฮอร์โมนเพศชายในเลือดและตอบแบบสอบถาม
เพื่อประเมินอาการและภาวะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ ขาดฮอร์โมนเพศชาย
หากจำเป็นต้องได้รับฮอร์โมนเพศชายเสริม
ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ทุกครั้ง
-
หน่วยระบบทำงานที่ 3
สังเกตและบันทึกอาการของตนเอง
ซึ่งเป็นการฝึกการบันทึกประจำวันอาจจะอยู่ในรูปของสมุดไดอารี่ หรือ
ออร์แกนไนเซอร์บนโทรศัพท์มือถือ หรือ บันทึกเป็นไดอารี่บนเว็บไซต์
หรือ ที่กำลังนิยมอยู่คือสังคมออนไลน์ก็ได้
-
หน่วยระบบทำงานที่ 4
วิเคราะห์เปรียบเทียบหาสาเหตุหรืออาการ
โดยต้องสังเกตอาการของตนเองแยกเป็นชายและหญิงดังนี้
- กลุ่มอาการหญิงวัยทอง
- กลุ่มอาการระบบประสาทอัตโนมัติ (vasomotor symptoms) 1.
ร้อนวูบวาบ เหงื่อออก รู้สึกหนาวร้อนผิดปกติ 2. วิงเวียนศีรษะ 3.
ปวดศีรษะ 4. นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท
- กลุ่มอาการทางผิวหนังและเยื่อเมือก (skin and mucous membrane
symptoms) 1. ขาดความชุ่มชื้นในร่างกาย 2. เกิดการแพ้และอักเสบได้ง่าย
เล็บเปราะและหักง่าย 3. ผิวหนังแห้ง คันตามผิวหนัง ริมฝีปากแห้ง 4.
ผมแห้ง เปราะหรือผมร่วง
- กลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและข้อกระดูก (musculoskeletal symptoms)
1. ปวดตามข้อต่างๆโดยเฉพาะปลายนิ้ว 2. ปวดกล้ามเนื้อตามร่างกาย 3.
ปวดหลัง
- กลุ่มอาการทางเดินปัสสาวะ (urinary symptoms) 1.
การทำงานของกล้ามเนื้อระบบทางเดินปัสสาวะหย่อนยานลง 2.
ถ่ายปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ 3. ไอ จาม มีปัสสาวะเล็ด
- กลุ่มอาการทางระบบสืบพันธุ์ (genital symptoms) 1. ขาดฮอร์โมนเพศ
2. ความรู้สึกทางเพศลดลง 3. ผนังช่องคลอดบางลง 4. ช่องคลอดแห้ง
เจ็บปวดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ 5. อวัยวะเพศเหี่ยวลง
- กลุ่มอาการทางจิตประสาท (psychological symptoms) 1.
อารมณ์แปรปรวน เช่น โกรธง่าย 2. วิตก กังวลง่ายผิดปกติ 3. ซึมเศร้า
ไม่รื่นเริง จิตใจหดหู่ ห่อเหี่ยว 4. เหนื่อยง่าย 5. เฉื่อยชา
ง่วงเหงาหาวนอน 6. ลังเลใจไม่มั่นใจในการทำงานหรือพูดจา 7. ไม่มีสมาธิ
ความจำเสื่อม
- กลุ่มอาการชายวัยทอง
- กลุ่มอาการระบบประสาทอัตโนมัติ (vasomotor symptoms) 1.
ร้อนวูบวาบ เหงื่อออก รู้สึกหนาวร้อนผิดปกติ 2. วิงเวียนศีรษะ 3.
ปวดศีรษะ 4. นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท
- กลุ่มอาการทางผิวหนังและเยื่อเมือก (skin and mucous membrane
symptoms) 1. ขาดความชุ่มชื้นในร่างกาย 2. เกิดการแพ้และอักเสบได้ง่าย
เล็บเปราะและหักง่าย 3. ผิวหนังแห้ง คันตามผิวหนัง ริมฝีปากแห้ง 4.
ผมแห้ง เปราะหรือผมร่วง
- กลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและข้อกระดูก (musculoskeletal symptoms)
1. ปวดตามข้อ 2. ปวดกล้ามเนื้อตามร่างกาย 3. ปวดหลัง
- กลุ่มอาการทางเดินปัสสาวะ (urinary symptoms) 1.
การทำงานของกล้ามเนื้อระบบทางเดินปัสสาวะหย่อนยานลง 2.
มีความผิดปกติในการขับถ่ายปัสสาวะ
- กลุ่มอาการทางระบบสืบพันธุ์ (genital symptoms) 1. ฮอร์โมนเพศลดลง
2. ความรู้สึกทางเพศลดลง 3. องคชาตไม่แข็งตัว 4.
องคชาตแข็งตัวได้เพียงระยะหนึ่งแล้วก็อ่อนตัวลง 5. อวัยวะเพศเหี่ยวลง
6.ไม่สามารถมีอารมณ์ทางเพศถึงจุดสุดยอดและหลั่งน้ำอสุจิ
- กลุ่มอาการทางจิตประสาท (psychological symptoms) 1.
อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย เช่น โกรธง่าย หงุดหงิด 2. มีความกังวล 3.
มีอาการซึมเศร้า ไม่รื่นเริง จิตใจห่อเหี่ยว 4. เหนื่อยง่าย 5.
เฉื่อยชา ง่วงเหงาหาวนอน 6. ไม่ค่อยมีความมั่นใจในการพูดจา
ลังเลในการทำงาน 7. ความจำเสื่อมหรือไม่มีสมาธิ 8. ความคิดอ่านลดลง 9.
รู้สึกว่ากล้ามเนื้อตามร่างกายเล็กลง
- 4.5.
แก้ปัญหาตามอาการและสาเหตุ
-
- 4.6.
สรุปและบันทึกผลการแก้ปัญหา
-
ทรัพยากร ได้แก่ แหล่งความรู้เกี่ยวกับวัยทอง
ครอบครัว บุคลากรในที่ทำงาน สมุดบันทึก เป็นต้น
-
หลักวิชาการ ทฤษฎี ความรู้เกี่ยวกับคนวัยทอง
- จากเว็บไซต์
- 6 หลักการกิน กับ คนวัยทอง
http://www.hilunch.com/six-ways-eating-for-old-women
- แก้อาการวูบวาบในวัยทองด้วยถั่วเหลือง
http://www.yourhealthyguide.com/article/aw-flash-soybean.html
- ประโยชน์ของถั่วเหลืองกับประชากรวัยทอง
http://www.healthdd.com/article/article_preview.php?id=51
- การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในวัยทอง
http://www.bangkokhospital.com/index.php?p=newsDetail&NewsID=505&lang=TH
- ดูแลตนเองเมื่อก้าวเข้าสู่วัยทอง (Menopause (take care
yourself))
http://www.ladpraohospital.com/healthKnowledges.asp?id=13
- เตรียมตัวอย่างไรเมื่อเข้าสู่วัยทอง
http://www.suppaya.com/forum/index.php?topic=244.0
- เตรียมพร้อมเข้าสู่วัยทอง
http://www.happyoppy.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=524645&Ntype=5
- ยาของคนวัยทอง
http://www.pharm.chula.ac.th/clinic101_5/article/Drugold.htm
- เรื่องน่ารู้ของ...คุณนาย วัยทอง
http://www.formumandme.com/article.php?a=1030
- วัยทอง คืออะไร
http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=30202.0
- วัยทอง สดใสได้ ด้วยการ...ดูแลสุขภาพ
http://www.thairunning.com/menopause.htm
- อาหารการกินสำหรับหญิงวัยทอง
http://203.131.209.142/newkm/node/136
- จากบทความ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจทั่วไป
ที่จะได้เตรียมตัวก่อนเข้าสู่วัยทอง และ
มีความสุขกับการใช้ชีวิตในช่วงวัยทองอย่างสนุกสนาน
เพื่อการเตรียมตัวเข้าสู่ผู้สูงวัยได้อย่างมีคุณภาพต่อไป...