โลกที่ป่วยไข้
๑.
๐ต้นเดือน มกราฯ ปีห้าสี่
โลกที่ ป่วยไข้ ยังไม่ฟื้น
มนุษย์ยัง สุมไฟ เติมเชื้อฟืน
เสียงสะอื้น ร่ำร้อง ก้องโลกา
๐ที่เกาะกุม อำนาจ วาดความหวัง
ยังดื้อดั่ง วัวควาย ไร้กังขา
เพื่อประโยชน์ พวกตน ได้อัตตา
จึงตีค่า ความดีงาม เท่าความเลว
๐ที่ไร้สิทธิ์ ไร้เสียง เยี่ยงตาสี
ก็ถูกปล้น ถูกตี ทิ้งลงเหว
ทนอยู่กิน ด้วยเศษสวะ เสพสิ่งเลว
ถูกผลัก ตกเหว ให้ตายไป
๐มนุษย์โลก จึ่งเป็น เช่นคนบาป
ถูกสาป จากดาวอื่น หรือไฉน?
เป็นเพียง สัตว์เลี้ยง โลกอื่นใด?
หรืออยู่ใน คอกขัง หวังทดลอง?
๐เราจึ่งพบ การรบรา และฆ่าฟัน
แย่งชิง ทุกสิ่งอัน เป็นเจ้าของ
บ้างนั่งแคร่ แบกหาม ให้คนมอง
บ้างเอาทอง ห่อตน ให้คนดู
๐บ้างนั่งกิน ขนมปัง อีกฝั่งฝัน
ไร้การ แบ่งปัน น่าอดสู
บ้างโบยตี เฆี่ยนประชาฯ มิน่าดู
มิต่อสู้ ก็ถูกเหลือบ เขมือบเอา
๐หรือว่าโลก...ใกล้อวสาน กาลสิ้นโลก ?
คลื่นลม วิปโยค มาโบกเล่า
ความโลภ มิพอเพียง เยี่ยงเธอเรา
อาจพบความ ว่างเปล่า ไร้เงาตน
๒.
๐จวนจะสิ้น เมษาฯ ปีห้าสี่
โลกที่ หดหู่ ดูสับสน
จะฟื้นตัว เปลี่ยนผ่าน อาการทุรน
หรือจะวน เวียนเวิ้ง ในเพลิงกรรม
๐หากกรรมดี มีมาก จากพลโลก
คลื่นลม วิปโยค ที่โบกร่ำ
จะซาเสียง เศร้าโศก โลกธรรม
เช้าจวนค่ำ โลกเบิกบาน นับล้านปี
เช้ายันค่ำ โลกสราญ นับล้านปี๐
----------------------------
ธัญศักดิ์ ณ นคร
เมษายน/54
ไม่มีความเห็น