โดยส่วนตัว ผม เคยนึกคิดอยู่เสมอว่า คุณหมอออร์โธฯ จะค่อนข้างมีการบริการที่เข้มข้นและดุดัน เนื่องจากเป็นงานที่ยุ่งเกี่ยวกับของแข็ง เช่นกระดูกและข้อ ซึ่งต้องอาศัยการดึง ตัด ต่อ ขันน็อต มัดลวด พันเฝือกปูน ทำงานเสร็จเป็นเรื่องๆให้สมบูรณ์และพิการน้อยที่สุด แต่เมื่อได้มีโอกาสมาพบได้พูดได้คุยกับคุณหมอออร์โธหนุ่มหล่อ ทำให้ความรู้สึกดั้งเดิมของผมต้องถูกเปลี่ยนไป
“คุณหมอครับ เท่าที่ผมได้มีโอกาสได้มาเยี่ยมตึกผู้ป่วยกระดูกและข้อที่คุณหมอดูแลอยู่ ผมรู้สึกถึงบรรยากาศการบริการที่ดี ผู้ป่วยดูจะได้รับการบริการที่ดีและเหมาะสม ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลนะครับ ” ผมป้อนคำชมอย่างจริงจังด้วยความรู้สึกที่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
“ ขอบคุณครับ อาจารย์ แต่ผมเองยังไม่ค่อยพึงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ครับ ” คำตอบของแก ทำให้ผมถูกดึงความสนใจจากความชื่นชมที่มีอยู่มายังคุณหมออย่างกะทันหัน จนต้องถามย้อนกลับด้วยความฉงนสงสัย
“อะไร ที่คุณหมอเกิดความรู้สึกอย่างนั้นหรือครับ”
“ ในฐานะของหมอออร์โธนะครับ ผมว่า ผมยังต้องพยายามดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องไปให้ถึงที่บ้านให้ได้ครับ ผมอยากรู้ว่าทุกรายที่ผมผ่าตัดหรือทำอะไรๆให้ เขาอยู่ได้เป็นสุข และใช้ชีวิตประจำวันได้จริงหรือเปล่าครับ ” แกตอบทันทีอย่างมุ่งมั่น จนเห็นแววตากระตือรือร้น
“ อาจารย์คงอยากรู้แน่เลยว่า ทำไมผมคิดแบบนี้ขึ้นมา” แกรีบออกปากโดยไม่รอให้ผมถาม จริงครับ ผมต้องอยากถามแน่ๆ เพราะมันต่างจากมุมมองดั้งเดิมที่ผมได้เคยนึกถึงอย่างที่เล่าแล้วข้างต้น
“ อย่างน้อย ผมก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่า สิ่งที่ผมคิดว่าทำดีที่สุดแก่คนไข้ กลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิด เช่น คนไข้เบาหวานคนหนึ่งที่ผมต้องตัดนิ้วเท้าจำนวนหนึ่งออกจากภาวะแทรกซ้อน ซึ่งผมก็พยายามเตรียมกายอุปกรณ์ เป็นรองเท้าหนังหุ้มส้น เพื่อให้เขาดูดี และเดินได้อย่างสมดุล แต่กลับพบว่า เป็นอุปสรรคต่ออาชีพ หาปลาของเขา ”
“ส่วนอีกราย ถูกตัดขาจากอุบัติเหตุรถชน รายนี้ยากจนมาก ผมพยายามหาผู้บริจาคเงินหลายราย จนได้ขาเทียมอย่างดี ชนิดที่ตัวเองยังภาคภูมิใจที่ได้ทำสิ่งที่ผมคิดว่าดีที่สุดแก่คนไข้ของผม ” คุณหมอหยุดพูด และครุ่นคิดเหมือนกำลังทบทวนเรื่องในอดีต ในขณะที่ผมรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“ วันที่ไปเยี่ยมบ้าน เพื่อดูว่าขาเทียมใช้ได้ดีแค่ไหน ผมกลับพบว่า ขาเทียมที่น่าภาคภูมิใจนั้น ถูกจัดเก็บอย่างดี และถูกนำมาใช้เฉพาะเวลาจะเข้าเมืองเท่านั้น เมื่อผมถามถึงสาเหตุ แกก็ตอบอ้อมแอ้มเหมือนกลัวผมต่อว่า ว่า เวลาแกลงไปทำนา มันติดขี้โคลน จนดึงไม่ขึ้น และก็ทำความสะอาดยากมาก วันๆแกก็ทำนาเกือบทั้งวัน แกบอกว่า แกซาบซึ้งที่ผม และผู้บริจาคพยายามจัดทำจัดหาสิ่งนี้ให้แก ในชั่วชีวิตนี้แกคงเป็นคนโชคดีที่สุดที่ได้ของที่มีค่าชิ้นนี้ชนิดฟ้าประทานมา แกเลยอยากจะทะนุถนอม ให้อยู่ทนนานที่สุด และจะใช้เฉพาะตอนเดินทางเข้าเมืองนานๆทีเท่านั้น ” คุณหมอพูดแล้วก็ยิ้มออกมา จนผมแปลกใจ เพราะคุณหมอกำลังพูดถึงสิ่งที่ตรงข้ามกับความคาดหวังในความพยายามที่กระทำต่อคนไข้ แต่ก่อนที่ผมจะเอ่ยปากถามต่อ คุณหมอก็ชิงตอบให้ผมเข้าใจ
“ เดี๋ยวนี้ ผมเข้าใจแล้วครับ ว่า สิ่งที่ดีที่สุดในความคิดเรา ไม่ว่าสวย หรือแพงเท่าไร อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดในความเป็นจริงของชีวิตคนไข้ของเรา ผมได้ปรึกษากับทีมงาน และเห็นพ้องต้องกันว่า ประสบการณ์จากชีวิตคนไข้เหล่านี้ จะเป็นบทเรียน ที่เราจะต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม ต้องมองให้เห็น คิดให้ออก ถามความต้องการ และเยี่ยมให้เห็นความเป็นจริง ของบริบทผู้คน เราถึงจะทำสิ่งที่ดีและเหมาะสมแก่คนไข้ของเราได้ ”
“ เราจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆในที่สุดครับ ”
คุณหมอไม่ใช้คำว่า “ผม” แล้ว แต่คำว่า “เรา” ซึ่งนั่นก็ได้ตอบคำถามที่ผมอยากถามต่อจนหมดสิ้นแล้ว ความชัดเจนในการทำงาน และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ได้เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานของ ทีม “เรา” แล้วครับ ผมมั่นใจ
ไม่มีความเห็น