การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาเครือข่ายคลินิกผู้สูงอายุและการดูแลรักษาผู้สูงอายุในโรงพยาบาล
ระหว่างวันที่ 25-26 เมษายน 2554 ณ โรงแรมริชมอนด์ นนทบุรี
โดย สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ปัจจุบันจำนวนประชากรโลกกำลังก้าวเข้าสู่วัยชรามากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้โครงสร้างของอายุประชากรก็เปลี่ยนไปอย่างมากด้วย ซึ่งคาดการณ์ว่าประมาณปี พ.ศ.
2563-2564 จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประชากรไทย ที่มีสัดส่วนประชากรวัยสูงอายุมากกว่าประชากรวัยเด็ก นำมาซึ่งการเกิดภาวะเสี่ยงและปัญหาด้านสุขภาพ
โดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เนื่องจากวัยสูงอายุมีธรรมชาติการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เสื่อมลงทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจและสังคม จึงสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็น
ที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมในระบบบริการสังคมและสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ
ลักษณะเฉพาะของผู้สูงอายุ RAMPS
♥Reduced body reserve (heterogeneous)
♥Atypical presentation
♦Instability (Fall)
♦Immobility
♦Intellectual impairment
♦Incontinence
♦Insomnia
♦Inanition
♦Iatrogenesis
♥Multiple pathology
♥Polypharmacy
♥Social adversity
บทบาทของสถานพยาบาลในแต่ละระดับ ควรจัดให้มีบริการผู้สูงอายุครอบคลุม ดังต่อไปนี้
♥การประเมินผู้สูงอายุแบบครบวงจร
♥การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
♥แนวทางการคัดกรองและการตรวจเช็คสุขภาพ
♥การดูแลรักษาแบบครบองค์รวม
แนวทางในการดำเนินงานผู้สูงอายุ
วัตถุประสงค์
1.มีทีม/ผู้รับผิดชอบการดำเนินงานที่ชัดเจน
2.มีสถานที่ในการให้บริการ/มีป้ายระบุชัดเจน
3.มีระยะเวลาในการดำเนินงาน อย่างน้อย 1 วัน/สัปดาห์
4.มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานที่ชัดเจน/มีงบประมาณสนับสนุน
5.มีการจัดระบบข้อมูล/วิเคราะห์ข้อมูล
การดำเนินงาน
1.บุคลากร
-ใช้บุคลากรที่มีอยู่ →ส่งอบรมฯ
-สร้างทีมสหสาขาวิชาชีพ ร่วมมือกันทำ
-สร้างเครือข่ายในท้องถิ่น เช่น รพสต., อสม.,อบต.,จิตอาสาฯ
-กำหนดสมรรถนะและหน้าที่ของบุคลากรให้ชัดเจน
2.การค้นหาสมาชิก อาจแบ่งเป็นกลุ่มสุขภาพดี/กลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพ
- ผู้ป่วยเดิมที่คลินิกทั่วไป คลินิกโรคอายุรกรรมฯลฯ
- ผู้ป่วย Walk in
- ผู้ป่วยที่คัดกรองจากเครือข่ายในท้องถิ่น
- ผู้สูงอายุจากสมาชิกในชมรมต่างๆ
3.การบริการ
-จัดให้มีช่องทางด่วน/ช่องทางพิเศษ
-จัดสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ทำบัตรคิวที่มีตัวเลขขนาดใหญ่
-จัดบริการแบบ One Stop Service
-บริการส่งต่อคลินิกพิเศษตามสภาพปัญหาที่พบ เช่น คลินิกความจำฯลฯ
4.การสรุปประเมินผลข้อมูล กรณีไม่สามารถดูแลได้ → ส่งต่อ?!?
การประสานงาน → เครือข่ายในชุมชน
→ ส่งผู้สูงอายุป่วยกลับสู่ชุมชน
→ รพท./รพศ.
→ ส่งปรึกษากรณีไม่มีผู้เชี่ยวชาญ ผ่านช่องทางการปรึกษาต่างๆเช่น Teleconferrence, Internet
การดูแลต่อเนื่อง
♥จากชุมชน→รพสต.→รพช.→รพท./รพศ.
♥จากรพท./รพศ.→รพช.→รพสต.→ชุมชน
♥การให้ความรู้แก่ผู้ดูแล
♥ส่งต่อจาก Clinic→Clinic กรณีมีหลากหลายปัญหา
ระบบการส่งต่อและการเชื่อมโยงข้อมูล
-มีการจัดเก็บข้อมูลจากทุกเครือข่ายอย่างเป็นระบบ
-มีแบบฟอร์มการเก็บข้อมูลที่ชัดเจน
ปัญหาในการดำเนินงานผู้สูงอายุ
1. บุคลากร ได้แก่
-ไม่มีแพทย์/พยาบาลเฉพาะทางด้านผู้สูงอายุ
-พยาบาลด้านผู้สูงอายุ ไม่ได้ทำงานเฉพาะด้าน
-บุคลากรน้อย ไม่เพียงพอ ภาระงานมาก
2. ขาดองค์ความรู้
- การอบรมเกี่ยวกับงานผู้สูงอายุ
- การใช้แบบประเมินเฉพาะงานผู้สูงอายุ
3.งบประมาณสนับสนุน
- ไม่มีงบประมาณฯเนื่องจากไม่มีผลลัพธ์ในการดำเนินงาน
4.สถานที่
-ไม่มีสถานที่ให้บริการ/ห้องตรวจที่ชัดเจน
5.นโยบาย
-ไม่ชัดเจนเรื่องการดำเนินงาน/บุคลากร
-นโยบายมากเกินไป
กำหนดให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีการจัดตั้งและดำเนินการคลินิกผู้สูงอายุ เป็นตัวกำกับของจังหวัดตามแผนการตรวจราชการกรณีปกติของกระทรวง
สาธารณสุข ซึ่งกำหนดตัวชี้วัด โดยกรมการแพทย์ คณะที่ 3 (ตัวชี้วัด 0308): คลินิกผู้สูงอายุ 1 อำเภอ 1 คลินิก และมี Geriatric Model 1 เขต
1 โรงพยาบาล โดยในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน จะต้องมีการดำเนินกิจกรรม 4 ข้อดังต่อไปนี้ คือ
1. มีบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดำเนินการคลินิกผู้สูงอายุ
2. มีป้าย “คลินิกผู้สูงอายุหรือหน่วย/ศูนย์บริการสุขภาพผู้สูงอายุ” มีสถานที่เพื่อดำเนินการคลินิกผู้สูงอายุอย่างชัดเจน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุทราบ
3. มีจำนวนวันที่ให้บริการอย่างน้อย 1 วัน/สัปดาห์
4. จัดให้มีบริการทางการแพทย์ โดยใช้หลัก Geriatric Medicine มีการประเมินสุขภาพ/คัดกรอง (Geriatric Assessment) ได้แก่
BMI, Nutrition, ADL, Fall, Incontinence, Dementia, Insomniaฯลฯตามปัญหาท้องถิ่นอย่างน้อย 1 แบบประเมิน
ไม่มีความเห็น