เห็นรายงานการวิจัยที่ลงในวารสาร Health Education 2010 เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความฉลาดทางสุขภาวะของนักเรียนที่รัฐไวโอมิง อ่านแล้วก็ร้องว่า "ปัญหาเดียวกันเลย"
เขาเริ่มต้นว่านักเรียนประถมเขามีเวลาเรียนวิชาสุขศึกษาน้อย เพราะต้องไปทุ่มเทเวลาให้กับการสอนวิชาที่นักเรียนจะต้องสอบวัดผลระดับรัฐ ระดับประเทศ (นี่เอาอย่างประเทศไทยใช่ไหม) เด็กก็มีปัญหาทั้งเรื่องสุขภาพและการอ่านหนังสือไม่ีค่อยออกและไม่ค่อยแตก รัฐนี้ก็เลยจัดโครงการบูรณาการการสอนภาษากับสุขศึกษาเข้าด้วยกันสำหรับนักเรียนประถมปีที่ 3 โดยให้ครูสุขศึกษาอาสาสมัครเข้าโครงการ ทางโครงการจัดอบรมวิธีการบูรณาการวิชาสุขศึกษาเข้ากับวิชาภาษาอังกฤษ การเตรียมการสอน การประเมินผลการสอนตามมาตรฐานวิชาสุขศึกษา โครงการนี้ใช้เวลาอบรมไม่กี่วัน แต่มีคู่มือ วิธีการ และตัวอย่างหนังสือที่ใช้อ่านให้ ิ
ระยะเวลาดำเนินโครงการหนึ่งปีการศึกษา เมื่อสิ้นสุดโครงการได้ประเมินครูพบว่าครูสามารถสอนและประเมินผลวิชาสุขศึกษาได้ดีขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น นักเรียนมีความรู้สุขศึกษาดีขึ้นเพราะวิธีการสอนที่น่าสนใจ และมีกิจกรรมหลากหลาย เช่นการอ่าน เขียน ทำงานศิลปะ อภิปราย ฯลฯ และที่เป็นพิเศษ คือ ความสามารถในการอ่าน เขียน และความคิดแบบวิจารณญานดีขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ (เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ใช้วิธีสอนแบบเดิม)
ครูสุขศึกษาลองนำแนวคิดนี้มาทำวิจัยเพื่อเป็นผลงานดีไหมคะ เป็นประโยชน์แก่หลายฝ่ายค่ะ แล้วเราจะเรียกว่าโครงการสุขภาษา หรือ ภาษาสุขดีคะ
เมืองไทยมีขายเยอะค่ะ กุหลาบพันปี หรือ Azalea เอามาลงให้ดูว่า
เมื่อเราดูแลดี ถุกวิธี ก็ออกดอกดก งดงาม เหมือนกับเวลาที่เราเตรียมการสอนดี นักเรียนมีความสุข เรียนได้ดี เรามองตาเด็กแล้วรู้สึกเหมือนกับมองดอกไม้บานค่ะ
(นี่พูดจากหัวใจของครู 39 ปีค่ะ)
ดีจัง แล้วอะไรต่อครับ