สำนึกถึงพ่อจึงขอเป็นเช่นนี้


พ่อ

ชีวิตของพวกเราทุกคน   จะไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้เลยถ้าขาดพ่อ  พ่อจึงเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้เขียนโดยที่ไม่พ่อไม่ได้สอนด้วยการพูดแต่พ่อเป็นผู้ทำให้ลูกดูเป็นแบบอย่าง   เป็นต้นแบบของผู้มีความคิด  การพูด  การกระทำ  เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียสละ  ในมุมมองที่ผู้เขียนจดจำเป็นรอยประทับ   รอยที่จะติดตรึงอยู่ในใจนี้ตลอดไปจนวันตาย

                พ่อผู้เขียนในยามปกติไม่ค่อยพูดมากนัก ตั้งแต่ผู้เขียนเริ่มจำความได้เห็นพ่อออกจากบ้านแต่เช้าทุกวัน  ออกไปตั้งแต่ตะวันยังไม่สว่างดี พ่อชอบออกไปดูแลท้องทุ่งนาของท่านทุกวันและที่ออกไปแต่เช้าเพื่อจะได้ไปดูว่ามีตัวอะไรมากัดกินต้นข้าวของพ่อหรือเปล่า  ไม่ว่าจะเป็นปูนา,หนูนา เพลี้ย  หอยโข่ง ตัวอะไรศัตรูพืช หรือวัชพืชอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในนาของพ่อ  พ่อจะตรวจดูอย่างถี่ถ้วนทุกวันและกำจัดส่วนเกิน  ที่พื้นนาของพ่อไม่ต้องการออกไป    พ่อผู้เขียนเป็นเจ้าของทุ่งนาทั้งหมด 60 ไร่ ปลูกข้าวปีละ 2 ครั้งโดยที่บ้านของเราไม่ได้จ้างใครมาช่วยงานเลย     ตลอดปีผู้เขียนเห็นพ่อทำงานตลอดไม่เคยมีวันอยู่ว่างเลย วันทำงานของพ่อไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ นักขัตฤกษ์  ผู้เขียนคิดว่าพ่อผู้เขียนเป็นผู้มีทักษะในการทำนาสูงมาก   พ่อผู้เขียนเริ่มขั้นตอนการทำนาตั้งแต่สูบน้ำเข้านาและใช้รถไถนาไถกลับหน้าดิน  ใช้คราดปรับผิวพื้นนาให้ราบเรียบตลอดทั่วแปลงนาให้มีสภาพเหมาะสมกับการเจริญงอกงานของเมล็ดพันธ์ข้าว      พ่อตัดหญ้าบนคันนาให้สะอาดเรียบร้อย  จริงอยู่บนคันนาเราไม่ได้ปลูกข้าวแต่พ่อก็บอกว่าชาวนาที่ดีต้องไม่ปล่อยให้มีพื้นที่ให้วัชพืชขึ้น  เพราะพวกแมลงศัตรูพืชก็จะเข้ามาอาศัยได้    บริเวณที่เป็นหลุมหรือเป็นแอ่งพ่อก็หาดินไปใส่ให้เสมอกัน  การไถคราดนาของพ่อ  พ่อก็ชอบทำเวลาเช้าและไปเลิกจนมืดค่ำทุกวัน  ฝนจะตกอย่างไรพ่อก็ยังทำงาน  พ่อผู้เขียนไม่กลัวเสียงฟ้าร้อง   แต่กลับชอบใจที่เห็นฝนตก  การไถและคราดของพ่อทำให้ที่นาเสมอ   สะอาดเรียบแล้วทุกแปลง    จำได้ว่าในสมัยที่ผู้เขียนตัวเล็กๆนั้นที่บ้านเราทำนาดำ    นาดำต้องมีการเตรียมต้นกล้าในแปลงเพาะเสียก่อนแล้วจึงแยกต้นกล้าออกจากแปลงเพาะมัดเป็นกำๆการทำนาดำนั้นจะได้ผลผลิตดีมาก แต่ข้อเสียคือต้องใช้กำลังแรงงานเป็นจำนวนมาก    นอกจากนี้พ่อยังปลูกพืชบางชนิดบนคันนาไว้ขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว  เช่นต้นกล้วย  ต้นตระไคร้   และแบ่งแปลงนาไว้ข้างบ้านประมาณ 1 ไร่เพื่อปลูกผักบุ้งจีน ชนิดกินยอด ผักบุ้งจีนชนิดนี้ต้องปลูกลงในแปลงนาที่มีน้ำสูงประมาณ 30 ซม.  ตอนผู้เขียนอายุ 8 ขวบ พ่อซื้อเป็ดไข่มาให้ผู้เขียนเลี้ยง 20 ตัว ช่วงว่างจากการทำนาบ้านเราจะมีรายได้จากพืชผักที่พ่อปลูกไว้    ผู้เขียนและน้องโตขึ้นด้วยข้าว,ผัก,ไข่เป็ด ของพ่อ   

                ผู้เขียนไม่เคยเห็นพ่อซื้อหวยหรือล็อตเตอรี่ แม้สักครั้งเดียว  เงินทุกบาทของพ่อไม่เคยนำไปใช้กับการพนันชนิดใด  การพนันในความคิดของพ่อนั้นเป็นสิ่งน่ารังเกียจ   การเที่ยวเตร่ไปวันๆก็เป็นสิ่งที่พ่อแสดงความไม่ชอบ  ถ้าลูกไปเที่ยวเล่นบ้านของเพื่อนบ้านพ่อก็จะดุว่าอย่าทำ   พ่อจะกลัวว่าจะมีใครมาว่าลูกของพ่อและกลัวว่าลูกของพ่อจะไปทำความเสียหายความรำคาญให้เพื่อนบ้านพ่อจึงห้าม   แต่พ่อไม่ห้ามถ้ามีเพื่อนมาหาที่บ้าน โดยพ่อมักพูดว่าถ้าเขาคิดถึงเรารักเราเขาก็จะมาหาเราเอง   พ่อผู้เขียนจะถือเรื่องการกินเป็นอย่างยิ่ง   มีบางครั้งที่บ้านเราไม่ค่อยมีอะไรให้ลูกๆไปกินโรงเรียนฯรวมถึงเงินสำหรับไปกินขนมที่โรงเรียนด้วย    พ่อจะบอกว่าอย่าไปมองปากใครเขานะลูก  เรามีแค่ไหนก็กินแค่นั้น  การกินไม่อิ่มไม่ทำให้เราตาย  แต่การขอเขากินเป็นเรื่องน่าอับอาย       ผู้เขียนจึงถูกฝังให้รักศักดิ์ศรีและหยิ่งในความเป็นคนของเราตั้งแต่เป็นเด็กตัวเล็กๆ    ในยามที่พ่ออยู่บ้านและเปิดดูในตู้กับข้าวไม่มีกับข้าวอะไร ไม่เห็นมีกับข้าวเลย   พ่อผู้เขียนจะต้องไปหาผักและไข่มาทำกับข้าวเลี้ยงลูกทั้ง 4 คนของพ่อ   ผู้เขียนยังจำไข่ต้มที่พ่อต้มและเป็นไข่ต้มฟองเดียวสำหรับคน 6 ชีวิต  ยามที่นึกถึงคราวใดผู้เขียนก็มองมองเห็นมโนภาพอย่างชัดเจน   ภาพที่เห็นพ่อกินข้าวกับน้ำปลาที่ไส่ในไข่ต้มโดยที่ไม่ได้แตะต้องไข่เลย    พ่อผู้เขียนท่านพยายามสุดกำลังของท่านให้ลูกทุกคนได้มีอาหารกินครบ      ในครั้งที่ผู้เขียนและน้องยังเป็นเด็กตัวเล็ก  พวกเรา4 พี่น้องนอนรวมในมุ้งเดียวกัน  ก่อนที่เราจะนอนพ่อจะเข้ามาในมุ้งพร้อมกับไฟฉาย 1 กระบอก  พ่อเอาไฟฉายมาส่องหายุ่งและไล่ตบมันทีละตัวๆ  จนหมดแล้วพ่อจึงไปเข้านอน  พ่อทำอย่างนี้ทุกคืนจนพวกเราพี่น้องชินกับสิ่งที่พ่อทำ   ตัวผู้เขียนเองเห็นพ่อทำงานจนชินและติดตามพ่อไปทำงานด้วยประจำทุกครั้งที่ไม่ได้ไปโรงเรียน  บางครั้งก็ขี้เกียจและนึกบ่นพ่อในใจว่าทำไมพ่อไม่หยุดอยู่กับบ้านเสียบ้างผู้เขียนจะได้ไม่ต้องเหนื่อยหรือมีเวลาไปเที่ยวเล่นบ้านการทำงานเป็นสิ่งที่ผู้เขียนเองก็เบื่อหน่ายไม่อยากทำและต่อต้านเป็นบางครั้ง     วันนี้ผู้เขียนเป็นพ่อคนแล้วผู้เขียนจึงเข้าใจอย่างว่าทำไม่พ่อไม่เคยหยุดทำงานเลย   และรู้และเข้าใจแล้วว่าพ่อสอนอะไร          

                ยามสุดท้ายชีวิตของพ่อก็จบลงเพราะการไปทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกๆของพ่อ   พ่อไม่สบายแต่พ่อก็ไปทำงาน   พ่อจากไปโดยไม่มีโอกาสได้บอกลา 5 ชีวิตที่พ่อรัก  พ่อทำงานอุทิศชีวิตเพื่อพวกเรา    เหลือทิ้งไว้เพียงมรดกแห่งความดี และภรรยาที่รักของท่านไว้ให้ลูก   เป็นมรดกที่ลูกๆทุกคนภาคภูมิใจและยินดีจะเป็นผู้สืบทอดความดีของพ่อต่อไป   พ่อจะอยู่ในใจของเราทุกคนตลอด

 

ไปไหนมาไหนก็ชอบขีดๆเขียนมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เมื่อเวลาผ่านไปเราก็ลืม ถ้าไม่จดไว้บ้าง

 

 

ที่เห็นใกล้ๆนั้นคือ รร.วัดนราภิรมย์

 

 

คลองมหาสวัสดิ์

 

 

ถ้าเห็นสะพานแล้วคุณคิดถึงอะไร

มีใครบ้างที่ได้ข้ามสะพานนี้

 

คำสำคัญ (Tags): #พ่อของเรา
หมายเลขบันทึก: 439127เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2011 00:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 15:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท