หลักสูตรอิสลามศึกษา เวอร์ชั่นอิสลามอีสาน


“อัลลอฮฺบัร อัลลอฮฺบัร” เสียงอาซานเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว ไม่ใช่เสียงใครจากไหน แต่เป็นลูกหลานของมุสลิมอีสานของเราที่ได้รับการฝึกฝนมาทุกปีได้กลับมาใช้งานที่มัสยิดกลางของจังหวัดอีกครั้ง

“จบไปแล้วหนึ่งวิชา ใครยังทำแบบฝึกหัดไม่เสร็จบ้าง เดี๋ยวให้นักเรียนพัก ๑๕ นาทีแล้วเข้ามาใหม่ วิชาต่อไปของเราคือหลักศรัทธา”

          ได้เวลาพักกล่องเสียงและเส้นประสาทในสมองแล้ว เพื่อที่จะคิดวางแผนการสอนในชั่วโมงต่อไปอย่างไร ทุกท่านไม่ต้องแปลกนะครับว่าทำไมเราต้องพักแบบนี้ ก็เพราะว่าเวลาที่เราสอนเด็กนักเรียนเหล่านี้มันก็ต้องใช้เสียงเป็นธรรมดา แล้วก็ต้องเสียงดังด้วย พร้อมทั้งต้องคอบหรี่เสียงลงเพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ตามวิชาที่ศึกษาอยู่ อีกอย่างถ้าเราคำนวณด้วยสายตาและผิวสัมผัสดีๆเราจะพบว่า บางครั้งการอยู่ในระบบมากไป ทำให้การเรียนรู้มีขีดจำกัดตามแบบทดสอบหรือการวัดผลทางการศึกษา แม้ว่าลักษณะโดยรวมแล้ว การสอนอิสลามแก่มุสลิมที่อีสานนี้ยังจะต้องใช้ระบบโรงเรียนอยู่เพื่อวัดผลการศึกษาที่ผ่านมานักเรียนเหล่านี้มีความเปลี่ยนแปลงการพัฒนามากน้อยเพียงใด คุ้มค่ากับการมาสอนของครูที่นี้ไหม และครูสอนคุ้มค่าที่มาสอนไหม เป็นต้น

          หากเราดูจากสภาพห้องเรียนบางแห่งแล้ว ในช่วงเช้าอากาศยังดีอยู่ จิตใจแจ่มใส แต่พอสักประมาณเวลาเกือบๆ ๑๐ โมงครึ่ง ทุกคนก็เริ่มที่จะมีการอาการนั่งไปติด ใจลอย ร้อน หิว เพราะไม่คุ้นชินกับบรรยากาศที่ต้องนั่งนานๆ อย่างที่บอกไม่มีใครทนนั่งฟังเรื่องราวต่างๆได้นาน ๔๕ นาทีแน่นอน อย่าว่าแต่การดูหนังเลย นอนเฉยๆยังเมื่อยเลย จึงเป็นสาเหตุที่ต้องให้เด็กๆเดินออกไปยืดเส้นยืดสายกันก่อน ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องบริเวณโรงเรียนที่เราอยู่ บ้างก็ให้เดินไปดื่มน้ำเย็น เพราะอากาศเดือนเมษายนมันร้อนจริงๆ อยู่นานๆไม่ได้มันจะง่วง

          การออกแบบห้องเรียนไม่มีขีดจำกัดแน่นอน แต่ที่เราพบเห็นในครั้งนี้ บางทีมันไม่เอื้อต่อการศึกษาในรูปแบบนี้ เพราะอากาศไม่สามารถถ่ายเท ถ้าจะให้ถ่ายเทได้สะดวกก็มีสิ่งเร้ามากไป และหลังมานี้ บางพื้นที่ก็นำคอนกรีตมาปิดหน้าดิน เพื่อป้องกันปัญหาจากหน้าแล้งหรือหน้าฝน ทั้งๆที่เป็นการแก้ปัญหาภาวะทางอากาศระยะสั้นทั้งสิ้น วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากการปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่น ดักทางลม ทางน้ำให้ดีเท่านั้นก็พอ

          จำนวนนักเรียนที่มีประมาณ ๔๐ คนต่อครู ๑ คน กับขนาดห้องเรียนที่กว้าง ๑๐ เมตร  ยาว ๕๐ เมตร ไม่สามารถเก็บเสียงได้ ทำให้สูญเสียพลังงาน การสูญเสียพลังงานตรงนี้มีความต่างกันกับการสอนใต้ต้นไม้ที่เงียบสงบเช่นกัน ดังนั้นแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีรูปแบบการสอนที่พัฒนามากขึ้น เพื่อประโยชน์ของนักเรียนที่สามารถเรียนรู้ได้เต็มที่

          “อีก ๒ นาที” นักเรียนทั้งหมดเริ่มที่จะเดินเข้ามา เพื่อเรียนรู้วิชาหลักศรัทธาต่อไป ขณะนี้ทุกคนก็เริ่มตั้งตารอคอย อยากรู้ว่าวิชาที่จะเรียนนี้ มันคืออะไรกันแน่ ทำไมต้องศรัทธา ศรัทธาทำไมกัน แล้วเราเป็นใครกันแน่ มาเป็นมุสลิมหรืองัย แล้วทำไมต้องมาเรียนวิชานี้กัน ทำไมไม่เหมือนกันคนศาสนาอื่นเลย

          ต้องยอมรับจริงๆว่านักเรียนที่นี้ อีหม่านแรงกันทุกคน เพราะบางคนไม่เคยเจออิสลามที่บ้าน เจอเพียงการปฎิบัติ แต่ความเข้าใจ ความยำเกรงในพระเจ้ายังไม่ทราบ ไม่ใช่ไม่กลัว แต่ไม่รู้มากกว่า วันนี้เราจึงต้องมาสอนกัน

          วิธีการสอนก็หลักสูตรเดิมอีกเช่นเคย เพราะบางทีเราจะจับประเด็นหรือกลุ่มยังไม่ได้เสมอไป ยังคงต้องสอนเหมือนสอนผู้ใหญ่ตามมัสยิดในภาคใต้ หรือการสอนอิสลามแบบการเป็นวิทยากรให้ความรู้ทั่วไป จะระบุชัดเจนแบบโรงเรียนมิได้

          ทีนี้ก็เริ่มด้วยกันเขียนชอล์กขึ้นกระดานดำอีกครั้ง แต่ยังไม่ลบความว่า บิสมิลลาฮฺ ฮิรเราะฮฺมา นิรรอฮิม ออกไปให้อยู่ตรงกันด้านบน พร้อมกันวันเดือนปีอิสลามควบคู่กับของไทยเรา แล้วก็เราก็แบ่งส่วนครึ่งหนึ่งทางขวาไว้ใส่ดุอาอ์กันลืม กับตารางทำความสะอาดอีกด้วยกันลืมจริงๆ

          วันนี้ น่าจะเริ่มแบบง่ายๆตามลำดับ ทบทวนกันก่อนเลย เอาแบบไม่อยากไม่ง่าย แต่เข้าใจถึงแก่นก็พอ เพราะเป้าหมายลึกๆในใจแล้ว เท่าที่สัมผัสมาว่า การเรียนรู้อิสลามนั้นขอแค่เข้าใจถึงแก่นของอิสลามและการเป็นมุสลิมก็เพียงพอแล้ว พอที่จะให้ศึกษาต่อด้วยตนเองโดยมีผู้รู้ให้คำปรึกษาอยู่ใกล้ๆ

          อิสลาม คือ อะไร ท่านทราบไหมครับว่าอิสลามคืออะไร ทุกคนทราบอยู่แล้วแน่เลย แต่เราก็ต้องทบทวนเพราะการทบทวนครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งแน่นอน เราเอาเรื่องรอบตัวเด็กในชุมชน มาเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบว่าทำไมต้องมีอิสลาม อิสลามเพื่อใครได้บ้าง ใครบ้างที่นับถืออิสลาม อิสลามมีจริงแค่ไหน เอาอะไรมาวัดความเป็นอิสลาม อิสลามีหลักฐานจากไหน ใครเป็นคนเอามา เอามาได้อย่างไร ทำไมยังคงอยู่ ทำไมคนในประเทศไทยไม่เข้ารับอิสลามในเมื่ออิสลามเป็นของแท้แน่นอน ทำไม ทำไม แล้วก็ทำไม

          ทุกคนจะชอบถามทำไมกันตั้งแต่เด็กจนชรา เพราะมันง่าย เร็วดี แต่ถ้าอธิบายแล้วยังไม่เข้าใจก็ไม่รู้ทำไมไม่เข้าใจสักที จากนั้นเมื่อเด็กนักเรียนได้คำตอบเกี่ยวกับอิสลามแล้ว ก็จะมีความกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ เพราะมันเมื่อกับว่าพวกเขาอึดอัดในใจ รู้สึกว่าชีวิตนี้ ไม่ได้เกิดมาเฉยๆแน่นอน

          เห็นไหมครับว่า การสอนอิสลามนั้นไม่สามารถสอนได้ลึกซึ้งในเวลาอันสั้นได้ แค่คำว่าอิสลาม ก็กินเวลาไปเป็นชั่วโมงจนเที่ยงแล้ว แต่มันก็สู้การกินใจคนไม่ได้ เพราะไม่มีเวลาไหนเพียงพอสำหรับมนุษย์ในการทำอิบาดัตหรือประกอบศาสนกิจเพื่อพระเจ้าได้แน่นอน หากทุกคนกลัว ยำเกรงพระองค์จริงๆ

          วันนี้เราจับคำว่าอิสลามกันก่อน เล่าถึงความหมาย ประวัติความเป็นมา ความจริง และหน้าที่ของมนุษย์ในภาพรวมแบบไม่ยากเกินไป เปรียบเทียบกรณีง่ายๆ ต้องยอมรับว่าในคู่มือที่เรามีนั้น ลึกๆแล้วไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลยสำหรับคนที่เป็นครู แต่สามารถเป็นแผนที่ในการนำทางการสอนไปได้ มันเปรียบเสมือนทางบอกไปทางซ้ายทางขวาจะไปมัสยิด แต่ในระหว่างทางนั้นไม่บอกว่ามีอะไรบ้าง บอกแค่ที่สำคัญๆเท่านั้น สิ่งที่อยู่ริมทางของหนังสือนั้น ประวัติที่อยู่ริมนั้น เราต้องอาศัยการเรียนรู้จากการอ่านของเรา การฟัง การเขียน การพูด สมัยที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ ถึงจะอธิบายให้เห็นภาพโดยไม่ต้องอ่านหนังสือ

          ลืมบอกไปอีกอย่างหนึ่ง คือ การสอนที่นี้เราต้องสอนภาษาไทยด้วยเช่นกัน เคยสอนภาษาอังกฤษแล้ว แต่ปรากฏว่ามันยังไม่ถึงเวลา เราจึงใช้แค่คำศัพท์เปรียบเทียบให้กับนักเรียนก็พอ แต่บางทีก็ต้องมาช่วยสอนการบ้านให้กับเด็กๆในบางเวลา เพราะการสอนอิสลามนั้นต้องอยู่ทุกอิริยาบถอยู่แล้ว

          ในการสอนช่วงที่สองวันนี้กับวิชาหลักศรัทธาในอิสลามนั้นเราได้ให้นักเรียนเขียนลงให้สมุดเช่นกัน เพราะเราไม่มีหนังสือให้นักเรียนใช้ อีกอย่างกลัวหนังสือหายด้วย จำได้ว่าเคยแจกไว้ แต่สาเหตุอะไรนั้นเป็นเรื่องปกติของนักเรียนที่ต้องปรับความเข้าใจ ความคิด ในตัวแต่ละคน เพราะนักเรียนที่นี้พวกเขาเรียนที่โรงเรียน การเรียนที่นั้นมีบทบาทต่อการจบการศึกษาในระดับขั้นพื้นฐานตามกฎหมายไทย ซึ่งต่างกับการจบการศึกษาขั้นพื้นฐานของอัลลอฮฺที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ แต่อัลลอฮฺผู้ทรงไว้ซึ่งความกรุณา ปราณี ยังคงไว้ซึ่งการอภัยโทษแก่มนุษย์ จึงมีโอกาสศึกษาได้ตั้งแต่ในเปลจนหลุมฝังศพ แต่อิสลามจริงๆแล้วไม่สามารถรอใครได้เลย วันนี้พวกเรายังมีแรง มีเวลา มีความจำ เราก็จะต้องรีบเร่งกันศึกษา เพื่อรีบเร่งทำความดี แข่งกันทำความดีเพื่ออัลลอฮฺพระองค์ เพื่อความพึงพอพระทัยของพระองค์ เพราะวัยหนุ่มสาวนี้เองที่พระองค์จะถามพวกเราในอนาคตว่าพวกท่านเสียสละมากแค่ไหนเพื่อพระองค์ แค่เรามีลมหายใจสูดเข้าออกได้ไม่ติดขัดก็อัลฮัมดูลาห์แล้ว

          “อัลลอฮฺบัร อัลลอฮฺบัร” เสียงอาซานเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว ไม่ใช่เสียงใครจากไหน แต่เป็นลูกหลานของมุสลิมอีสานของเราที่ได้รับการฝึกฝนมาทุกปีได้กลับมาใช้งานที่มัสยิดกลางของจังหวัดอีกครั้ง ด้วยเสียงที่ไพเราะ สนองหู การอ่านที่ถูกต้อง แม้จะมีสำเนียงเด็กก็ตาม แต่ก็ทำให้จิตใจใครบางคนแถวนั้นรู้สึกสะอึกในอีหม่านของตนเองได้ อย่าว่าแค่คนอื่นเลย ขนาดครูผู้สอนเองยังรู้สึกตื้นตันใจที่ได้ยิน บ่งบอกถึงความสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งในชีวิตแค่นี้ก็รู้สึกดีแล้ว แต่หนทางข้างหน้ายังมีอีกหลายขั้น

          ตึกสูงใหญ่ฉันใด ก็ต้องเริ่มจากอิฐก้อนแรก อิสลามอีสานจะยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ต้องเริ่มจากมุสลิมคนแรกเช่นกัน

หมายเลขบันทึก: 435841เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2011 18:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 01:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท