ห่างหายไปนานกับการเล่าเรื่องให้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ฟัง
ครั้งนี้จะเล่าให้ฟังตั้งแต่กลับจากอบอรมพี่เลี้ยงโครงการมหิงสา
ปลายเดือนเมษายน ร.ร.เปิดเทอมวันที่ 2 พฤษภาคม
เราและเพื่อนๆก็เดินทางขึ้นดอยผาผึ้งให้ถึงก่อน10.00น.
ตามนโยบายท่านผู้บริหาร ช่วงบ่ายแก่ๆมีการประชุมครู
พูดคุยในเรื่องแนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2554
จบลงที่ตรงว่า มีการจัดตั้งคณะทำงานยกระดับผลสัมฤทธิ์ตามนโยบาย
ของกระทรวง สพฐ. และผอ.สพป.ตากเขต 1 นำทีมโดยครูวิชาการคนเก่งของเรา
เพื่อนม๋อง อีกคณะหนึ่งให้วางแผนปรับพื้นที่ในโรงเรียนให้เป็นสวนพืชผัก
และงานเกษตรกรรมดำเนินรอยตามพระยุคลบาท "เศรษฐกิจพอเพียง" นำโดย
ครูเกษตรศิษย์เทคโนฯลาดกระบัง-ครูใจ อีกคณะหนึ่งดำเนินการวางแผน
ไปศึกษาดูงานอุทยานผักพื้นบ้านและถวายพระพรฯ เราก็รับงานประกันคุณภาพ
การศึกษาและบริหารจัดการงานบุคคลที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนในช่วงเปิดภาคเรียน
ด้วยการบริหารงานแบบ "หน่วยดับเพลิง" (ครูพี่ตาดตั้งฉายาให้) ผู้บริหาร
คณะครูและบุคลากรโรงเรียนผาผึ้งวิทยาคมจำนวน 25 คน ได้ออกเดินทางด้วย
รถตู้ 2 คันในวันที่ 5 พฤษภาคม 2554 มุ่งหน้าสู่ทางใต้ จุดหมายแรก คือ
อุทยานผักพื้นบ้านบึงฉวาก-จ.สุพรรณบุรี ทุกคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
รอบแรกนั่งรถที่ทางอุทยานฯจัดให้ รอบสองส่วนใหญ่จะเดินชมกัน ยกเว้น คู่ดูโอ
เพื่อนนุชกับเพื่อนม๋องเช่าจักรยานปั่นรอบ(ย้อนศรเค้าอีกต่างหาก)
คนนอกกลุ่มเอ๊ย! คนนอกกรอบก็เป็นซะอย่างนี้ล่ะ แต่ท่านผอ.บอกให้เลือกชม
ตามอัธยาศัยนี่นา ออกจากนี่ก็ไปหาอาหารกลางวันทานกันแล้วเดินทางต่อ
จากนั้นเข้าเยี่ยมชมเกาะเกร็ด-นนทบุรี เพื่อให้ครูคหกรรมและทุกท่านไปศึกษา
งานหัตถกรรม แต่สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจ ร้านค้าเลยน้อย แต่หลายคนก็ได้
วิชา "ตัดขวด"เป็น "กอบัว" และเปิดโลกทัศน์ให้ตัวเอง รายการต่อไปมุ่งหน้า
สู่สะพานกรุงธน เพื่อไปขึ้นเรือล่องเจ้าพระยาที่ River Hotel ถ้าผาผึ้งไม่มี
ผอ.สมจิตร ชั่วอายุคนนี้หลายคนก็อาจจะไม่ได้สัมผัสกับเรืองล่องเจ้าพระยาลำนี้
ต้องกราบขอบพระคุณในการเปิดโลกทัศน์ครั้งนี้ภายใต้การนำของท่าน ณโอกาสนี้
คณะของเราเลือกนั่งชั้นบนของเรือเพื่อชมทิวทัศน์สองริมฝั่งเจ้าพระยา เมื่อเรือออก
จากท่ามุ่งหน้าไปสู่ปากน้ำเจ้าพระยา และสมาชิกในเรือทานอาหารไปสักช่วงหนึ่ง
จะมีมัคคุเทศน์ประจำเรือมาแนะนำสถานที่สำคัญสองริมฝั่งเจ้าพระยาและเพิ่มเติม
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คนไทยทุกคนควรรู้ เช่น ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์สาขาแรก
ของประเทศไทยและต้นโพธิ์สัญลักษณ์ของธนาคารซึ่งอนาคตอาจจะตกเป็น
ทรัพย์สินของต่างประเทศ โรงแรมโอเรียลเต็ล-สถานที่พักในอันดับแนวหน้า
ของโลกที่มีห้องพักสำหรับคนดังระดับโลก เช่น นางงามจักรวาล-ภรณ์ทิพย์
นาคหิรัญกนก นักเทนนิสมือหนึ่งระดับโลก ฯลฯ มาพัก เพราะราคาที่พักเพียง
คืนเดียวเป็นเลขหกหลัก คนเดินดินธรรมดาอย่างเราคงไม่มีสิทธิ์ เอาเป็นว่า
เหมือน "หมามองเครื่องบิน" อย่างไรอย่างนั้น ไม่เป็นไรผอ.เราเครือข่ายดี
ไปนอนที่พักฟรีตามนโยบายประหยัดที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์บางกรวย-
นนทบุรี โดยมีท่านผอ. รองผอ.โรงเรียนฯ และอาจารย์เอกชัย มารับด้วยตนเอง
ตั้งแต่คณะของเราขึ้นเรือล่องเจ้าพระยาแล้วแถมด้วยอาหารเช้าให้อีกหนึ่งมื้อที่อิ่ม
และอร่อย นับว่าให้มากกว่าโรงแรมห้าดาวอีก ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่
ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ชาวผาผึ้งจะไม่ลืมพระคุณในครั้งนี้เลย
เช้าวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 คณะของเราเดินทางมุ่งหน้าสู่รพ.ศิริราชเพื่อ
วางพุ่มดอกไม้ถวายพระพรเยี่ยมพระอาการของพระเจ้าอยู่หัวของเรา
ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแม้จะมีอาการเงอะงะบ้างแต่ไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรค
จากนั้นก็พากันไปซื้อสื่อการเรียนการสอนที่ร้านศึกษาภัณฑ์พานิชที่ราชดำเนิน
ไม่เกินบ่ายโมงคณะของเราก็เคลื่อนขบวนออกจากราชดำเนินมุ่งหน้ากลับตาก
แต่สำหรับตัวข้าพเจ้าเองขออนุญาตแยกตัวออกจากคณะ ด้วยภารกิจสำคัญ
เนื่องจากวันรุ่งขึ้นเป็นวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง ต้องการกลับไปเริ่มต้นอายุใหม่
กับพ่อแม่บังเกิดเกล้าที่ภูมิลำเนาเดิม คือ บ้านที่แปดริ้ว และต้องการให้เป็น
วันสำคัญของเราที่จะได้มีโอกาสอันน้อยนิดไปดูแลบุพพการี ก็สมกับความตั้งใจ
นั่งรถโดยสารกลับบ้านโดยไม่มีใครรู้ทำให้พ่อแม่ประหลาดใจและดีใจมาก
ได้กราบไหว้พ่อแม่ ได้ทำกับข้าวที่อร่อยให้พ่อแม่กิน ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน
พูดคุยซักถามสารทุกข์สุขดิบ นับว่าเป็นวันที่มีคุณค่าของชีวิต และตั้งปณิธานว่า
จะทำอย่างนี้ทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะด้วยภาระหน้าที่ไม่ได้อยู่ดูแลท่านอย่าง
ใกล้ชิดดีใจที่เห็นรอยยิ้มของท่านและแววตาดีใจ ภูมิใจที่มีน้ำตาซึมบริเวณขอบตา
ทำให้ตัวเองมีใจชื้น มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับชีวิต หน้าที่การต่อไป
ขอจบภารกิจที่ผ่านมาด้วยการกราบเท้าพ่อแม่ในวันคล้ายวันเกิด 7 พ.ค.แล้วพบกัน
สวัสดีค่ะ
ขอเป็นกำลังใจค่ะ
ขอบคุณพี่คิม
เข้ามาก่อนใครเลยนะคะ