ดอกส้มสีทอง(๓)


ถ้าจำเป็นต้องฟ้องหย่าคุณสามี คุณจะปล่อยเรยาเสวยสุขเฉยๆเหรอ เอาคืนได้ไหม...ทำไงดี

        คราวที่แล้วได้เล่าให้ฟังเรื่องเหตุฟ้องหย่าที่แก้ไขใหม่ แต่ยังไม่ได้เล่าว่าของเก่ากับของใหม่แตกต่างกันยังไง เฉพาะในส่วนข้อ(๑) กฎหมายใหม่เนี่ย...ถ้าภรรยาไปอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องชายอื่นฉันสามี โดนครับโดนด้วย...ของเก่าจัดการแต่สามีที่ไปยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา งานนี้เท่าเทียมกันครับ แฮ่...แต่อย่าเพิ่งดีใจเดิมกฎหมายเล่นงานเฉพาะภรรยาที่มีชู้ แต่คราวนี้ใช้คำว่า เป็นชู้หรือมีชู้ แสดงว่าโดนทั้งชายทั้งหญิง อิอิ นอกจากนี้ยังเพิ่มคำว่า “ร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ” มันยังรวมไปถึงสามีไปมีชายอื่น และภรรยาไปมีหญิงอื่นด้วยแหละ...อิอิ  เห็นไหมผมถึงว่ามันเป็นไปตามสภาพสังคม

        เรามาดูเม่งฮวย ภรรยาคนโตของเจ้าสัวเชง สมมติว่าเจ้าสัวเชงกับเม่งฮวยจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทย แล้วเจ้าสัวเชงไปมีเมียน้อยคือเยนหลิง โรส คำแก้ว และซิลเวีย แล้วให้อยู่ที่บ้านคนละห้องโดยที่เม่งฮวยน้ำท่วมปาก ไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าสัวเชง ไม่มีการดำเนินการใด ผมว่าพฤติการณ์เหล่านี้ต้องถือว่าเม่งฮวยยินยอมให้เจ้าสัวเชงอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องเลี้ยงดูผู้อื่นฉันภริยา  ดังนั้น เม่งฮวยจะฟ้องหย่าเจ้าสัวเชงไม่ได้ เพราะเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๑๗ ที่ว่า

        “ เหตุฟ้องหย่าตามมาตรา 1516(1) และ (2) ถ้าสามีหรือภริยาแล้วแต่กรณี ได้ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำที่เป็นเหตุหย่านั้น ฝ่ายที่ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้

          เหตุฟ้องหย่าตามมาตรา 1516 (10) ถ้าเกิดเพราะการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้

          ในกรณีฟ้องหย่าโดยอาศัยเหตุแห่งการผิดทัณฑ์บนตามมาตรา 1516 (8)นั้น ถ้าศาลเห็นว่าความประพฤติของสามีหรือภริยาอันเป็นเหตุให้ทำทัณฑ์บนเป็นเหตุเล็กน้อยหรือไม่สำคัญเกี่ยวแก่การอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาโดยปกติสุข ศาลจะไม่พิพากษาให้หย่าก็ได้”

         กฎหมายมาตรานี้ได้พูดการไม่สามารถร่วมประเวณีได้ตลอดกาลตามมาตรา 1516(10) ถ้าเป็นการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น ภรรยาตัดอวัยวะส่วนที่มีปัญหาของสามี อิอิ...ไปให้เป็ดกิน ทำให้สามีไม่สามารถร่วมประเวณีกับภรรยาได้ตลอดกาล เช่นนี้ ภรรยาจะฟ้องหย่าสามีเพราะเหตุนี้ไม่ได้

        ส่วนในเรื่องผิดทัณฑ์บน เช่น ภรรยาชอบเล่นไพ่ได้เสียทีละ ๑๐ บาท ๒๐ บาท แต่ชอบเล่น และได้ทำทัณฑ์บนไว้กับสามีว่าจะไม่เล่นการพนันอีก พอไปเล่นอีกสามีก็อ้างเหตุผิดทัณฑ์บนมาฟ้องหย่า ดังนี้ ศาลท่านอาจจะไม่ให้หย่าก็ได้เพราะมันเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่สำคัญเกี่ยวแก่การอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาโดยปกติสุข เป็นต้น

         อย่างไรก็ตาม ขอให้ตามมาดูกฎหมายครอบครัวมาตรา ๑๕๑๘ ครับ เพราะเขาบอกว่า

        “สิทธิฟ้องหย่าย่อมหมดไปในเมื่อฝ่ายที่มีสิทธิฟ้องหย่าได้กระทำการอันแสดงให้เห็นว่าได้ให้อภัยในการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นเหตุให้เกิดสิทธิฟ้องหย่านั้นแล้ว”

        เรามาเทียบกับในละครตอนที่สินธรไปมีอะไรกับเรยาแล้วเด่นจันทร์จับได้ ในที่สุดเด่นจันทร์ยอมจ่ายให้เรยา ๒๐ ล้านบาทเพื่อจบเรื่อง สินธรก็กลับมาเอาอกเอาใจเด่นจันทร์เป็นคนดีอีกพักหนึ่ง ทั้งคู่ก็ไปกุ๊กกิ๊กกัน กินข้าวกัน เที่ยวกัน เฮฮาปาร์ตี้ อย่างนี้ ถือว่าเด่นจันทร์ได้กระทำการอันแสดงให้เห็นว่าได้ให้อภัยในการกระทำของสินธรแล้ว สิทธิของเด่นจันทร์ที่จะฟ้องหย่าสินธรที่ไปอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องเรยาก็หมดไป จำไว้ให้ดีคุณเมียหลวงทั้งหลาย...แฮ่...

        มาดูที่คำแก้วมั่ง...ต้องสมมติก่อนว่าคำแก้วกับเจ้าสัวเชงเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย (ตอนนี้ลบเมียหลวงเมียน้อยออกไปก่อน เอาว่าเจ้าสัวกับคำแก้วเป็นคู่สมรสตามกฎหมาย)คำแก้วสติฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ เจ้าสัวเชงฟ้องหย่าได้ไหม ลองย้อนไปดูมาตรา ๑๕๑๖(๗) เพราะหลักมันอยู่ที่ว่าถ้าวิกลจริตมาเกินสามปีและยากที่จะหายและถึงขนาดที่จะทนร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ ก็ฟ้องหย่าได้ การวิกลจริตของคำแก้วมิได้เกิดจากการกระทำของเจ้าสัวเชง และไม่มีท่าทีว่าจะหาย แต่...พี่น้องครับ ที่ไม่หายเกิดเพราะไม่มีการรักษา เจ้าสัวเชงไม่ให้หมอมารักษา ผมเห็นว่าเจ้าสัวเชงฟ้องหย่าไม่ได้เพราะถ้ารักษาพยาบาลดีๆคำแก้วก็จะหายเป็นปกติ (ความเห็นนี้โต้แย้งได้นะครับ)

        ทีนี้ข้อสำคัญครับ คุณเมียหลวงทั้งหลาย กรุณาให้ความสนใจกับมาตรานี้ครับ มาตรา ๑๕๒๓ เขาบอกว่า

“เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516(1) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทน จากสามีหรือภริยาและจากหญิงอื่นหรือชู้ แล้วแต่กรณี

          สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้

          ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516(1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้”

          ยกมาตรานี้มาเพื่อบอกว่า ถ้าไม่อาจอยู่กับคุณซ๊ามีได้แล้วและเขาไม่ยอมหย่าก็ต้องฟ้องหย่า แต่ฟ้องแล้วอย่าเพียงแค่ฟ้องหย่าสามี ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากอีนังตัวร้ายเสียด้วย อิอิ อย่างน้อยถ้ารู้ว่าสามีไปปรนเปรอให้นังตัวร้ายเท่าไหร่ก็เรียกเป็นค่าทดแทนซะ...เพราะนั่นคือมูลค่าที่เราสูญเสียโอกาสไป  แฮ่ะ...ฟังดูแล้วเหมือนยุให้เขาฟ้องหย่ากันแฮะ...ลองสมมติดูว่าคุณใหญ่เอาเงินปันผลจากบริษัทที่ตนเองได้รับมา ๑๐ ล้านไปซื้อคอนโดให้เรยา ฝ่ายเรยาก็เกะกะระรานโทร.ไปหาคุณดี๋แสดงตัวว่าเธอมีอะไรกันคุณใหญ่ ขณะนี้คุณใหญ่นอนอยู่ในคอนโดที่เป็นชื่อของเธอ คุณดี๋เห็นว่าคุณใหญ่อุปการะเลี้ยงดูยกย่องเรยาเป็นภรรยา ขอหย่าจากคุณใหญ่แต่คุณใหญ่ก็ไม่ยอมหย่า คุณดี๋ก็สามารถฟ้องหย่าคุณใหญ่และเรียกค่าทดแทนจากเรยาตามบทกฎหมายข้างต้นได้ ถ้าผมเป็นทนายให้ก็จะเรียกค่าทดแทนจากเรยาไม่ต่ำกว่าสิบล้าน จะจ้างผมไหม อิอิ...(ยังมีต่อ)

หมายเลขบันทึก: 438362เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2011 22:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:42 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีค่ะ คุณอัยการชาวเกาะ

พอดีเลยค่ะ เมื่อวานญาติคุยให้ฟังว่าเพื่อนของเธอได้ฟ้องหย่ากับสามี เนื่องจากสามีไปมีคนใหม่ และได้หย่ากันมาเป็นปีแล้ว แต่ปัจจุบันยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกันอยู่เนื่องจากมีลูกชาย 1 คน และที่สำคัญเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งก็น่าจะเปิดร้านด้วยกันหลังจากแต่งงานแล้ว ด้านนิตินัยหย่ากันแต่ไม่รู้ว่าด้านพฤตินัยจะเป็นอย่างไร ปัญหามีอยู่ว่า ปัจจุบันนี้บางครั้งฝ่ายชายจะนำภรรยาใหม่มาที่บ้าน ภรรยาเก่าก็คงจะเสียใจและแค้นใจ เลยจะฟ้องเรียกเงินเลี้ยงดูอะไรประมาณนี้ค่ะ เพราะตอนแรกไม่ได้ระบุไว้ในใบหย่า แบบว่าหย่าเพราะความโมโห แต่ตอนนี้คงคิดว่าอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์เลยจะฟ้องแบ่งสมบัติเพื่อจะได้เป็นทุนเลี้ยงดูบุตรและส่งเสียให้เล่าเรียน

เลยอยากจะเรียนถามว่า

1. จะสามารถฟ้องเรียกร้องได้หรือไม่ อย่างไร

ช่วยตอบด้วยนะคะจะได้นำไปบอกญาติค่ะ สงสารเพื่อนเค้าค่ะ เพราะสามีโค-ตะ-ระ-เลว-ระ-ยำ!!! (ขอโทษที่แจกลูกไม่สุภาพค่ะ อารมณ์มันพาไป)

ต้องทำความเข้าใจกันก่อนเพราะผมสับสนในคำถามครับ

สามี่ภรรยาคู่นี้ที่ว่าตกลงหย่ากันเป็นปีแล้วนี่ จริงๆแล้ว ตกลงเลิกกันเฉยๆหรือจดทะเบียนหย่า เพราะถ้าจดทะเบียนหย่าแล้วก็มาฟ้องหย่าอีกไม่ได้ครับ แต่อ่านไปอ่านมาน่าจะเป็นการจดทะเบียนหย่าและในสัญญาหย่าไม่ได้กำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูไว้ การฟ้องครั้งนี้ก็ไม่ใช่การฟ้องหย่า แต่เป็นการฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าในสัญญาหย่าเดิมเขียนผูกพันเอาไว้เพียงใดครับ หรือฟ้องแบ่งสินสมรส เกี่ยวกับบุตรในสัญญาหย่าเขียนตกลงกันไว้ให้อยู่ในความปกครองของใคร อยากได้รายละเอียดเพิ่มอีกนิดครับเพราะอธิบายยากเพราะข้อมูลไม่พอครับ ขอชัดๆว่าในการหย่าตกลงกันเรื่องบุตรใครดูแล การอุปการะเลี้ยงดูตกลงกันอย่างไรทั้งลูกและเมีย และสินสมรสแบ่งกันหรือยัง

ยินดีตอบให้นะครับ

  • สวัสดีค่ะ
  • ได้ความรู้มากมายจากท่านค่ะ
  • ด้วยความขอบคุณยิ่งค่ะ

สวัสดีค่ะ

มาแซวก่อนอื่น....คงสาระวนกับตำแหน่งใหม่นะคะ  "คุณปู่และคุณย่า"

เรื่องนี้เป็นความรู้ที่ควรได้รับคำแนะนำจากนักกฏหมายอย่างยิ่งนะคะ  ขอขอบคุณแทนทุกคนด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ อัยการชาวเกาะ

ขอบคุณสำหรับ ความรู้ดีๆ นะคะ

อ่านแล้ว ชอบค่ะ ...

ที่ท่านเอามาประยุกต์กับละครที่สะท้อนสังคมอย่างเรื่องนี้

หนูกำลังเรียน นิติศาสตร์ มสธ อยู่พอดี

ขอติดตามข่าวสารจากท่านต่อไปนะคะ

อ่านไปอ่านมาเจอเข้ากับข้อความที่ว่า ภรรยาสามารถฟ้องหย่าสามีและมือที่สาม

ที่มาทำให้แตกแยกได้ด้วย

คงเหมือนกรณีเดียวกับข่าวที่กำลังเป็นที่จับตามองของคนอยากรู้อยากเห็นทั่ว

ไป( รวมทั้ง krugui ด้วย  อิๆๆๆ )  งั้นแสดงว่าเขาใช้วิธีการเดียวกับที่

คุณอัยการกล่าวมา

ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยให้มีความรู้แตกฉานโดยไม่งง

ขอบคุณพี่คิม ท่านศน.ลำดวน ที่ติดตามอ่านบันทึกอย่างไม่ลดละครับ..อิอิ ตอนต่อไปจะอธิบายต่อเรื่องสินสมรสว่าจะแบ่งได้มากน้อยเพียงใดครับ

สวัสดีหนู Sigma-bomb ดีใจที่หนูตัดสินใจเรียนนิติศาสตร์ เพราะคนในบ้านเมืองเรายังรู้กฎหมายไม่มาก แถมคนที่รู้กฏหมายก็ชอบหลีกเลี่ยงกฎหมาย ผู้ใช้กฎหมายก็ไม่บังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ เรียนมาแล้วจะได้ช่วยกันทำให้สังคมเกิดความเป็นธรรมมากขึ้น การที่ลุงเขียนเรื่องแบบนี้ก็เพื่อให้คนที่ไม่เรียนกหมายได้สนใจกฎหมายมากขึ้น สักนิดก็ยังดี เวลามีปัญหาจะได้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบครับ

ดีครับที่ครูกีร์ไม่งง แต่ในของจริงมันยังมีรายละเอียดอีกมากมายครับ เราในฐานะวงนอกก็ได้แต่ติดตามข่าว ซึ่งการนำเสนอข่าวก็คงไม่ได้รายละเอียดมากมาย บางทีคนที่ตามข่าวอาจจะงงว่าทำไมไม่เป็นอย่างนั้นทำไมไม่เป็นอย่างนี้ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ เกิดเรื่องขึ้นมาบางทีการหย่าขาดจากกันทันทีอาจจะไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องครับ เดี๋ยวจะว่ารายละเอียดให้อ่านกันต่อครับ

เรียน คุณอัยการชาวเกาะ

วันนี้มาเปิดเน็ตตอนเที่ยงคืนแล้วมัวแต่สรุปโครงการอยู่ค่ะ ขอยังไม่ตอบรายละเอียดเรื่องที่ถามไปเมื่อวานนะคะ

(เรื่องฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู) ขอไปสอบถามรายละเอียดจากญาติก่อนให้แน่ใจ อ้อ...แล้วสามีภรรยาคู่นี้เขาจดทะเบียนหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ เนื่องจากฝ่ายหญิงทนเจ็บช้ำน้ำใจไม่ไหว เลยเซ็นต์หย่าง่าย ๆ แบบไม่ได้คิดถึงอนาคต แต่ยังไงก็จะไปสอบถามมาให้ละเอียดอีกทีค่ะ (เท่าที่เขาจะให้ข้อมูล) วันนี้เข้ามาทักทายดูค่ะ นึกว่าคุณอัยการชาวเกาะจะไม่ตอบซะแล้ว พรุ่งนี้จะเข้ามาบอกข้อมูลค่ะแต่คงจะไม่ดึกอย่างนี้อยากรู้คำตอบไว ๆ ค่ะ

ด้วยความยินดีครับคุณหนูนา

เรียนคุณอัยการชาวเกาะ

ต่อจากคราวที่แล้ว..........สรุปคือสามีภรรยาคู่นี้ได้จดทะเบียนหย่ากันแล้วเป็นปี และไม่ได้ระบุว่าใครจะเป็นผู้เลี้ยงดูบุตร รวมท้ั้งไม่ได้ระบุเงินค่าเลี้ยงดูหรือเงินสินสมรสหรือเงินอื่นแต่อย่างใด แต่ตอนนี้ภรรยาเริ่มคิดได้ว่าอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะสามีนำคนใหม่เข้ามาอยู่ที่บ้าน จึงคิดจะฟ้องร้องเรียกเงินอะไรสักอย่าง จึงเรียนถามว่ากรณีนี้ภรรยาจะสามารถฟ้องร้องเรียกเงินอะไรได้บ้างเพราะตอนแรกไม่ได้สลักหลังเรียกร้องอะไรเลย

ถ้าแม่จะเอาลูกก็ต้องฟ้องเพิกถอนอำนาจปกครองบุตรของสามี แล้วก็ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรและค่าอุปการะเลี้ยงดูภรรยา

ถ้ามีสินสมรสยังไม่ได้แบ่งก็ฟ้องขอแบ่งสินสมรสได้ถือว่าเป็นการเรียกเอาทรัพย์ของตนครับ

เรียนคุณอัยการชาวเกาะ

ถ้าหากฟ้องร้อง จะมีความเป็นไปได้กี่เปอร์เซ็นต์คะ

เรียนคุณอัยการชาวเกาะ

ถ้าหากฟ้องร้อง จะมีความเป็นไปได้สักกี่เปอร์เซ็นต์คะ

(เมื่อกี้ลืมเข้าระบบค่ะ)

ต้องขอโทษที่ไม่ได้เข้ามาดู

การจะตอบว่าจะมีความเป็นไปได้กี่เปอรืเซนต์จากหลักฐานที่ปรากฏคร่าวๆแค่นี้คงไม่พอกระมังครับ มันคงต้องได้ตรวจสอบรายละเอียดกันก่อนครับถึงจะพอบอกได้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท