Study Tour in Northern Shan State, Myanmar (Day 7)


วันนี้เราตื่นนอนก่อนเวลาฉันเช้าเล็กน้อย ทำธุระกิจส่วนตัวเสร็จก็ฉันภัตตาหาร ซึ่งมีเมนูหลักคือ นอกจากนี้ยังมีโอวันตินและโรตีใส่ไข่ด้วย ก่อนออกเดินทางที่นัดรถยนต์มารับในเวลา 0900 น. แม่ขาวหลวงเกสีพร้อมคณะได้ถวายผ้าห่มปาสมีนาและผ้าไหมรูปละสองผืน และทำพิธีกันตอตามประเพณีไต เราก็ร่วมทำบุญเป็นการสนับสนุนการศึกษาและกิจกรรมของวัดจำนวนหนึ่ง พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกัน

รถยนต์มารับเราก่อนเวลากำหนดยี่สิบนาทีเพราะต้องไปรับผู้โดยสารอื่นเพิ่มอีกสองท่านเพื่อเดินทางเข้ามันดะเลย์ด้วยกัน เราจึงร่ำลาแม่ขาวเกสีและคณะออกเดินทางจากเมืองลาเชียว ผ่านเมืองสีป้อ จ๊อกเม ปางอู๋หรือหมู่เมี้ยว สู่เมืองมันดะเลย์ เรามาถึงมันดะเลย์เวลา 1545 น. รถได้มาส่งเราที่สถานีขนส่งเมืองมันดะเลย์เพื่อยืนยันการเดินทางโดยรถบัสจากเมืองมันดะเลย์ไปเมืองต่องจี กำหนดรถออกจากสถานีขนส่งเวลา 1800 น. เราจึงมีเวลาไปเช็คอีเมล ซึ่งที่นี่บริการอินเตอร์เน็ตมีความเร็วดีมากเมื่อเทียบกับที่เมืองลาเชียว

เราออกเดินทางช้ากล่ากำหนดเวลาประมาณสามสิบนาที ซึ่งอาจเป็นกำหนดที่ออกจริงของรถเองก็ได้ โดยขณะที่รอก็ลุ้นว่าเราจะได้ขึ้นรถคันที่จอดหน้าสำนักงาน East State Express (ESE) หรือไม่ หรือมีรถอื่นจะเข้ามาจอดรับเรา เพราะพนักงานเรียกผู้โดยสารอื่นขึ้นรถหมด และแต่ละคนก็มีสิ่งของสัมภาระขึ้นรถกันเป็นจำนวนคนละหลายกระเป๋า แกรงว่าหากขึ้นรถคนดังหล่าวคงไม่มีทีเก็บของเหลือให้เราแน่ ที่สุดก็สรุปได้ว่าเราต้องขึ้นรถคันนี้นี่เองเมื่อพนักงานมาเรียกเราให้ขึ้นรถ และเราก็หาที่เก็บกระเป๋ายากจริงๆด้วย ดีทีมีพระอีกรูปไม่มีของมาก จึงอาศัยเก็บด้านบนที่นั่งของท่านได้

เราเดินทางผ่านเมืองต่างงๆ ในเวลากลางคืน ซึ่งมองไม่ค่อยจะเห็นทางนักประกอบกับบางครั้งก็หลับไปในรถ กระทั่งรถจอดพักและให้ผู้โดยสารรับประทานอาหารที่เมืองอะไรก็ไม่ทราบได้เพราะเป็นเมืองระหว่างทางที่ไม่ใหญ่นัก ทั้งที่เราไม่ประสงค์จะลงจากรถ และจะอาศัยช่วงเวลาที่คนลงจากรถไปรับประทานอาหารและรถจอดนิ่งๆ งีบหลับเต็มที่สักหน่อย แต่เราก็ต้องจำใจลงจากรถ เพราะเป็นแนวปฏิบัติที่จะต้องให้ผู้โดยสารลงจากรถและปิดประตูรถไว้ในขณะที่พนักงานขับและเด็กรถก็ไปรับประทานอาหารด้วยนั้น ด้วยเกรงว่าจะมีการลักขโมยของผู้โดยสารคนอื่นๆ เพื่อเป็นการป้องกันจึงมีแนวปฏิบัติด้งกล่าว ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจได้ แต่ก็ยังรู้สึกเสียดายเวลาที่สูญเสียไปแทนที่จะได้นอนให้สบายสักหน่อย จากนั้นเราก็มาตื่นอีกทีเมื่อรถมาจอดพักที่เมืองอ่องปาน ซึ่งเป็นทางแยกไปปินตะยะ (มารู้ว่าเป็นที่นี่ก็เมื่อมาเมืองปินตะยะอีกในวันรุ่งขึ้น) ซึ่งก็จังคงใช้วิธีปฏิบัติแบบเดิมคือให้ผู้โดยสารลงจากรถทั้งหมด รถของเราผ่านเมืองเฮโฮ สถานที่ตั้งสนามบินที่ใหล้เมืองต่องจีที่สุด คือเมื่อประสงค์จะมาต่องจีโดยทางเครื่องบินก็ต้องบินมาลงที่เมืองเฮโฮแห่งนี้ จากเมืองเฮโฮไปเมืองต่องจี เป็นระยะทางประมา 25 ไมล์ เราเดินทางมาถึงเมืองต่องจีเวลาตีสี่ของวันที่ 3 เมษายน จ้างรถสองแถวจากที่จอดรถบริษัท ESE ไปส่งที่วัดเขมรัฐเชียงตุง ในเมืองต่องจี โชคดีที่เป็นเวลาที่พระเณรที่วัดตื่นมาทำวัตรพอดี เรายึงได้รับความสะดวกให้เข้าพบสวาธิ เจ้าอาวาสวัดเขมรัฐเชียงตุง ท่านเมตตาจัดที่พักอาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นอาคารสามชั้น ที่สมเพ็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ สร้างถวาย จึงขอเวลาหลับเอาแรงสักหนึ่งชั่วโมง

หมายเลขบันทึก: 438095เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2011 15:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม 2012 21:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท