Study Tour in Northern Shan State, Myanmar (Day 4)


วันนี้ตื่นนอนตอนเช้า ฝนยังคงตกไม่หยุด การเดินทางต่อไปยังเมืองมู่เจ่คงจะไม่ค่อยสะดวกนัก เนื่องจากระยะทางกว่า 112 กม. ที่ต้องใช้เวลากว่าสี่ชั่วโมง หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ(ไมต่อพูดถึงอาบน้ำ เพราะหนาวมาก)ก็ไปฉันภัตตาหารเช้า วันนี้เมนูอาหารเช้าเป็นผัดบะหมี่สำเร๊จรูปใส่กะหล่ำปลีและกุนเชียง พร้อมขนมจีน รสชาดก็อร่อยใช้ได้ เพียงแต่รู้สึกว่าจะปากคอแห้งผิดปกติ ไม่ทราบมีผงชูรสมากเกินไปหรือไม่ จากนั้นก็เข้าอำลาท่านเจ้าอาวาส สนทนากับท่านสักพักใหญ่ก็เก็บของขึ้นรถแท๊กซี่จ้างเหมาในราคา 40000 จ๊าด เพื่อให้ไปส่งที่เมืองมู่เจ่ เราเริ่มออกเดินทางเวลาประมาณ 0745 น. ระหว่างทางก็ยังคงพบเห็นคิวรถรอเติมน้ำมันเป็นคิวยาวกว่ากิโลเมตร คนขับรถบอกบางครั้งก็ยอมเสียเวลาเข้าคิวรอ หากไม่มีงาน แต่เมื่อมีงานก็ต้องจำยอมเติมข้างนอก ซึ่งราคาต่างกันมาก ระหว่าง 2500 จ๊าดต่อลิตร เป็น 4000 กว่าจ๊าดต่อลิตร คนทำมาหากินก็ต้องจำยอม แต่คนที่ต้องรับเต็มๆก็คือชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเราที่ต้องยอมจ่ายค่าเหมารถต่อคนก็ประมาณ 9000 จ๊าด ในการเดินทางจากลาเชียวไปเมืองมู่เส่

ระหว่างทาง เราแวะเมืองแสนหวี ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทย โดยเฉพาะคนเมืองล้านนา ในฐานะที่เป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่ของพี่น้องไต และมีความสัมพันธ์อันดีกับเมืองเชียงใหม่ เราแวะชมหอเจ้าหลวงแสนหวีซึ่งตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ ทางด้านขวาของถนนจากลาเชียวไปมู่เจ่ (ฝนตกตลอดทางจึงไม่สามารถบอกทิศได้) ที่ปัจจุบันนี้เหลือแต่เนินดินและซากหออยู่สองด้าน บางส่วนยังปรากฏลวดลายปูนปั้นที่งดงามมีเอกลักษณ์ พร้อมทั้งมีซุ้มหอที่เข้าใจว่าเป็นส่วนที่ชาวเมืองใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเมือง และยังปรากฏมีการนำเครื่องสักการะมาวางไว้บริเวณทางขึ้นซากหอเดิมอยู่ด้วย บริเวณลานที่เข้าใจว่าเป็นส่วนกลางของหอเจ้าหลวงแสนหวี ปัจจุบันเป็นที่ทำธุรกิจอิฐบล๊อก ที่มีการผสมปูนหินดินและอัดเป็นอิฐบล๊อกกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เมื่อสังเกตดูบ้านเรือนของชาวเมืองแสนหวีปัจจุบ้นก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงจากบ้านไม้มาเป็นบ้านก่อิฐบล๊อกกันมากขึ้น

จากนั้นเราได้ขึ้นไปไหว้พระธาตุ ซึ่งสร้างขึ้นใหม่โดยการนำของครูบาบุญชุ่ม เป็นพระเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยม มองเห็นได้จากเมืองแสนหวี ตรงฐานพระเจดีย์มีรูปปั้นช้างหลากหลายอิริยาบถครึ่งตัวในลักษณะค้ำพระเจดีย์ไว้ นับเป็นพระเจดีย์ที่สูงใหญ่มากองค์หนึ่ง นอกจากนี้ยังได้เห็นการปั่นไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ จากการทดน้ำตกและน้ำซับด้านบนวัดลงไปปั่นเครื่องปั่นไฟด้านล่าง เพื่อการใช้งานภายในวัดด้วย

เรากลับลงจากดอยพระธาตุก็เดินทางต่อ ผ่านด่านน้ำอุ่นซึ่งเป็นด่านเดียวบนถนนสายนี้ที่มีการตรวจตราสินค้าและคนที่เดินทางผ่านเส้นทางนี้ จากนั้นเราก็มาแวะฉันภัตตาหารเพลที่บ้านน้ำผักกา ซึ่งมีเมนูหลากหลายเช่นเคย เช่น ผักสด น้ำพริกมะเขือเทศ ต้มขิงไก่ หมูสับผัด ผักดองคั่วหมูสับ เต้าหู้พม่า ผัดดอกกะหล่ำ และน้ำซุบยาจีนใส (ที่อยากฉันมากตอนอยู่เนปาล แต่หาไม่มี)

จากนั้นเราเดินทางผ่านเมืองก๊ดขาย เมืองยู้ ซึ่งเป็นเมืองที่มีด่านตรวจตราสินค้าจากพม่าไปจีนและจากจีนเจ้าสู่พม่า ระยะทางห่างจากเมืองมู่เจ่ประมาณเจ็ดกิโลเมตร มีอาคารสำนักงานศุลกากรใหญ่โต และมีรถบรรทุกจอดรอการตรวจสอบอยู่เป็นจำนวนมาก เราผ่านเมืองยู้เข้าสู่เมืองมู่เจ่ ที่เพิ่งรู้เมื่อมาถึงนี่เองว่าเมืองมู่เจ่เป็นเมืองชายแดน ที่ติดกับประเทศจีน มีด่านตรวจคนเข้าเมืองและการผ่านแดนไปสูเมืองมาวหรือเมืองลุ่ยลี่ ประเทศจีน เพียงแค่มีน้ำมาวกั้นเขตแดนของสองประเทศเอาไว้

เราเข้าไปสอบถามวัดเพื่อหาที่พัก แต่ได้รับทราบว่าเจ้าอาวาสเดินทางไปเมืองน้ำคำ จึงต้องรอที่บ้านคนขับรถ จนเย็นประมาณหกโมงจึงได้กลับมาที่วัดอีกครั้ง คราวนี้ได้พบทั้งเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาส (ท่านวิสุทธะ) ท่านก็มีเมตตาให้ที่พัก แถมเลี้ยงน้ำชาและพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง และที่วัดนี้เองก็ได้มีโอกาสเช๊คเมล เพราะที่นี่ใช้บริการ 3G ของจีน ดูจะทันสมัยกว่าเมืองไทยมากเหลือเกิน เมื่อไรเราจะได้มีโอกาสใช้กับเขาบ้างหนอ

rif";� ac�O����amily: "Comic Sans MS";mso-hansi-font-family:"Comic Sans MS";color:black'> เป็นร้านอาหารสำเร็จรูปหลังคามุงด้วยไม้ไผ่สานคลุมด้วยพลาสติกอีกชั้นหนึ่งเพื่อกันฝน เป็นอาหารสไตล์พม่า มีเนื้อแดดเดียว ตับไก่ทอด ผัดดอกผักกาด เต้าหู้พม่า เม็ดถั่วผัด และผัดพักสีเขียวคล้ายผักกูด ส่วนที่ขาดไม่ได้ก็คือต้มส้มมะเขือใส่หน่อไม้และใบกระเจี้ยบ เป็นซุ๊ปประจำชุดอาหารพม่าที่แตกต่างกันไปในแตละท้องถิ่น น้ำเป็นอาหารที่อร่อยอีกมื้อหนึ่งในพม่า จากนั้นจึงเดินทางกลับวัดเพื่อมาพักผ่อน เก็บภาพที่ถ่ายลงในคอมฯ นั่งเขียนบันทึกและพักผ่อนจริงๆ

 

ตอนค่ำ ได้มีโอกาสออกไปเช็คอีเมล ตั้งแต่หนึ่งทุ่ม กว่าจะสรามารถเข้าเน็ตได้อย่างเป็นปกติ ก็ปาเจ้าไปชั่วโมงกว่าๆ เนื่องด้วยเน็ตทั้งช้า และหลุดง่าย ต้องใจเย็นรอจนกระทั่งเจ้าได้ก็ตอบเมลที่สำคัญไปบางเมลเท่านั้น จากนั้นก็กลับมาพักผ่อน(อีกแล้ว) เพื่อรอความตื่นเต้นที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ เพราะจะได้มีโอกาสชมเมืองแสนหวี ที่ใฝ่ฝันอยากเห็นนักหนามานานมากแล้ว นอนเอาแรงก่อนก็แล้วกัน

หมายเลขบันทึก: 438091เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2011 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 19:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท