476 สิ่งที่นักธุรกิจไทยระดับโลกมี......


คิดใหญ่

 

สิ่งที่นักธุรกิจไทยระดับโลกมี......

 

 

 ผมชอบการสนทนากับนักธุรกิจไทยที่ไปทำธุรกิจในต่างแดน คนเหล่านี้มีความไม่ธรรมดาหรือความพิเศษที่เมื่อเราคุยด้วยทีไร ก็มักจะข้อมูล ประสบการณ์ดีๆ เทคนิคทั้งทางธุรกิจและข้อคิดชีวิตให้เราได้เรียนรู้ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่นซีพี  อิตัลไทย  เดลต้าไทย หรือแม้แต่ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ สิ่งที่ผมเห็นจากบุคคลที่เป็นเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารระดับสูงเหล่านี้ก็คือ พลังวิสัยทัศน์เกินขอบเขตประเทศและในภูมิภาค แต่มองโลกทั้งโลกเป็นตลาดเดียว ทุกประเทศมีความเชื่อมโยงกันหมด การไปลงทุนในประเทศที่ยากจนบางครั้งมิใช่เพื่อตลาดในประเทศนั้น แต่เพื่อการส่งออกไปยังตลาดประเทศที่พัฒนาแล้ว สิ่งใดที่ไม่ดี ไม่สะดวก คนเหล่านี้จะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปยังโอกาสที่ยังมีอยู่ในทิศตรงข้าม ซึ่งมักจะเป็นโอกาสใหม่และโอกาสใหญ่เสมอ

ตัวอย่างเช่น ซีพี ไปบุกแดนโรตีเมื่อปี 1991 เพาะเลี้ยงกุ้งอย่างมีระบบซึ่งในช่วงนั้นคนอินเดียยังไม่รู้จักการเพาะเลี้ยงกุ้งเลย ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของซีพีเล่าให้ฟังว่า คนอินเดียมองพวกเราเหมือนตัวประหลาดเพราะไม่คุ้นเคยกับคนต่างชาติหน้าเหมือนพวกอีสานอินเดียในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเพาะเลี้ยงกุ้งน้ำจืดก็เป็นเรื่องใหม่ ที่ซีพีนำไปเผยแพร่ในอินเดียเป็นเจ้าแรก เป็นสินค้าที่ส่งออกนอกร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งปัจจุบันถือว่ามีอนาคต ซีพีเข้าไปบุกเบิกในอินเดียแป็นเจ้าแรกๆ โดยมองว่าในอนาคตตลาดอินเดียจะต้องโตด้วยปัจจัยต่างๆ ทั้งขนาดของประชากร โครงสร้างพื้นฐาน กำลังซื้อและการพัฒนาเศรษฐกิจ 20 ปีต่อมา ซีพีมองถูก ปัจจุบันซีพีเป็นอันดับต้นๆ ของบริษัทต่างชาติในด้านการผลิตอาหารสัตว์และการแปรรูปอาหารที่ไปลงทุนในอินเดียและซีพียังคงเดินหน้าขยายกิจการในอินเดียอย่างไม่หยุดยั้ง จากการเพาะเลี้ยงกุ้ง ก็มีการเลี้ยงไก่ ปลา ข้าวโพดและอาหารสัตว์ ทั้งนี้อินเดียเป็นตลาดสัตว์น้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ประสบการณ์ในอินเดียของซีพีเป็นเสมือนพาสปอร์ตที่สามารถทำให้ผ่านด่านตรวจต่างๆ ได้อย่างไม่มีปัญหานัก กล่าวกันว่าถ้ารู้จักคนอินเดียจะรู้ว่า ต้องรู้ทันและจับผิด(มีหลักฐาน)ให้ได้ จึงจะอยู่กับคนอินเดียได้ ซึ่งถ้าจับผิดได้ คนอินเดียก็สามารถที่จะขอทาได้อย่าง่ายๆ ถือว่าจบกันไป ซึ่งบางครั้งก้ทำเอาคนไทยอึ้ง รบไม่ได้ อย่างไรก็ดี ในภาพรวม ซีพีสรุปว่าการทำธุรกิจกับคนอินเดียถือว่าใช้ได้ 

อิตัลไทยก็เป็นอีกบริษัทใหญ่ของไทยที่ไปลงทุนในอินเดียซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเพราะรู้ทันคนอินเดียเข้าใจระบบที่หลากหลายและซับซ้อนของอินเดีย เช่นเดียวกับเดลต้าไทยแลนด์ ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องอิเลคโทรนิคและระบบควบคุมไฟฟ้า ยิ่งไฟดับบ่อยในอินเดีย ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสที่จะเข้าไปให้บริการด้วยสินค้าที่ดีที่เหมาะสม

นอกจากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่าปรกติแล้ว คนเหล่านี้ก็มีความกล้า และมักตัดสินใจเร็ว เมื่อเห็นโอกาสแล้วก็ดำเนินการคว้าโอกาสนั้นเลย เช่นดุสิตธานี ล่าสุดเข้ามาลงทุนสร้างโรงแรมดุสิตที่สนามบินแห่งใหม่ที่เดลี สนามบินที่ทันสมัยและใหญ่กว่าสนามบินสุวรรณภูมิ การส่งบุคคลากรของบริษัทไทยยักษ์ใหญ่เหล่านี้ก็เช่นกัน คัดเลือกกันมาอย่างดี บุคคลที่มาบุกเบิกในต่างแดนก็ต้องเป็นผู้ที่มีไม่เฉพาะความเก่งแต่ต้องอึดด้วย โดยเฉพาะอินเดียซึ่งเป็นดินแดนแห่งความเหลือเชื่อจึงไม่แปลกที่ในด้านธุรกิจการค้าก็มีความเหลือเชื่อไม่น้อยไปกว่าประเทศ เป็นการเข้าห้องเรียน MBA ระดับฮาวาร์ดที่ต้องใช้สมอง ทำอย่างไร วิธีการใดก็ได้ ให้ประสบความสำเร็จก็แล้วกัน

คงไม่ผิดหากจะพูดว่า ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น.......คือหนทางแห่งความสำเร็จของนักธุรกิจไทยเหล่านี้

ผมคิดว่านอกจากคุณสมบัติต่างๆ ที่นักธุรกิจเหล่านี้มี ที่คนธรรมดาไม่มีก็อาจจะเป็นเรื่องการอยู่เหนือเงินตราที่ตัวเองมี  การทำธุรกิจก็เพื่อเงินหวังผลกำไรก็จริงอยู่ แต่ผมเห็นว่าในการคิดวางแผนยุทธศาสตร์ธุรกิจว่าจะไปบุกประเทศใดนั้น เวลาคิด จิตใจต้องอยู่เหนือความอยากได้เงินนั้น แต่คงมองถึงการสร้างความสำเร็จของการทำงานหรือของธุรกิจนั้นให้ดีที่สุดมากกว่า และความสำเร็จนั้นก็ไม่มีที่สิ้นสุด แต่เชื่อมโยงไปได้เรื่อยๆ เราจึงเห็นCEO บริษัทที่แม้อายุ 70 กว่าขึ้นไปแล้ว ประสบความสำเร็จมาก็มากแล้ว แต่ยังมีไฟแรงอยู่ ยังเป็นเข็มทิศให้กองเรือเดินสมุทรของตนวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ผมอาจจะผิดเพราะไม่เคยมีประสบการณ์การเป็นนักธุรกิจ แต่การกระหายความสำเร็จในชีวิตนี้ ฉายออกมาอย่างชัดเจนซึ่งไม่เฉพาะในนักธุรกิจไทยเท่านั้นที่มีสิ่งนี้ แต่นักธุรกิจใหญ่ๆ ระดับโลกและนักธุรกิจอินเดียชั้นนำก็มีความชัดเจนตรงนี้เช่นกัน

ในส่วนของอินเดียนั้น นักธุรกิจไทยยังไม่ได้มาบุกอินเดียมากนัก มีเฉพาะรายใหญ่ๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว และหากนับเวลาก็เพียงประมาณ 20 ปีย้อนหลังไป ซึ่งถือว่าไม่นาน การสำรวจและมองอินเดียจึงยังไม่ครอบคลุมทุกด้าน ยังไม่มีแผนที่การลุงทุนของไทยในอินเดียที่ละเอียด ดังนั้นหากรวมพลังความคิดของนักธุรกิจเหล่านี้ได้ ก็คงจะดี  จะได้เห็นแผนที่ที่ว่านี้ชัดเจน เอกชนไทยจะได้บุกอินเดียอย่างเป็นขบวน ทั้งปีกซ้ายปีกขวา กองหน้าและกองหลัง ก็เป็นความคิดหนึ่งที่เกิดจากแรงกระตุ้นที่ได้จากการสนทนากับนักธุรกิจไทยที่มีวิสัยทัศน์เหล่านี้ละครับ นับถือจริงๆ

หมายเลขบันทึก: 446804เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2011 23:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

น้าจ้าขอตัดไปตรงที่คุณพลเดชพูดถึง......".ผมคิดว่านอกจากคุณสมบัติต่างๆ ที่นักธุรกิจเหล่านี้มี ที่คนธรรมดาไม่มีก็อาจจะเป็นเรื่องการอยู่เหนือเงินตราที่ตัวเองมี การทำธุรกิจก็เพื่อเงินหวังผลกำไรก็จริงอยู่ แต่ผมเห็นว่าในการคิดวางแผนยุทธศาสตร์ธุรกิจว่าจะไปบุกประเทศใดนั้น เวลาคิด จิตใจต้องอยู่เหนือความอยากได้เงินนั้น แต่คงมองถึงการสร้างความสำเร็จของการทำงานหรือของธุรกิจนั้นให้ดีที่สุดมากกว่า และความสำเร็จนั้นก็ไม่มีที่สิ้นสุด แต่เชื่อมโยงไปได้เรื่อยๆ" อันนี้น้าจ้าเห็นด้วย เพราะได้อ่านหรือได้ฟังคนที่เป็นแบบนี้ เรื่องของเรื่อง เขาจะชอบความท้าทาย และถ้าประสพความสำเร็จ เขาจะมีความสุขมากๆ แต่ไม่ใช่จากเงินทองที่มีเพิ่มขึ้น

น้าได้ฟังคำสัมภาษณ์ของคนไทยวัยรุ่นน้องคนหนึ่ง เขาเริ่มต้นด้วยการทำโรงเรียน ทำเพื่องานการกุศลอยากให้เด็กมีโรงเรียนแบบที่ตัวเองอยากมี ไม่ได้คิดถึงเรื่องผลกำไรอะไร แต่ประสพความสำเร็จ และอย่างที่คุณพลเดชพูดไว้ความสำเร็จไม่มีที่สิ้นสุด แต่เชื่อมโยงไปเรื่อยๆ เขาก็สร้างสนามกอล์ฟเพราะตัวเองชอบเล่นกอล์ฟ แต่ต่อมาก็สร้างโรงแรมแบบที่ตัวเองอยากไปพัก ตอนนี้กำลังสร้างบ้านขาย ก็เช่นเคยเอาแบบที่ตัวเองคิดว่าต้องเป็นบ้านแบบนี้ถึงจะอยู่สบาย คิดว่าคงจะประสพความสำเร็จอีก....

น้าจ้าคิดว่าเรื่องของเรื่องคือความท้าทาย โดยเอาความชอบของตัวเองเป็นหลัก เขาไม่ได้คิดเรื่องเงินเป็นหลัก เพราะเขาบอกใช้ชีวิตธรรมดามาก ร้านอาหารที่เขาไปกินคือร้านอาหารที่อร่อย ไม่ใช่ที่หรูหราอะไรเลย ไม่แน่ต่อไปความท้าทายของเขาคงจะขยับไปไกลถึงต่างประเทศ เพราะเขายังอายุน้อยอยู่เลยค่ะ.

Ico24 Poo ,

Ico24 ทิมดาบ,

และ Ico24 แก้ว.

ขอบคุณคุณปู คุณทิมดาบและคุณ แก้วครับ สำหรับดอกไม้กำลังใจ

นึกเสมอว่าความอยากรวย จะมีแต่ทำให้ไม่รวย แต่การทำสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีที่สุดคือหนทางแห่งความสำเร็จในชีวิต ซึ่งความรวยเป็นเพียงส่วนหนึ่งครับ

น้าจ้าครับ

ชัดเจนนะครับ คนที่ได้ทำในสิ่งที่ตนถนัดหรือชอบมักจะทำได้ดี และมีความสุขด้วย เส้นทางชีวิตของคนเราจึงไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แต่เรียนรู้กัน นำประสบการณ์มาเป็นประโยชน์กับเราได้เสมอครับ

และจริงๆ แล้ว ปัจจุบัน ก็เป็นเพียงทางผ่านหนึ่ง ความสำคัญอยู่ที่เราจะเรียนรู้อะไรจากทางผ่านนี้

ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันครับ

 

  • Ico48    ดร.ภิญโญ
  • ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมชม

  • Ico48    ยายธี
  • ขอบคุณครับยายธี อยู่อินเดียได้มีโฮกาสรู้จักนักธุรกิจไทยระดับสากลบ่อยๆ ครับ เป็นความรู้ที่น่าสนใจครับ

    Ico48    ไพบูลย์

    ขอบคุณคุณไพบูลย์ครับ

    สิ่งที่ CEO เหล่านี้มีอีกอย่างหนึ่งก็คือ ธรรมาภิบาลและมักจะเป็นนักปฏิบัติธรรมด้วย

     

    Ico48    ปภังกร วงศ์ชิดวรรณ

    ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจกัน

    มนุษย์เราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิต และหาความ "รู้" จากสิ่งนั้นครับ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท