ความแตกต่างของการปฏิสนธิ


นรกอยู่ใต้ฝาเท้ามารดา
 มูลเหตุแห่งการเกิดของมนุษย์มนานั้น คงไม่พ้นการจำแนกแจกแจงไปกว่า 2 มูลเหตุ นั้นคือ เกิดการปฏิสนธิเพราะไม่ไดตั้งใจของพ่อกับแม่(ชายกับหญิง) และเกิดการปฏิสนธิเพราะความตั้งใจและการวางแผนของพ่อกับแม่(ชายกับหญิง)มาก่อน “ความจริงที่ยั่งยืนตลอดกาล คือ พ่อและแม่(ชายกับหญิง, ผู้กับเมีย) เท่านั้นที่เป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตและการปฏิสนธิจะมีได้นั้น ต้องมีเชื้อสองเพศ ” ในส่วนชีวิตที่เกิดมาจากการไม่ได้ตั้งใจ(ครั้งเพศสัมพัธ์)) ของพ่อกับแม่นั้น หมายถึงการที่ชายกับหญิงไม่ได้ผูกนิมิตสัมพันธ์ระหว่างกัน เพื่อจะเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องมาก่อน เกิดความรักกัน ก็หลวมตัว ถึงขั้นได้เสียกัน หรือมีการถูกข่มขืน  เกิดตั้งท้องขึ้นมา บ้างก็มีการทำแท้งแล้วก็จบไป บ้างก็ฆ่าตัวตาย เพราะเป็นการมีลูกที่ไม่ได้วางแผน มีมาได้เพราะตัณหา ความละอายต่อสังคมรอบตัวก็ย่อมเกิด บ้างก็ปล่อยเลยตามเลยจนครบกำหนดคลอด และเลี้ยงดูลูกน้อยอย่างดี จนลูกได้ดิบได้ดีก็มีทั่วไป บ้างก็ทอดทิ้งให้อยู่กับตายาย ไม่มาดูแลจนตาย ส่วนที่มีบุญวาสนาก็มากอยู่ บ้างก็กลายเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ จะสร้างปัญหาให้แก่สังคมในอีกแง่หนึ่ง นั้นคือ จะกลายเป็นเด็กเกเร เร่ร่อน จรจัด ปัญหาเช่นว่านี้คงไม่พ้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ต้องแก้กันต่อไป ในส่วนที่เกิดมา(ปฏิสนธิ)จากการตั้งใจจริง เนื่องจากมีการวางแผนกันระหว่างชายกับหญิงที่ผูกนิมิตสัมพันธ์ระหว่างกัน เป็นสามีภรรยากันโดยพิธีสมรส หลักการของศาสนาอิสลามนั้นมิใช่แค่การจดทะเบียนสมรสหรือการอยู่กิน ฉันสามีภรรยาตามที่สังคมทั่วไป(นอกจากอิสลาม)ใช้และเข้าใจกัน ฉนั้นลูกที่เกิดจากหลักการเช่นนี้ คือถูกต้องทั้งหลักการของศาสนาที่ตนนับถือและทางกฎหมาย มีการวางแผนว่าเมื่อไรควรมีหรือไม่มีลูก ลูกที่เกิดมาก็คือมนุษย์หนึ่งที่เกิดมาเพราะความตั้งใจ ลูกเช่นว่านี้มักเป็นลูกที่ประเสริฐกว่าประเภทแรก คือจะมีการเลี้ยงดูอย่างดีมีการตั้งความหวังไว้ เมื่อเติบใหญ่ ปัญหาใหญ่ที่จะตามมากับการเกิดโดยตั้งใจ คือการมีลูกมาก เพราะบางคนกล่าวว่าไม่ไดตั้งใจ(เหมือนวิธีแรก)ก็มี เกิดโดยตั้งใจเพื่อให้ลูกมากก็มี (ไม่ได้คิดเป็นอัตราส่วนว่าเท่าไร) แต่พอจะบอกได้ว่า ในจำนวน 5 – 6 คน จะมีลูกที่ไม่ได้ตั้งใจ(ปฏิสนธิ) อยู่ 1 – 2 คน เนื่องจากมีข้อเท็จจริงว่า น้อยคนที่อยากมีลูกมาก เพราะมีลูกมากจะยากจนนาน เมื่อเกิดมาโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นนี้ ก็จำใจจำต้องลองเลี้ยงดู ให้เป็นคนดีของสังคมต่อไป ทั้งหลายเหล่านั้น พึ่งสำนึกเถิดว่า บิดามารดาเป็นผู้ให้กำเนิดเรามาทั้งสิ้น จะเกิดมาโดยวิธีใดๆก็ตาม ลูกๆทุกคนต้องทำให้บิดามารดา(โดยเฉพาะคุณแม่) มีความสุขในบานปลายแห่งชีวิต ขาดแม่แล้วจะไม่มีใครมาเป็นแม่เราอีก(นอกจาก ม.สระ เอีย แต่ไม่เท่าหรอก) และจงถือเสมอว่า “แม่นั่น คือที่สุดแห่งชีวิต” “อิสลามกล่าวว่า นรก ของลูกๆนั้นอยู่เพียงใต้ฝาเท้าของมารดา อย่าอกตัญญู เป็นเด็ดขาด แม่กระทืบเท้าลงดินเมื่อไร หมายถึงนรกกำลังจะมาเยือน” ขอให้ลูกๆที่มีแม่ทุกคน ร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมดีๆเพื่อถวายเป็นราชกุศลใน “วันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.” ด้วยก็แล้วกัน
หมายเลขบันทึก: 43876เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2006 21:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 21:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท