วิธีปฏิบัติแก้ปัญหาความเครียด


การรู้จักผ่อนคลายความเครียด จะทำให้เกิดผลดีต่อตัวเอง หน่วยงาน และสังคม

ฉันได้มีโอกาสอ่านบทความหนึ่งที่เป็นวิธีการปฏิบัติแก้ปัญหาความเครียดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงได้หยิบยกมาซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ให้ทุกท่าน

ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการใช้ชีวิตของคนเรานั้นทำให้หลายคนเกิดความ เครียดได้ง่าย ตั้งแต่คนเราก้าวออกจากบ้าน ก็เจอปัญหากับการจราจรที่แสนติดขัด ซึ่งอาจเกิดผลตามมา เช่น ไปเรียนสาย ผิดนัด ไปประชุมไม่ทัน ฯลฯ เรื่องดังกล่าวนี้อาจทำให้เกิดอาการหัวเสียได้และเครียดตามมา

นอกจาก เรื่องของปัญหาการจราจรแล้ว บางคนอาจเครียดกับการเรียนการทำงาน การมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับการทำงานเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าทำให้ถึงกับเครียดจนเกินไปก็ไม่ใช่สิ่งที่สมควร เพราะเมื่อเกิดความเครียดขึ้นแล้ว นอกจากจะไม่ได้งานดีอย่างที่ตั้งใจไว้ ยังส่งผลเสียด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ทำให้เกิดความผิดปกติทางร่างกายจนเจ็บป่วย ทำให้เสียความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงาน ทำให้ความคิดสับสน สมองไม่แจ่มใส คิดอะไรไม่ออก ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด คิดวนเวียนหาทางออกไม่ได้

ความเครียดจึงเปรียบเสมือนการเร่งเครื่องยนต์เอาไว้ โดยไม่ได้แล่นออกไป ทำให้สิ้นเปลืองทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และยังทำให้เครื่องยนต์สึกหรอด้วย ดังนั้น การรู้จักการผ่อนคลายความเครียด จึงเป็น เรื่องที่จำเป็น เพราะนอกจากจะช่วยคลายเครียด และเสริมสร้างสุขภาพจิตให้ดีขึ้นแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างผู้ร่วมงานด้วยกัน ทำให้เกิดบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ในการทำงาน ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างยิ่ง ทั้งต่อตัวผู้ทำงานเอง หน่วยงาน และสังคมโดยรวมด้วย

วิธีจัดการกับความเครียดอย่างง่าย ๆ มีดังนี้
1.คิดเชิงบวก และมีอารมณ์ขัน ฝึกตัวเองให้คิดและมองโลกในแง่ดี เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไข เปิดใจให้กว้างยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น ยอมรับว่าคนเราย่อมผิดพลาดได้และความผิดพลาดคือประสบการณ์ที่ดีที่ทำให้เรา ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง
2. ขอคำปรึกษา พูดคุยระบายกับคนที่เราไว้วางใจ เช่น เพื่อน พ่อแม่ เจ้านายหรือโทร ปรึกษาสายด่วนสุขภาพ 1667,1323 ของกรมสุขภาพจิต
3.ออกกำลังกาย นี่เป็นวิธีคลายเครียดที่ได้ผลดีและเป็นที่นิยมเพราะการออกกำลังกายทำให้ ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขและกล้ามเนื้อผ่อนคลาย การออกกำลังกายต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเองเช่น เดิน วิ่ง เต้นแอโรบิค โยคะ รำกระบอง เล่นฟุตบอลฯ เป็นต้น
4. ทำกิจกรรมที่ชอบ เช่นฟังเพลง อ่านหนังสือ /หนังสือธรรมมะ สปานวดตัว อาบน้ำอุ่นๆ ท่องเที่ยว ปลูกต้นไม้ หรือทำกิจกรรมที่เราชอบอะไรก็ได้ที่ทำแล้วรู้สึกผ่อนคลาย

ฉันคิดว่าถ้าหากเราจัดการกับความเครียดแล้วสุขภาพกายก็จะแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีอารมณ์ที่แจ่มใสอยู่เสมอค่ะ

หมายเลขบันทึก: 439915เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2011 22:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีคะคุณ Chatchadaphorn Hongnuan

ขอบคุณนะคะจะลองเอาไปใช้ดูคะ

สวัสดีค่ะคุณ'Chatchadaphorn Hongnuan'

แวะมาอ่าน'วิธีปฏิบัติแก้ปัญหาความเครียด'

ขอบคุณบันทึกดีๆค่ะ

สวัสดีครับคุณ microscope

ขอบคุณนะครับสำหรับบทความดี ๆ ที่มีสาระ

นำไปใช้ได้ครับ

คนเราต้องมองเชิงบวก และออกกำลังกายครับ เห็นด้วย

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับคุณ microscope วันหลังผมต้องหาท่างพ่อนคลานให้มากขึ้นขอบคุณสำหรับบทความท่ดีบทความนี้

สวัสดีค่ะคุณ microscope

ขอบคุณวิธีในการแก้ไขความเครียดคะ

ขอบคุณคะ

สวัสดีค่ะ คุณ microscope

ขอบคุณสำหรับเทคนิคดีๆ ในการคลายเครียดนะคะ

ขอบคุณคะ

สวัสดีคะคุณ Chatchadaphorn Hongnuan

ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่แบ่งปันนะคะจะลองเอาไปใช้ดูคะ

สวัสดีค่ะ คุณ Koo_chadaporn

ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาเยี่ยมชมและเป็นสิ่งที่นำไปใช้ได้ค่ะ ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ ดร.พจนา แย้มนัยนา

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมบทความนี้มากนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณศักรินทร์ รักอ่อน

ค่ะ เป็นวิธีที่น่านำไปใช้นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ kungnang

ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาเยี่ยมชม

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ Sithasinee

ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาเยี่ยมชม

อบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ POND POOKAK

ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาเยี่ยมชม

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีครับคุณ microscope

ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่แบ่งปันครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท