แถลงการณ์ สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน (องค์กรสาธารณประโยชน์)
เรื่อง แนวคิดการใช้ พรบ.โบราณสถานเพื่อบังคับใช้กับสนามหลวงของกรุงเทพมหานคร
ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อมวลชนโดยทั่วไปถึงกรณี กรุงเทพมหานคร โดยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครมีแนวความคิดจะใช้พระราชบัญญัติโบราณสถาน มาตรา 32 มาบังคับใช้กับสนามหลวง หลังจากที่ปิดเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ฯมาเป็นเวลากว่า 1 ปี และจะห้ามใช้สนามหลวงในการชุมนุมของประชาชนเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยจะใช้มาตรการจับปรับ ที่อ้างอิงจาก พระราชบัญัติโบราณสถาน ที่มีบทกำหนดโทษสำหรับผู้บุกรุกโบราณสถาน โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี โทษปรับ 1 ล้านบาท นั้น
สนามหลวงแม้จะได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถาน แต่ด้วยลักษณะเฉพาะของสนามหลวง ที่เป็นพื้นที่โล่งว่างใจกลางเมือง เป็นศูนย์การการเดินทางของประชาชนที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร สนามหลวงรับใช้ประชาชนในประเทศไทยในแง่มุมต่าง ๆ ได้อย่างดีมาโดยตลอด สนามหลวงไม่มีเป็นเพียงสถานที่เพื่อจัดงานพระราชพิธีเพียงอย่างเดียวมาตั้งแต่แรกเริ่ม สนามหลวงเป็นจุดพักพิง พักผ่อน แหล่งสันทนาการของประชาชนระดับรากหญ้า คนยากจน ที่มาใช้สนามหลวง มาโดยตลอด แนวความคิดของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร มีเจตนาปรับปรุงสนามหลวงให้สวยงานและอ้างการใช้บริการสนามหลวงจากชนชั้นกลางของกรุงเทพมหานคร ที่ไม่มีเคยเข้ามาใช้บริการสนามหลวงแต่อย่างใด ในทางกลับกัน กรุงเทพมหานครกลับพยยามผลักดัน ผู้ที่ใช้สนามหลวงในการดำรงชีวิตออกจากพื้นที่ และพยายามสร้างกติกาเงื่อนไข โดยอ้างกฎหมายที่มีมาตรการการลงโทษที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายของประชาชนที่เป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคม
สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) ในฐานะที่เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน ที่ทำงานด้านอาสาสมัครในพื้นที่สนามหลวงอย่างต่อเนื่องมากวา 10 ปี ขอเรียกร้องให้ คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ทบทวนแนวความคิดดังกล่าว และย้อนกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์การใช้สนามหลวงในแง่มุมต่าง ๆ ให้ครบถ้วน โดยปราศจากอคติทางการเมือง และขอให้คำนึงถึงการใช้สนามหลวงเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ในฐานะพลเมืองผู้เสียภาษีอาการอย่างเสมอภาคกัน ด้วยเหตุเพราะ การใช้บทกำหนอโทษดังกล่าว เจตนาของกฎหมายมิได้มีเพื่อกีดกันกีดกั้นการใช่สถานที่โบราณสถานที่มีลักษณะเฉพาะอย่างสนามหลวง
24 พฤษภาคม 2554
สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน (องค์กรสาธารณประโยชน์)