มีโอกาสได้ "รับปาก" น้องๆ ว่า "ตกลง" รับเป็นวิทยากรในการอบรมแก่น้องๆนักศึกษาที่มหาวิยาลัยราชภัฏเลย แรกทีเดียวนั้นก็ลังเลๆใจ เพราะ 1. จะไปบรรยายเรื่องอะไร 2.จะพาเขาทำได้ไหม 3.ช่วงนั้นตามตารางมีกิจที่ต้องทำแล้ว(แต่หากไม่ไปเขาก็ทำได้) เลยตกปากรับคำนายเป้า กฤษฎาว่าจะไป......
หัวข้อคร่าวๆที่ได้รับการ สื่อสารมาคือ "การจัดกิจกรรมเชียร์ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์" โดยเน้นประเด็นของการคิด ริเริ่ม สร้างสรรค์ และการจัดระบบรับน้องใหม่ให้เข้าที่ เข้าทาง และการทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนรู้ถึงบทบาท หน้าที่ของตน อันจะนำไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงของการจัดกิจกรรมเชียร์
และ ที่ลำบากใจขึ้นมากอีกคือ ต้องร่างหลักสูตร พร้อมกำหนดการของการอบรมเองทั้งหมด......ในเวลา 2 วันครึ่ง อ้าว แล้วเราจะยัดอะไรใส่ไปในสองวันครึ่งที่เขากำหนดมาให้เรา และที่สำคัญ ทีมวิทยากร มีใครบ้าง อะไร ยังไง คนที่เคยทำด้วยกันก็ห่างหายไปแล้ว จึงเป็นโจทย์หนักอย่างยิ่ง
จึงพยายามชวนน้องๆไปร่วมทำงาน ............
ณ เวลานี้ สิ่งต่างๆได้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ตามที่ตัวผมเองได้ตั้งเป้าไว้
1. น่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ของผู้จัดมากกว่า70%
2. อีก 30% ที่เหลือ ผมว่าน่าจะบวกอีกสัก 30% เข้าไปอีก เพราะได้พยายามสอดแทรกสิ่งที่ผู้จัดไม่ได้ต้องการโดยตรง แต่เป็นสิ่งที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ให้เขาเข้าไป
3. การไปครั้งนี้ ได้สร้างคน 2 กลุ่ม อย่างเห็นได้ชัด คือ ผู้เข้ารับการอบรม และทีมวิทยากร ซึ่งผลพลอยได้ที่สำคัญคือ ทีมวิทยากร มือใหม่ที่ไปด้วยกัน
การทำงาน ย่อมมีข้อบกพร่องเป็นธรรมดา ...........เรื่องบางเรื่องอาจจะไม่ตรงใจผู้จัดบ้าง ก็มี ก็เป็นเรื่องธรรมดา
อีก สิ่งที่ได้ประจักษ์แก่ใจและจิตของตนคือ ผลของการทำความดี ....คล้ายๆกับการปลูกกล้วยไม้ ที่ออกดอกช้า แต่งดงาม เมื่อไปพบเพื่อนร่วมรุ่น
ผมชื่นชมท่านายกสโมสรนักศึกษาคณะ มนุษยศาสตร์ฯ ม.ราชภัฏเลย ที่กล้าคิด(นอกกรอบ) กล้าตัดสินใจและทำในสิ่งที่สร้างสรรค์และเกิดการพัฒนา .....
"เราจะอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง จะประคองกันไปให้ถึงฝัน ถึงจะว่าอย่างไรว่าตามกัน เรามุ่งมั่น มุ่งเน้นความเป็นทีม"
ปล. แท้จริงกะจะบันทึกมากกว่านี้ แต่เนื่องจากข้อจำกัดทางกายคือ เพลีย จากการประชุมร่วม 11 ชั่วโมง จึงขอยุติการบันทึกไว้ไก่อน ครับ
ไม่มีความเห็น