Study Tour in Northern Shan State, Myanmar (Day 2)


ตื่นนอนตอนเช้า ทำธุระส่วนตัว เสร็จแล้ว ฉันภัตตาหารเช้า (ข้าวต้ม) จากนั้นจึงออกเดินทางไปขึ้นเครื่องบิน ไปมันดเลย์ ด้วยเที่ยวบินที่ 011 ซึ่งบินระหว่างย่างกุ้ง-มันดะเลย์-เฮโฮ การเช๊คอินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้เลขที่นั่ง E1 นั่งรอเครื่องประมาณสามสิบนาที ออกไปขึ้นเครื่อง ตลอดทางบินก็นั่งหลับไปตามเคย เครื่องลงจอดที่สนามบินนานาชาติมันดะเลย์ เวลา 0945 น. รับของเสร็จก็จับแท็กซี่ไปในเมืองมันดะเลย์ เพื่อจับรถไปลาเชียว เป็นรถรับจ้างขนาดเล็กห้าที่นั่ง แชร์กับคนพม่าอีกสองคน ในราคาก้าหมื่นจ๊าด ออกเดินทางจากมันดะเลย์ประมาณ 11.00 น. ระหว่างทางแวะเติมน้ำมันที่ปั้มก่อนอออกจากเมืองมันดะเลย์ แต่ไม่ได้เติมเนื่องจากมีรถและคนจำนวนมากเข้าคิวรอเติมน้ำมันอยู่ แม้คนขับรถจะขอลัดคิวโดยมีข้ออ้างว่ามีพระสงฆ์จะต้องเดินทางไกลก็ตาม จึงต้องมาแวะเติมที่ปั้มหลอด(จริงๆ)ข้างถนน เป็นปั้มที่ต้องไปเข้าคิวขอซื้อมาจารัฐตามสิทธิที่จะซื้อได้ แล้วนำมาขายในราคาที่เรียกว่า กำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยเพียงแค่ยอมเสียเวลาเข้าคิวตามสิทธิเท่านั้น

เราออกเดินทางโดยถนนที่เรียกว่าดีมาก เพราะเป็นถนนที่อาจเรียกได้ว่า "ถนนสี่เลน" ที่แยกกันเดินระหว่าไป-กลับ ทางไปก็วิ่งได้สองคันคือสามาระแซงกันได้ และทางกลับกันก็เป็นลักษณะเดียวกัน สักพักหนึ่งเมื่อขึ้นเขาก็มาเจอกันและกลายเป็นถนนสองเลนในที่สุด เส้นทางก็ถือว่าตีตามสภาพ สองข้างทางซึ่งเป็นชนบทก็มีการทำเกษตรกรรม มีระบบชลประทานที่ดีพอที่จะทำมาหากอนได้ตามสภาพ เรามาแวะฉันภัตตาหารเพลและพักรถที่เมืองฒูเมี้ยว หรือเมืองปางอู ซึ่งก็เป็นอาหารจานด่วนประเภทบุฟเฟต์ มีอาหารให้เลือกมากกว่าสามสิบอย่าง ทั้งแบบพม่า ไต อินเดีย และอาหารท้องถิ่น ที่ลูกค้าสามารถเลือกตักรับประทานได้ตามชอบใจ ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ที่ถูกใจเป็นพิเศษก็เห็จะเป็นตำมะปราง ส่วนคนขับรถก็จะมีสิทธิพิเศษที่รับประทานอาหารได้ตามสะดวก โดยไม่ต้องจ่ายเงิน

เราเดินทางต่อไปบนเส้นทางที่คดเคี้ยว(มากๆ) ที่เป็นเส้นทางยุทศาสตร์สู่ชายแดนประเทศจีน เดิมเป็นดส้นทางลำเลียงของกองกำลังทหารพม่า ต้องลัดเลาะไปตามถูเขาลงเขาช่วงสั้นๆ แต่ก็ต้องใช้เวลาเนื่องจากต้องไปอ้อมมาก่อนจะลงเขาไปเรื่อยๆ ตอนขึ้นเขาก็เป็นในทำนองเดียวกัน เราแวะพักรถอีกรอบที่เมืองจ๊อกเม คนขับก็ไปรับประทานอาหารตามสิทธิ ที่เมืองนี้เป็นที่อยู่ของชนเชื้อสายปะหล่องเป็นส่วนมาก ระหว่าทางที่ผ่านหมู่บ้าน จะพบเห็นหอกลางบ้านซึ่งเป็นหอสูง อาจตั้งอยู่ในบริเวณบ้านของใครก็ได้ แต่ทำหน้าที่เหมือนส่วนรวมของหมู่บ้าน ด้านล่างของหอสูงด้งกล่าวก็จะเป็นที่ตั้งของเสาหลักบ้าน (เป็นเสาไม้ธรรมดา) อีกไม่นานนักเราก็ผ่านเมืองหนองเขียว ที่ดูจะเงียบเหงา ไม่คึกคักมากนัก

เราเดินทางผ่านเมืองสีป้อ เป็นเมืองที่ดูเก่าแก่ มีบ้านเรือนรูปทรงยุโรปอยู่ประปราย ดูจะมีความอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำไหลฝ่าน เราข้ามสะพานใหม่ที่เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อต้นเดือนมีนาคมนี้เอง คาดว่าจะได้รับงยสะนับสนุนจากรัฐบาลจีน เพื่อความสะดวกในการขนส่งสินค้าจากจีนสู่พม่า เพราะตลอดเส้นทางจะพบรถบรรทุกขนาดใหญ่สิบล้อ บ้านเราต้องเป็นรถพ่วง แต่ที่พม่าไม่ต้องพ่วงแต่อย่างใด เราต้องขับสวนทางและแซงรถประเภทนี้อยู่บ่อยๆ รถที่สวนทางก็จะมีทั้งบรรทุกสูง คลุมผ้าใบ และบรรทุกต่ำคลุมผ้าใบ เท่าที่สังเกต รถที่สวนทางบรรทุกต่ำก็จะเป็นถ่านหิน ส่วนที่แซงก็จะเป็นรถบรรทุกไม้ซุงขนาดใหญ่ ที่เข้าใจว่าจะถูกขายให้พ่อค้าจากจีน

เราเดินทางมาถึงเมืองลาเชียว(Lashio) เวลาประมาณ 1745 น. ส่งเพื่อชาวพม่าไปพักที่โรงราเป้าหมายสองแห่ง ใกล้มหาวิทยาลัยลาเชียวและในเมือง ส่วนเราก็เดินทางไปกลางเวียง เพื่อเข้าพักที่วัดกลางเวียง ซึ่งเป็นวัดไต มี เป็นเจ้าอาวาส เราได้พบต็แก้ว เป็นคนแถวกาดเต่า เมืองเชียงตุง ให้การดูแลต้อนรับให้พักที่อาคารที่พักอาคันตุกะกับพระอีกหลายรูปที่มาถึงลาเชียวในเย็นวันเดียวกัน เราพักอยู่ที่ห้องหมายเลข 11 ทราบว่ามีพระเณรประมาณแปดสิบรูป สภาพทั่วไปของวัด มีวิหารหลังใหญ่ที่ท่านประธานตานฉ่วยได้มาเป็นประธานในการสมโภช มีพระพุทธรูปพระประธานที่เป็นพระสานด้วยไม้ไผ่ ขนาดหน้าตัก 8 ฟุต 11 นิ้ว โดยช่างที่มีชื่อเสียง ชื่ออ่อนแสง ภายในเป็นโครงเหล็ก รูปลักษณะคล้ายพระพุทธรูปที่มันดะเลย์ คือพระมหามยะมุนี มีอาคารหอนาฬิกาสูงเป็นที่มองเห็นได้จากที่ไกล มีอาคารกุฎิหลายหลังตั้งอยู่กระจัดกระจายภายในวัด มีหอฉันอยู่ด้านหลังวิหารใหญ่ มีเจดีย์และพระพุทธรูปอยู่ภายนอกวิหารด้วย ภายในวัดเทด้วยคอนกรีตและยางทั้งวัด แทบจะเรียกได้ว่าไม่เหลือพื้นที่ให้ต้นไม้ขึ้นได้เลย นอกจากบริเวณทิ่ติดกำแพง ต้นไม้ภายในวัดพอจะนับต้นได้ ก้จะเป็นต้นมะพร้าว ต้นพิกุล ต้นบุนนาค และต้นดอกอีกไม่กี่ต้น

หลังจากอาบน้ำให้สดชื่นแล้ว เราก็ได้ออกไปเดินนอกวัด ขึ้นไปไหว้พระที่วัดบ้านสู้ (Wan Su Pagoda) จากนั้นก็กลับมาพักผ่อน วางแผนการเดินทางในวันรุ่งขึ้น

หมายเลขบันทึก: 438087เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2011 15:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท