เช้าวันใหม่ กับชีวิตของพลทหาร


ชีวิตพลทหาร

หลังจากที่หงีบหลับไปด้วยความเพลีย ปนด้วยความกังวลใจ อ้อ...ลืมเล่าไปว่าคืนแรกเราก็ด้วยทำโทษด้วย แล้วก็โดนก่อนเพื่อนเลย หลังจากที่ทานข้าวมารับของแจก อาบน้ำและเข้านอนตอน 3 ทุ่ม ก็มีการเป่านกหวีดกางมุ้ง ปรากฎว่าที่โรงนอนมันจะสร้างอาคาร 2 ชั้น ตรงกลางเป็น บก.คือที่ทำงานเอกสาร และด้านบนซ้ายขวาก็เป็นโรงนอน ข้างล่างเป็นที่ออกกำลังกาย ที่ประชุม

ซึ่งเขาจะเรียงเตียงนอนหันหัวเตียงติดกัน และมีตู้เหล็กใส่เสื้อผ้าวางอีกทีหนึ่ง และที่มุมเตียงจะมีเสาร์มุ้ง ซึ่งเตียงเรามันมีแค่ 3 เสา มันหายไป 1 อัน ทำให้กางไม่ได้ ต้องคลานลอดใต้เตียงประมาณ 20 เตียง ไปกลับ ทั้งที่เราแจงให้ทราบ และบอกกับครูฝึกแล้ว แค่ครั้งแรกเราก็รู้สึกไม่ประทับใจและต่อต้านแล้ว......

เช้ามืดอันหนาวเหน็บ ทั้งที่ก่อนนอนค่อนข้างจะร้อน ถ้าเป็นตอนนี้เราคงนอนอุ่นสบายในบ้านพัก เสียงนกหวีดดังปรี๊ดดดดดดด..............ยาวขึ้น 1 ครั้งเป็นสัญญาณบอกว่าให้ตื่นพับผ้าห่ม มุ้ง เปลี่ยนชุด ซึ่งระหว่างนั้นก็ต้องร้องด้วยเสียงอันดังสุดชีวิต ว่า อรุณสวัสดิ์ครับผู้ฝึก ครูฝึก ผู้ช่วยครูฝึก แล้วนกหวีดดังปรี๊ดอีกที ก็ต้องรีบวิ่งลงไปรวมกันที่หน้าโรงนอน แล้วงานก็เป็นธรรมเนียมว่างานนี้ต้องจับคนช้าทำโทษอีกตามเคย พวกทหารเกณฑ์จะตื่นประมาณตี 4 (ถ้าจำไม่ผิด) ทุกอย่างจะให้เวลาน้อยมาก พอมารวมแถวกันที่หน้าโรงนอนตามหมวดหมู่ ก็จะให้ไปปัสสาวะ และอุจจาระกันในเวลาแค่ 1 นาที ถ้าปวดมากๆ ขออนุญาตไปอุจจาระก็จะให้ประมาณไม่เกิน 3 นาที ทั้งนี้รวมเวลาที่วิ่งไปกลับด้วย

การแบ่งหมวดหมู่กัน ในเช้าวันแรกที่เราไป เข้าจะจับตัดผมใหม่ ดูประวัติการศึกษา และแยกคนที่จบการศึกษา ปวส. หรือ ป.ตรี ไปแต่ละกองร้อย เพื่อเป็นทหารทำงานใน บก.ร้อย แล้วก็จะจับยืนเรียงแถวกันตามความสูงต่ำ ในพลทหารเกือบร้อยคนเราอยู่ประมาณที่ 20 กว่า ทั้งที่สูงแค่ 171 ซม. แสดงว่าผู้ชายไทยยังเตี้ยกันเยอะ เพราะถ้าสูงไม่เกิน 157 ซม ก็ไม่ได้มาเป็นทหาร

วกกลับมาหลังจากไปทำกิจธุระด้วยเวลาอันน้อยนิด ซี่งความจริงคือพวกเราจะวิ่งกันไปที่ข้างห้องน้ำแล้วควักออกมาเยี่ยวเลย บ้างครั้งด้วยความรีบยืนซ้อนกันเยี่ยวรดกันย่อมมีบ้างเป็นธรรมดา สังเกตจากเสียงด่าท่อกันเป็นประจำ แต่เราก็ไม่เคยโดนนะ เรื่องระเบียบเวลาที่จำกัด ทำให้เราทำสถิติไม่อุจจาระเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากที่สอบถามมาก็ปรากฎว่าเป็นกันหลายคนอยู่

กลับมาตั้งแถวแล้วครูฝึก (ซึ่งเป็นทหารชั้นประทวน ส่วนผู้ฝึกจะเป็นร้อยตรีซึ่งจบมาใหม่) ก็พาออกกำลังกายวอร์มกันก่อน มีหลายท่ามาก ก็เหงื่อออกลิ้นห้อย แล้วค่อยไปวิ่งออกกำลังกายโดยการนับก้าวจังหวะพร้อมกับวิ่ง แล้วระยะทางที่วิ่งประมาณ 5 กม. แต่เขาจะค่อยๆ เพิ่มระยะทางขึ้นทุกวัน แล้วก็มีการร้องเพลงให้จังหวะพร้อมกับการวิ่งด้วย ซึ่งเรามักจะวิ่งผิดบ่อยมากจนโดนด่าเป็นประจำ

วิ่งเสร็จก็กลับมาที่โรงนอนไปอาบน้ำกัน มีขัน 1 ใบ สบู่ 1 ก้อน แชมพู 1 ขวด ผ้าเช็ดตัว 1 ผืน ออ...ลืมบอกไปของทุกอย่างที่ใช้จะเป็นสีเขียวขี้ม้าทั้งหมด แม้แต่กางเกงใน

หมายเลขบันทึก: 440126เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2011 12:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

วิ่งเสร็จก็กลับมาที่โรงนอนไปอาบน้ำกัน มีขัน 1 ใบ สบู่ 1 ก้อน แชมพู 1 ขวด ผ้าเช็ดตัว 1 ผืน ออ...ลืมบอกไปของทุกอย่างที่ใช้จะเป็นสีเขียวขี้ม้าทั้งหมด แม้แต่กางเกงใน

ตั้งแต่อ่านมาชอบประโยคข้างบนมากที่สุด อยากรู้จังทำไมทุกอย่างที่ใช้จะเป็นสีเขียวขี้ม้าทั้งหมด

และทำเป็นสีเขียวขี้ม้าทั้งหมดเพราะอะไร

สวัสดีค่ะ

ตอนเด็กมีกางเกงสีเขียวขี้มาใส่เหมือนกัน   เพราะมีผ้าที่เขาแจกมาจากกองร้อย คุณแม่ประหยัดจงนำมาตัดให้ลูก

นอนมุ้งเขียว ผ้าห่มเขียว อ้อมีเสื้อยืดเขียวคอกลมบ้างเหมือนกันค่ะ

ที่เป็นสีเขียวขี้ม้าเพราะกรมพลาธิการทหารบกเขาทำแจกจ่ายให้ทหารครับ สีเขียวขี้ม้าเป็นสีประจำของทหารบก อะไรๆ มันก็เลยเป็นสีเดียวกันหมด กลัวไม่ซึมซับความเป็นทหารหรือเปล่าไม่รู้ ทหารใหม่ทุกคนไม่ต้องใช้อะไรที่เป็นของตัวจากบ้านเลย เขาเตรียมไว้ให้หมดแล้ว

เป็นทหารท่านได้อะไรมากกว่าที่คิด (ผมโดนมาแล้วมากกว่าคิดไปต้องใกล ลืมไม่ลงจริงๆ)

ขอบพระคุณ คุณ บุญเสริม ทรัพย์แสนดี

แทนอีกหลายๆคนที่อยากรู้เกี่ยวกับ

สีเขียวขี้ม้าของทหารบกด้วยนะคะ

ก่อนนี้ไม่ทราบเลยจริงๆค่ะ

แต่ตอนนี้ทราบแล้วเป็นสีประจำของทหารบก นี่เอง

ขอขอบพระคุณอย่างสูงที่กรุณาสละเวลามาบอกกล่าวค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท