เวลาที่สั้นลง


ผมเคยคิดว่า เอ๊ะ ! เวลาเมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ ในหนึ่งวันเหมือนจะนานกว่าตอนนี้ เหมือนกับว่า หนึ่งวันเมื่อก่อน เราทำอะไรได้ตั้งเยอะแยะ (ส่วนใหญ่ก็คงจะวิ่งเล่น) แต่ตอนนี้เหมือนกับว่า ในหนึ่งวันทำอะไรไม่ทันเลย โลกเราหมุนเร็วขึ้นทำให้เวลามันสั้นลงหรือเปล่า

แต่มาคิดดู เมื่อก่อนวัยเด็ก เราไม่ต้องคิดอะไรมาก เล่นและเที่ยวอย่างเดียว แต่ตอนนี้เราต้องมีภาระ หน้าที่มากมายที่ต้องทำ ทำให้งานมันล้นมือ ทำอะไรไม่ค่อยจะทัน แต่เวลาที่สั้นลงอย่างแน่นอน ก็คือ เวลาที่เหลืออยู่ ที่เราจะได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แต่ละวินาที ที่ผ่าน เวลาของเราก็สั้นลงเรื่อย ๆ

ไม่รู้ว่าตัวเองได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่าหรือเปล่า บางครั้งก็คิดเสียดายเวลา แต่ก็แน่นอนเราไม่สามารถ ย้อนมันหรือเอากลับมาได้ คงต้องคิดถึงเวลาที่เหลืออยู่จะดีกว่าว่า จะจัดการกับมันอย่างไรดี ให้คุ้มค่าและมีประโยชน์มากที่สุด แต่เราก็มักจะทำไม่ค่อยได้

ผมมีข้อคิด ดี ๆ จากท่าน พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) มาให้ได้อ่านกันครับ

ท่านกล่าวไว้ว่า

1.สรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ได้เป็นไปตามที่บนบานศาลกล่าว หากโลกนี้ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้คนสมปรารถนา ถ้าป็นเช่นนั้นจริง โลกนี้จะเหลือใครบ้างที่เป็นคนผิดหวัง

2.หลักของความจริงสากลมีอยู่ว่า...ทุกสิ่งทุกอย่าง ไหลไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ทางพระเรียก อนิจจัง ถ้าเราไม่ยอมรับการปลี่ยนแปลง...ซึ่งถือว่าเป็นกฏธรรมชาติ เราถึงได้เป็นทุกข์

3.คนที่ทุกข์ เพราะทำงานแล้วเจ้านายไม่เห็นคุณค่า ต้องนึกถึงความไม่เที่ยง วันนี้เขาไม่เห็นคุณค่า...แต่พรุ่งนี้อาจไม่ใช่ ส่วนคนที่ได้รับคำชมเชย จำไว้มันไม่เที่ยง คนที่ชมเราวันนี้ อาจเป็นคนเดียวกับคนที่ตำหนิเรา วันหน้า

4.บางคนมีชีวิตขึ้นกับ สายตาของคนอื่น ไม่เชื่อมั่นใน วิจารณญาณของตนเอง มักคิดเสมอว่า...ถ้าเราพูดเช่นนี้ ทำอย่างนี้ ใช้โทรศัพท์รุ่นนี้ คบเพื่อนคนนี้ ใช้ของยี่ห้อนี้ แล้วคนอื่นจะมองเราอย่างไร คนประเภทนี้ ทั้งชีวิตแทบไม่มีช่องว่าง ให้ความสุขได้เล็ดลอดเข้ามาในผืนแผ่นดินใจเลย เพราะ...ใช้ชีวิตตามที่สังคมคาดหวัง เกรงว่าถ้าไม่แสดงตนอย่างที่คนทั่วไปคาดหวัง...จะถูกลดความสำคัญลง สายตาของคนอื่นจะคอยจับเรา เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา จนสูญเสียความเป็นตัวเอง วิธีจะเอาชนะความทุกข์นี้คือ หัดลดความสำคัญกับสายตาของคนอื่น ควรรู้จักพูดว่า "ช่างมันฉันไม่แคร์" ในบางเวลา ในบางสถานการณ์

5.ไฟที่เกิดจากกองเพลิงธรรมดา ไหม้ได้อย่างดีสุด ก็แค่ชั่วฟืนหมด แต่ไฟแห่งความริษยาที่เราก่อขึ้นในใจ ถ้าไม่ได้น้ำแห่งธรรมะมาดับ บางทีล่วงลับข้ามภพไป ยังดับไม่ได้ ก่อนนอนทุกคืน...คุณโยมควรปลดสลักความรุนแรงในใจเรา เราริษยาใคร...เราโกรธใคร...เราแค้นใคร...แผ่เมตตา ให้เขาซะ เพราะถ้าเรายังโกรธ ยังริษยา เมื่อนั้นมันคือระเบิดเวลา ที่จะทำลาย โมงยามแห่งความสุข ทุกคืนวันไม่จบสิ้น

6.มนุษย์เกิดมาในโลกอย่างมีความหมาย ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่าหรือเกิดมาเพื่อจะถูกลืม ยกเว้นคนที่พยายามจะทำให้คนอื่นลืมตนเอง ไม้ทุกต้น หญ้าทุกชนิด ก็เช่นเดียวกับน๊อตทุกตัว ที่ถูกผลิตมาเพื่อเหมาะสมกับภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ณ เวลาใดเวลาหนึ่งเสมอ

7.คนที่คิดทางบวกเป็นคนที่โชคดี และได้กำไรเสมอ ส่วนคนที่คิดในทางลบ แม้เรื่องดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ก็ยังไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์กับตน วิธีคิดบ่งบอกอนาคต กำหนดชะตากรรม เราคิดอย่างไรก็จะกลายเป็นคนอย่างนั้น คิดบวกชีวิตก็เป็นบวก คิดลบชีวิตก็ติดลบ

8.ขออย่าได้ท้อถอย ในการที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ คนเรายามที่เป็นปุถุชนก็มีโอกาศผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น แต่คนโง่จะปล่อยให้ผิดพลาดแล้วผิดพลาดเลย ส่วนคนที่มีปัญญา เมื่อรู้ว่าผิดพลาดไปแล้ว จะรีบถอนตัวออกมาอย่างทันท่วงที แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไม่ซ้ำรอยเดิม

9.ขอเพียงมนุษย์ไม่ดูถูกตัวเอง ตระหนักรู้ถึงศักยภาพพิเศษที่ซุกซ่อนอยู่ในตน แล้วเพียรเจียระไนชีวิตให้แวววาว พราวพรายด้วยการศึกษาเรียนรู้ ซึมซับเก็บรับบทเรียนจากการงาน และการใช้ชีวิตอย่างสุขุม ก็ย่อมจะมีชีวิตที่คุ้มค่า สงบ ร่มเย็น และเป็นสุขได้โดยไม่ยากเย็น

 

ขอบคุณสำหรับที่มาครับ

    

Link: http://www.tpa.or.th/blogbox/entry.php?w=pearmiko&e_id=1086

 

หมายเลขบันทึก: 439888เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2011 20:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

สวัสดีคะคุณ pittaya jiwjaroen

ขอบคุณคะสำหรับเรื่องราว ดีดี

สวัสดีคะคุณ pittaya

ขอเพียงเราอย่าดูถูกตัวเอง และไม่ท้อถอยใชโชคชะตาชีวิตก็พอแล้วคะ

ขอบคุณบทความดีๆนะค่ะ

สวัสดีคะคุณ pittaya

จริงๆๆเเล้วคนเราทุกคนเกิดมาบนโลกมีค่าทั้งนั้น

ชอบอ่านของ ว.วชิรเมธีเหมือนกันเลย

เข็มทิศชีวิตก็ดีนะค่ะ ขอให้เป็นคนคิดบวกตลอดเลยๆๆ

สวัสดีคะคุณ pittaya

ขอบคุณคะสำหรับเรื่องราว ดี

สวัสดีครับคุณ pittaya

ทุกเรื่องราวในโลกนี้มีค่าทุกอย่างครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ คุณ pittaya

มองเราลองมองย้อนกลับไปดู เวลาที่เราได้ใช้ไป ผ่านไปวันแล้ววันเหล่า

มันช่างสั้นเสียเหลือเกินจริงๆคะ

ขอบคุณคะ สำหรับข้อคิดดีๆ

สวัสดีคะคุณ pittaya jiwjaroen

ขอบคุณสำหรับยเรื่องราวดี ๆ ชีวิตต้องคิดบวกค่ะ

สวัสดีครับคุณ pittaya

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ครับผม

สวัสดีครับคุณ Pitaya

-ขอบคุณสำหรับเรื่อง ราวดี ๆ นะครับ เป็นกำลังใจครับ

สวัสดีค่ะ คุณ พิทยา

ชอบบทความธรรมะดีๆ

จากคุณมากเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ พิทยา ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ คุณ koon_chadaporn

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้คำติชมครับ

สวัสดีครับ คุณ kungnang

ถูกต้องแล้วครับ เราต้องไม่ดูถูกตัวเอง

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ

สวัสดีครับ คุณ sununtha

ครับหนังสือของท่านน่าอ่านทั้งนั้นเลยครับ

ขอบคุณความคิดเห็นที่ดี ๆ ครับ

สวัสดีครับ คุณ konnarak

ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ

สวัสดีครับ คุณ Bio_Zen

ครับทุกเรื่องย่อมมีค่าถ้าเรามองอย่างเห็นคุณค่าครับ

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่ดีครับ

สวัสดีครับ คุณ Sithasinee

ใช่ครับเวลาไม่เคยรอคอยเรา

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่ดีครับ

สวัสดีครับ คุณ POND POOKAK

ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ

สวัสดีครับ คุณ icando-it

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้คำติชมครับ

สวัสดีครับ คุณ darwid

ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ

สวัสดีครับ คุณ dekdeeka

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้คำติชมครับ

สวัสดีครับ คุณ Sigma-bomb

ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ

ขออนุโมทนาสาธุครับ ... ดีแล้ว ;)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท