ชีวิตสับสนในสัปดาห์แรก


สัปดาห์แรกหลังรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง สัปดาห์ที่เผชิญกับความสับสน การคิดวกวนในการจัดการชีวิตเพื่อดูแลอีกลมหายใจในท้อง

 

.....ถึงแม้จะตั้งใจไว้แล้วว่าเจ้าตัวน้อยจะเติบโตไปพร้อมๆ กับการขยายของท้องแม่  แต่ก็ต้องยอมรับว่าชีวิตสับสน คิดกลับไปกลับมาบ่อยครั้ง....ความคิดวนเวียนอยู่ในหัวสมอง  เราคิดถูกแล้วหรือที่เอาเด็กไว้ เราตัวคนเดียว มีโรคประจำตัว ตัวเองยังดูแลตัวเองได้ไม่ดี แล้วต้องดูแลเด็กอีกคนจะไหวเหรอ?.....เอาเด็กออกดีไหม แล้วชีวิตก็เริ่มต้นใหม่ ตอนนี้เขายังเป็นแค่ก้อนเลือดคงยังไม่เป็นไร.....แต่เขาเป็นลูกเรานะ  เขาคือคนที่จะมาสร้างกำลังใจให้ชีวิตเรา  ถึงไม่มีใคร เราก็มีเขา เขาเกิดมาเพื่อเรา เพื่ออยู่เป็นเพื่อนเรา เพื่อมารักเรา เพื่อมาให้เรารัก.....ต้องสู้ สู้ และสู้กับปัญหา ปัญหา และปัญหา .....

 

......หลังการตรวจครรภ์ด้วยตัวเองวันอาทิตย์  และรู้แล้วว่าผู้ชายให้เอาออก แสดงว่าเราพึ่งอะไรเขาไม่ได้แล้ว เมื่อเราจะเอาเด็กไว้ก็ต้องคิดว่ามีอะไรบ้างในชีวิตที่ต้องจัดการ เพื่อให้ชีวิตแม่ลูกดำรงได้ด้วยดี......

 

.....การเงิน  ตอนนี้นาวยังมีงานทำมีเงินเดือน.....แต่ไม่มีเงินเก็บเลย แถมมีค่าใช้จ่ายตายตัวประจำทุกเดือน ต้องผ่อนรถ ส่งค่าประกันชีวิต 3 อัน  ....หรือจะขายรถจะได้มีเงิน แต่มันไม่คุ้มนะสิ แถมไม่มีรถใช้ คนท้องก็ใช้มอเตอร์ไซด์ลำบาก และนาวอยู่คนเดียว พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว ญาติพี่น้องอยู่ไกลคนละจังหวัด ทุกอย่างต้องช่วยเหลือตัวเอง ถ้ามีรถยนต์เราก็ยังไปทำงาน ไปทำอะไรได้ สรุปก็ต้องยังมีค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม ถ้างั้นก็ต้องลดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยอื่นๆ และต้องเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง  เราถนัดงานเขียน  อาจต้องหารับทำงานเขียน แต่ยังไงช่วงแรกก็ไม่มีค่าใช้จ่ายมากอยู่แล้ว การเงินยังไม่ใช่เรื่องต้องเครียดมากสำหรับตอนนี้  เดี๋ยวคงมีหนทางเก็บเงินสำรองใช้จ่ายยามฉุกเฉินได้..........

 

......สุขภาพ  โรคประจำตัวคือโรคลมชัก อาการจะไม่ได้ชัก แต่จะเป็นวู้บ เดิน ยืน นั่ง พูด หรือทำอะไรอยู่ก็แล้วแต่หากอาการโรคกำเริบ ก็จะหมดสติล้มลงทันที เพียงแต่จะหมดสติแค่ชั่วครู่ อาจแค่นาที 2 นาที แล้วก็จะตื่นขึ้นมา บางครั้งตื่นก็ไม่มีอาการอะไรต่ออีกเลย เหมือนปกติ  บางครั้งก็เพลียต้องพัก ทำอะไรต่อไม่ได้ อาการบอกล่วงหน้าจะล้มแค่ไม่กี่วินาที บอกใครไม่ทัน เตรียมตัวอะไรไม่ทันก่อนสติจะดับวู้บเลย  หมอบอกว่าเป็นปัญหาจากสมอง  ตอนนี้ต้องกินยาคุมอาการทุกวันๆ ละ 3 เม็ด ปีที่ผ่านมามีอาการล้มต่อเนื่อง ประมาณเดือนละครั้ง.......เช้าวันจันทร์จึงรีบไปหาหมอเพื่อถามว่าหากตั้งครรภ์ยังสามารถทานยานี้ได้อยู่ไหม  หมอบอกว่ายานี้มีคำเตือนว่าไม่ให้ใช้กับผู้ตั้งครรภ์  ไม่มียาตัวไหนสำหรับคุมอาการโรคนี้ที่ไม่มีผลต่อเด็ก  หมอแนะนำว่าต้องหยุดยาไปจนกว่าเด็กจะไม่ได้ให้นมลูก  ซึ่งเป็นระยะเวลานานมาก  ก่อนหน้านี้นาวเคยหยุดยาด้วยตัวเองมาครึ่งเดือนเพราะไม่อยากให้ยาสะสมในร่างกายซึ่งจะมีผลต่อไต กลัวเป็นโรคไตก็เลยหยุดยาเอง  ผลปรากฏว่าล้มบ่อยมาก สัปดาห์ละสองหรือสามวัน บางวันล้ม 3 ครั้ง จนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะล้มหัวฟาดพื้นปูน แต่ก็ไม่เป็นไร  หมอเลยย้ำว่าต้องกินประจำ ไม่งั้นจะคุมอาการโรคไม่ได้  และจะมีผลดื้อยาอีกด้วย......ครั้งนี้ หมอบอก เราต้องเลือกว่าจะดูแลแม่ หรือดูแลลูก  อยู่แล้ว นาวก็ต้องเลือกลูก  ก็เลยหยุดกินยามาตั้งแต่วันจันทร์  หากจะล้ม  ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ถือว่าแล้วแต่บุญแต่กรรมที่เจ้าตัวเล็กกับแม่จะทำมาร่วมกัน  .....ก็บอกลูกในใจ ถ้าจะมาอยู่ด้วยกัน ถ้าจะมาเป็นลูกเป็นแม่กัน ต้องอดทน ต้องต่อสู้ไปด้วยกัน......

 

......การบอกคนอื่น  ตอนนี้มีแค่เพื่อนสนิทบางคนที่รู้ และเพื่อนทุกคนที่บอกก็ดีใจหาย บอกกันทุกคนว่าหากมีอะไรให้ช่วยก็ให้บอก  จะมาอยู่ที่บ้านเขาก็ได้ บุษเพื่อนรุ่นน้องน่ารักมาก บอกเราว่าไม่เป็นไร เขาจะเป็นแม่บุญธรรม เขาจะมาช่วยเลี้ยงเด็ก จะแวะมานอนด้วยบ่อยๆ ดีใจ ปลื้มใจจนบอกไม่ถูก เรายังมีเพื่อนที่จะช่วย เราไม่ได้ต่อสู้คนเดียว......โทรบอกหลานสาวคนสนิท ที่อายุเท่ากัน เขาบอกให้เอาไว้ อีกหลายเดือนกว่าจะคลอดเขาจะเก็บเงินมาช่วย เขาจะรับซื้อข้าวของเด็กให้  แต่คิดว่าพี่ๆ คงต่อต่อว่ามากแน่ๆ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำไมปล่อยให้มี สองน้าหลานเลยคุยกันว่าจะยังไม่บอกใครดีกว่า  ให้ท้องโตกว่านี้และเราจัดการชีวิตได้โดยไม่เดือดร้อนญาติพี่น้อง แล้วค่อยบอกเขาดีกว่าเขาก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมาต่อว่าเราได้  ถ้าบอกตอนนี้ญาติๆ ก็ใช่จะมาช่วยเราได้ เพราะทุกคนก็ต้องมีภำระ จะให้มาอยู่กับเรา มาช่วยเราก็เป็นไปไม่ได้ แล้วจะต้องมีคำพูดอะไรต่อมิอะไรให้เราเครียดเพิ่มขึ้นอีก อย่าเลยดีกว่า ดูแลตัวเองต่อไปดีกว่า.......

.........คนหนึ่งซึ่งสำคัญมาก ต้องบอก คือ ลูกชายสุดที่รัก  นาวมีลูกมาแล้วหนึ่งคน เป็นลูกชาย ตอนนี้เขาอยู่กับพ่อของเขา เรียนโฮมสคลู พ่อและแฟนพ่อเป็นคนสอน กำลังขึ้นชั้นป.3 ........ต้นกล้าเติบโตมาด้วยความรัก ถึงแม้พ่อกับแม่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน นาวไม่ได้อยู่กับพ่อเขาตั้งแต่เขาอายุไม่กี่ปี แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกัน ยังคุยกัน ยังช่วยกันดูแลเขา นาวจะไปอยู่กับเขาที่บ้านพ่อเขาทุกวันหยุด หรือช่วงว่าง บางครั้งเขาก็มานอนที่คอนโดกับนาวหากต้องมาทำกิจกรรมพิเศษในเมือง.......นาวจะพูดคุย ปรึกษาเขาทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขา ความสัมพันธ์ของแม่ลูกอยู่ในขั้นดีมาก....ครั้งนี้นาวก็ต้องบอกเขาด้วยตัวเอง......คาดว่าเขาจะเข้าใจ เพราะที่ผ่านมา ต้นกล้าน่ารักเสมอ พยายามเข้าใจแม่ ช่วยเหลือแม่เท่าที่เขาจะช่วยได้ตลอด.....นาวเชื่อว่าเขาจะรับรู้ว่า แม่รักเขาเหลือเกิน แม้ว่าแม่จะมีน้อง เขาก็จะเป็นสุดที่รักของแม่ไม่เปลี่ยนแปลง....ต้นกล้าจะได้รับการดูแลจากแม่ด้วยความรักเหมือนเดิม  น้องจะไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราแม่กับลูกชายคนโตเปลี่ยนแปลงไป........

 

.....วันพุธที่ผ่านมา ต้องนั่งเครื่องบินมากรุงเทพฯ อาการแย่มาก ไม่สบายท้อง เวียนหัว อึดอัด  แม้ลงเครื่องแล้วก็ไม่ดีขึ้น ตอนนั่งแท็กซี่มาโรงแรมต้องขอให้แท็กซี่จอดรถซื้อมะม่วงดอง มะขามจี๊ดจ๊าด ไปถึงโรงแรมยกเลิกนัดตอนเย็นเพราะไม่ไหว  อยากให้ร่างกายได้พักผ่อนจะได้มีแรงไปประชุมงานวันพรุ่งนี้  เพราะงานประชุมอีกวันสำคัญมาก หยุดไม่ได้.......เมื่อได้พักผ่อนร่างกายก็ดีขึ้น  แต่ก็มีเวียนหัว มวนท้อง อยากอาเจียนอยู่บ้าง  วันพฤหัสไปประชุมได้ ไม่มีอาการเท่าไหร่ ตอนเย็นเลยไปร่วมงานศพของแฟนรุ่นพี่  ต้องนั่งรถออกไปอีกจังหวัด เสร็จจากงานศพ อาการกลับมาแย่เหมือนเดิม เวียนหัวมาก มวนท้อง รู้สึกไม่สบายเลย คืนนั้นนอนไปด้วยสภาพร่างกายที่ย่ำแย่........ตอนสายของอีกวันได้โทรหาผู้ชายคนนั้น  ร้องไห้ด้วย ต่อว่าเขาว่าทำไมไม่ดูแลเราเลย เราไม่สบายมาก ช่วยอะไรเราบ้าง  แต่ก็ไร้ประโยชน์ เขาอยู่ในสภาวะที่ไม่พร้อมในการดูแลเรา พูดไปก็แค่นั้น เสียเวลาเปล่า.......

 

........วันศุกร์ ไม่มีงาน มาพักที่บ้านพี่สาวที่กรุงเทพฯ จึงเป็นวันพักผ่อนอย่างแท้จริง กิน แล้วก็นอน แล้วก็กิน ฮะ ฮะ ฮะ ชีวิตที่ได้พักผ่อนนี่ดีจริงๆ .....อาการไม่สบายยังมีบ้าง  แต่ไม่ได้เจอใคร เพราะทุกคนในบ้านไปทำงาน ไปเรียนกัน นาวเลยสบาย

 

.....วันเสาร์ วันนี้แทบไม่มีอาการไม่สบายท้อง นาวยิ่งhappy นอนดูหนังทีวี พักผ่อนแบบสุดๆ พยายามจะสะสมความสุขเอาไว้มากๆ ตอนที่มีความทุกข์จะได้มีกำลังใจ เราเคยมีช่วงมีความสุขนะ ทนเผชิญกับความทุกข์ไป ไม่นานเกินรอ เราก็จะต้องเจอกับความสุข....เหมือนที่เราจะต่อสู้เผชิญกับนานาปัญหาสารพัด เพื่อจะได้เจอกับวันแรกที่เจ้าตัวเล็กในท้องออกมาทักทายและเป็นกำลังใจให้แม่........

 

.......คิดถึงต้นกล้าจัง อยากกลับเชียงใหม่ไปกอดต้นกล้า อยากคุยกับต้นกล้า ต้นกล้าเป็นกำลังใจให้แม่ด้วย ให้แม่กับน้องต่อสู้และมีชีวิตอยู่จนถึงวันที่แม่สามารถกลับมากินยาโรคลมชักได้ด้วย..........รักลูกชายคนโตของแม่ที่สุด

 

####ขอขอบคุณท่านที่ให้กำลังใจค่ะ ขอบคุณมาก###

 

หมายเลขบันทึก: 440156เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2011 15:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ขอให้ผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปได้ด้วยดีค่ะ

ตามมาให้อีกหนึ่งกำลังใจครับ

คุณนาวครับ โรคลมชักที่เป็นมันน่าจะมีรูปแบบเฉพาะ คือ ก่อนจะหมดสติอาจมี "ความรู้สึก" หรือ อาการที่มาก่อน แม้จะนำมาก่อนไม่กี่วินาที ก็สำคัญมาก ที่จะเตือนคุณนาวให้ทรุดนั่งบนพื้น และวางมือจากกิจกรรมที่ทำ ลองทบทวนรูปแแบที่ว่านี้นะครับ มันช่วยได้มาก

ผู้ป่วยลมชักซึ่งมีทายาทไว้เชยชม ไว้อยู่เครียงข้างนั้นมีมากมายครับ ผ่านช่วงตั้งครรภ์และให้นมไปแล้ว ก็กลับมากินยานะครับ

ระหว่างเว้นยา ทำใจว่าอาการชักอาจถี่ขึ้น อาการชักขณะขับรถนั้นอันตรายมาก แต่น้อยกว่าการขี่มอร์เตอร์ไซด์และชัก

การ "ได้พัก" ช่วยได้จริงๆ ได้พักจากการทรมานสังขาร ทรมานใจ มาอยู่ในพื้นที่สงบ อบอุ่น รู้สึกปลอดภัย ลองหาพื้นที่และจังหวะที่ได้พักจริงนะครับ

เชื่อว่าคุณนาวจะหาได้หลายพื้นที่ และได้พักวันละหลายครั้ง

ให้กำลังใจด้วยคน ขอชื่นชมคุณด้วยนะค่ะ สู้ๆๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท