การพัฒนาจริยธรรมต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอนาคตร่วมกัน บทที่ 3


FSC, การศึกษา, จริยธรรม, ธรรมชาติ, พระ, มจร, มนุษย์, สิ่งแวดล้อม

 

 

บทที่  3

 

วิธีการดำเนินงาน

 

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลการพัฒนาจริยธรรม

ต่อสิ่งแวดล้อมโดยใช้กระบวนการสร้างอนาคตร่วมกัน  กรณีศึกษานิสิตชั้นปีที่  3  คณะครุศาสตร์ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน  ปีการศึกษา  2550  โดยผู้วิจัยมุ่งเสนอให้เห็นภาพของปรากฏการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะพฤติกรรมเชิงจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมผู้เรียนก่อนและหลังการเรียน  ซึ่งลักษณะของพฤติกรรมเชิงจริยธรรม ในที่นี้จะหมายถึง   ความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมด้านสถานการณ์สิ่งแวดล้อม  และ พฤติกรรมการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้  ผู้วิจัยได้เลือกใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Research)   สำหรับวิธีการในการดำเนินการศึกษาวิจัยนั้น  ผู้วิจัยได้กำหนดขั้นตอนไว้ดังนี้

             1.  การศึกษาข้อมูลจากเอกสาร

             2.  ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

             3.  การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

             4.  ขั้นตอนการดำเนินการ

             5.  การรวบรวมข้อมูล  

             6.   การวิเคราะห์ข้อมูล

 

1.  การศึกษาข้อมูลจากเอกสาร

 

ผู้วิจัยได้เตรียมตัวด้านความรู้ ความสามารถทางด้านวิชาการ โดยผู้วิจัยได้ศึกษาความรู้จากเอกสาร ตำราต่าง ๆ เกี่ยวกับแนวคิดและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง จากห้องสมุดเพื่อเป็นแนวทางในการทำการศึกษาวิจัย  ซึ่งแนวคิดเหล่านั้นได้แก่  แนวคิดรูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาจริยธรรม  แนวคิดการพัฒนาจริยธรรมต่อสิ่งแวดล้อม   แนวคิดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ   และแนวคิดกระบวนการสร้างอนาคตร่วมกัน  รวมทั้งงานวิจัยอื่น ๆ  ที่เกี่ยวข้อง

            

  1. 2.      ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

 

          เนื่องจากการวิจัยในครั้งนี้  เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน  ซึ่งผู้วิจัยมีบทบาทเป็นผู้สอนประจำวิชา  ดังนั้นกลุ่มตัวอย่างที่ถูกเลือกเพื่อการวิจัย  จึงเป็นนิสิตชั้นปีที่  3  คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงลงกรณราชวิทยาลัย   วิทยาเขตเชียงใหม่  จำนวน  13 รูป ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาดังกล่าว  ในภาคเรียนที่  1 ปีการศึกษา  2550

 

3.  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

 

การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้เลือกใช้ระเบียบวิธีการวิจัย เชิงกึ่งทดลอง (Quasi Experimental

Research) โดยการที่ผู้วิจัยได้ออกแบบเครื่องมือเพื่อการพัฒนาจริยธรรมต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้เรียน จากนั้นได้นำไปทดลองปฏิบัติและดำเนินการเก็บรวบรวมผล สำหรับเครื่องมือของการวิจัยในครั้งนี้จึงสามารถจำแนกได้ดังนี้

 

 

3.1. การสร้างเครื่องมือในการวิจัย

            เนื่องการการพัฒนาจริยธรรมเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน  ดังนั้นจึงใช้เครื่องมือที่หลากหลายเพื่อให้เห็นถึงผลแห่งพฤติกรรมการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น  ซึ่งประกอบด้วย

1.แบบทดสอบ

     1.1.) แบบวัดผลสัมฤทธิ์  : วัดทักษะการคิดต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแบบทดสอบ

ก่อนและหลังเรียน  มีลักษณะเป็นข้อคำถามแบบเขียนตอบ  จำนวน   6  ข้อ

     1.2.) แบบวัดความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อม ก่อนและหลังเรียน  ซึ่งมีลักษณะเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบแบบมาตรส่วนประมาณค่า  5  ระดับ   จำนวน  20 ข้อ

   1.3.) แบบวัดความสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมก่อนและหลังเรียน  ซึ่งมีลักษณะเป็นข้อ

คำถามแบบปรนัยเลือกตอบจำนวน  4  ตัวเลือก   จำนวน 15  ข้อ

   1.4).แบบวัดพฤติกรรรมการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก่อนและหลังเรียน  ซึ่งมีลักษณะเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบแบบมาตรส่วนประมาณค่า  5  ระดับ   จำนวน  15 ข้อ

   1.5.แบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้างอนาคตร่วมกัน  ซึ่งมีลักษณะเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบแบบมาตรส่วนประมาณค่า  5  ระดับ   จำนวน  8 ข้อ

2.แบบสังเกตพฤติกรรม : แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม  และพฤติกรรมระหว่างการเรียนการสอน

3. แผนการเรียนรู้ ซึ่งสร้างตามหลักการสร้างอนาคตร่วมกัน มีลำดับขั้นการสอน  9 ขั้นตอนคือ  การคาดหวัง  การรำลึกอดีต  ทุกข์ของผู้เรียน  ต้นไม้ปัญหา  ละครคน  การสร้างวิสัยทัศน์   การปฏิบัติตามแผน  การสร้างองค์ความรู้และการประมวลผลการเรียน   ทั้งนี้ได้จัดทำแผนการเรียนรู้จำนวน  8  แผน  สำหรับการสอน  14  ครั้ง  เวลาสอนทั้งหมด  28  คาบ  คาบละ  50  นาที 

4.เอกสารใบงานมอบหมาย : เอกสารบันทึกความรู้ ,บันทึกกระจกส่องตนด้านสิ่งแวดล้อม  ,รายงานโครงการพัฒนาตนเองด้านสิ่งแวดล้อม , การศึกษาชุมชน และรายงานผลโครงการทำงานเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม

 

          3.1.1.  การสร้างแผนการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้างอนาคตร่วมกัน 

1.)    การศึกษาคำอธิบายประจำวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน 

เพื่อกำหนดรายละเอียดการสอนประจำวิชา  โดยในรายวิชาดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจและความตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญของสิ่งแวดล้อม  สภาพการณ์ปัญหาของสิ่งแวดล้อมและแนวทางในการอนุรักษ์จัดการสิ่งแวดล้อม   รวมทั้งบทบาทของการศึกษาในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม     แต่สำหรับการวิจัยในครั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดขอบเขตเนื้อหาการเรียนการสอนเพื่อการพัฒนาจริยธรรมต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้เรียนใน  3  ด้าน ได้แก่คุณค่าความสำคัญของสิ่งแวดล้อม  สถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อม   และแนวทางในการอนุรักษ์จัดการสิ่งแวดล้อม

2)      การจัดทำแผนการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้างอนาคตร่วมกันจำนวน  8  แผน

โดยระยะเวลาในสอนทั้งหมด  42 คาบ  คาบละ 50 นาที  สำหรับการสอนจำนวน   14  ครั้ง  ครั้งละ  2  คาบ  และทำการทดสอบก่อนและหลังเรียนจำนวน  1 คาบ  รวมทั้งสิ้น  40  คาบ  ซึ่งประกอบด้วย

                        2.1) แผนการเรียนรู้ที่ 1 การบอกเล่าและย้อนทวน เป็นการชี้แจงวัตถุประสงค์รายวิชา  วิธีการเรียนรู้ การวัดประเมินผล และทบทวนสาระเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม  ด้วยการบรรยาย ซักถามและวีดีทัศน์  รวมทั้งการทดสอบก่อนการเรียนรู้  รวมทั้งการมอบหมายทำการวิเคราะห์พฤติกรรมตนเองที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยกิจกรรมบันทึกกระจำส่องตนด้านสิ่งแวดล้อม เป็นเวลา 3 สัปดาห์  โดยใช้ระยะเวลา 3 คาบ

            2.2.)แผนการเรียนรู้ที่ 2  การสร้างความคาดหวัง – รำลึกอดีตต่อสถานการณ์และคุณค่าสิ่งแวดล้อม ด้วยกิจกรรมระดมคิดภาพอดีตและความฝัน  สรุปหลอมรวมบันทึกในรูปแบบแผนที่ความคิดใช้ระยะเวลา  3 คาบ

                          2.3) แผนการเรียนรู้ที่ 3  ความทุกข์ต่อสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการวิเคราะห์สาเหตุปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยกิจกรรมต้นไม้เจ้าปัญหาและการนำเสนอสารคดีวีดีทัศน์ปัญหาสิ่งแวดล้อมใช้ระยะเวลา  3 คาบ รวมทั้งการมอบหมายจัดทำโครงการพัฒนาตนเองด้านสิ่งแวดล้อมเป็นระยะเวลา  4 สัปดาห์

                        2.4) แผนการเรียนรู้ที่  4 บทเรียนจากชุมชนด้วยกิจกรรมบทปฏิบัติการศึกษาวิถีชุมชนในการจัดการสิ่งแวดล้อม  ใช้ระยะเวลา  6 คาบ

                       2.5.) แผนการเรียนรู้ที่ 5 ศึกษาสมรภูมิ  ด้วยการแบ่งกลุ่มฝึกศึกษาชุมชนเพื่อการวางแผนพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม  พร้อมทั้งกำหนดให้ศึกษากรณีตัวอย่างองค์กรหรือบุคคลที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อศึกษาต้นแบบการทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ใช้ระยะเวลา  6 คาบ  ฝึกปฏิบัตินอกเวลา  2 สัปดาห์

           2.6.) แผนการเรียนรู้ที่ 6  การป้องกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยกิจกรรมสร้างทางเลือกกำหนดวิสัยทัศน์และแผนงานด้านสิ่งแวดล้อม  ซึ่งเกิดจากการนำผลการศึกษาชุมชนและกรณีตัวอย่างองค์กรหรือบุคคลที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม มาวิเคราะห์ปัญหาและทางหาเลือก  ใช้ระยะเวลา  6 คาบ

                       2.7) แผนการเรียนรู้ครั้งที่  7  การปฏิบัติตามแผนการป้องกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมส่วนชุมชนการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตสำนึกสาธารณะสิ่งแวดล้อม  ด้วยการจัดทำโครงงานเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม โดยกระบวนการกลุ่ม ใช้ระยะเวลา  9 คาบ  ฝึกปฏิบัตินอกเวลา 3 สัปดาห์  และมีการรายงานผลการดำเนินงานทุกสัปดาห์

                      2.8.) แผนการเรียนรู้ครั้งที่  8   การสร้างองค์ความรู้นำเสนอผลงาน  ใช้ระยะเวลา  3 คาบ  โดยการนำเสนอผลการพัฒนาตนเองและการดำเนินโครงการเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม  ในรูปแบบการนำเสนอหน้าชั้นเรียนและการจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน

3.) นำแผนการสอนที่สร้างขึ้นเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมแล้วนำมา

ปรับปรุงแก้ไข

 

3.1.2. การสร้างแบบทดสอบ

1.) การสร้างแบบทดสอบเพื่อวัดความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อม

2.)          1.1.) การศึกษาจุดประสงค์และรายละเอียดประจำวิชาวิทยาการ

สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน จากหลักสูตรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  2542

            1.2.) ศึกษาหลักการวัดผลและประเมินผลการศึกษาเพื่อนำมาปรับใช้ในการออกแบบทดสอบให้เหมาะสมกับเนื้อหาและจุดประสงค์ของรายวิชา

            1.3.) สร้างแบบทดสอบเพื่อวัดความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมมีลักษณะเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบแบบมาตรส่วนประมาณค่า  5  ระดับ   จำนวน  30 ข้อ

2.)   การสร้างแบบทดสอบเพื่อวัดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

2.1.) การศึกษาจุดประสงค์และรายละเอียดประจำวิชาวิทยาการ

สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน  จากหลักสูตรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  2542

2.2.)   การศึกษาแนวทางการสร้างแบบทดสอบแบบตัวเลือกเพื่อนำมาปรับใช้ใน

การออกแบบทดสอบให้เหมาะสม

2.3.) การสร้างแบบทดสอบเพื่อวัดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม  มีลักษณะ

เป็นข้อคำถามแบบปรนัยเลือกตอบจำนวน  4  ตัวเลือก   จำนวน 20  ข้อ

                       3.)การสร้างแบบทดสอบเพื่อวัดพฤติกรรมการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

3.1.) การศึกษาจุดประสงค์และรายละเอียดประจำวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมใน

โรงเรียนและชุมชน  ..จากหลักสูตรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  2542

            3.2.) ศึกษาหลักการวัดผลและประเมินผลการศึกษาเพื่อนำมาปรับใช้ในการออกแบบทดสอบให้เหมาะสมกับเนื้อหาและจุดประสงค์ของรายวิชา

            3.3.) สร้างแบบทดสอบเพื่อวัดพฤติกรรมการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีลักษณะเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบแบบมาตรส่วนประมาณค่า  5  ระดับ   จำนวน  20 ข้อ

4.) การสร้างแบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้าง

อนาคตร่วมกัน

3.)    4.1.) การศึกษาจุดประสงค์และรายละเอียดประจำวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมใน

โรงเรียนและชุมชน  จากหลักสูตรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  2542

            4.2.) ศึกษาหลักการวัดผลและประเมินผลการศึกษาเพื่อนำมาปรับใช้ในการออกแบบทดสอบให้เหมาะสมกับเนื้อหาและจุดประสงค์ของรายวิชา

            4.3.) สร้างแบบทดสอบเพื่อวัดความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้างอนาคตร่วมกันมีลักษณะเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบแบบมาตรส่วนประมาณค่า  5  ระดับ   จำนวน  12 ข้อ

 

 

3.1.3.      การสร้างแบบสังเกตพฤติกรรมผู้เรียนรายบุคคล / รายกลุ่ม

1)      ศึกษาแนวทางการสร้างแบบสังเกตพฤติกรรมจากเอกสาร และตำราที่เกี่ยวข้อง

2)      สร้างแบบสังเกตพฤติกรรม เป็นแบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานเป็นกลุ่ม และ

แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคลระหว่างการเรียนการสอน

 

3.2.วิธีการตอบแบบสอบถาม

1)      ในส่วนของแบบวัดตอนที่ 1 – 3 – 4   มีลักษณะเป็นข้อคำถามชนิดเลือกตอบแบบมาตร

ส่วนประมาณค่า  5  ระดับ  ซึ่งผู้ตอบจะเลือกตอบคนละ  1 ข้อเท่านั้น  ดังเช่น

ตัวอย่าง

ข้อความ

ระดับความคิดเห็น

มากที่สุด

มาก

ปานกลาง

น้อย

น้อยที่สุด

1. ฉันคิดว่า การปลูกต้นไม้ช่วยลดมลพิษทางอากาศได้

 

 

 

 

 

 

2)      ในส่วนของแบบวัดตอนที่ 2  ซึ่งเป็นข้อคำถามเกี่ยวกับระดับจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมมี

ลักษณะเป็นข้อคำถามปลายปิดให้เลือกตอบแบบ  4  ตัวเลือก  ซึ่งผู้ตอบจะเลือกตอบคนละ  1  ตัวเลือก  เช่น

    ยุพิณ  : เมื่อคืนฉันเห็นหอพักข้าง ๆ เปิดไฟฟ้าทิ้งไว้ทั้งคืน

    แก้วตา :…..?

หากนิสิตเป็นแก้วตา   นิสิตจะคิดอย่างไร

ก.      เขาเปิดทิ้งไว้ทำไม

ข.      ทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้ามากขึ้น

ค.      การเปิดไฟฟ้าทิ้งไว้เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรไปมาก

ง.       เวลาที่เราไม่ใช้ไฟฟ้า  เราควรปิดไฟฟ้าเพื่อเป็นการประหยัด

 

3.3.     เกณฑ์การให้คะแนน

ตอนที่   1  ความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อม  เป็นแบบให้เลือกตอบ  มีจำนวนทั้งสิ้น  30  ข้อ   ทั้งนี้ได้แบ่งข้อความในแบบสอบถามตอนที่  1   ออกเป็น  2  ประเภทคือ  ข้อความในเชิงบวก (Positive) และข้อความในเชิงลบ (Negative)   โดยกำหนดคะแนนความคิดเห็น  ดังนี้

ข้อคำถามเชิงบวก

 -   ถ้าตอบช่องเห็นด้วยมากที่สุด               ให้    5    คะแนน

-    ถ้าตอบช่องเห็นด้วยมาก                     ให้    4    คะแนน

                         -    ถ้าตอบช่องเห็นด้วยปานกลาง            ให้    3    คะแนน

                        -   ถ้าตอบช่องเห็นด้วยน้อย                      ให้    2    คะแนน

                         -   ถ้าตอบช่องเห็นด้วยน้อยที่สุด               ให้    1    คะแนน

                        ข้อคำถามเชิงลบ

-   ถ้าตอบช่องเห็นด้วยมากที่สุด                ให้     1    คะแนน

-   ถ้าตอบช่องเห็นด้วยมาก                      ให้     2    คะแนน

                        -    ถ้าตอบช่องเห็นด้วยปานกลาง             ให้     3   คะแนน

                       -    ถ้าตอบช่องเห็นด้วยน้อย                      ให้    4    คะแนน

                        -    ถ้าตอบช่องเห็นด้วยน้อยที่สุด               ให้    5    คะแนน

          จากแบบสอบถาม จะพบข้อคำถามในเชิงบวกและเชิงลบ  กล่าวคือ

-     ข้อความในเชิงบวก  ได้แก่  ข้อ  1 , 2 , 3 , 4 , 8, 9 , 10 , 12 , 13 , 17 , 18 , 19 และ 20

-          ข้อความในเชิงลบ  ได้แก่  ข้อ  5 , 6 , 7 , 11 , 14 , 15 และ 16

ก.      ตอนที่  2  ระดับขั้นจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม  เป็นแบบให้เลือกตอบโดยการกำหนดสถานการณ์และข้อคำตอบให้เลือกตอบ  ซึ่งข้อคำตอบแต่ละข้อ  ก – ง. จะเรียงตามลำดับขั้นจิตสำนึก ขั้นที่ 1 – ขั้นที่  4   โดยกำหนดคะแนนจิตสำนึก 

ยุพิณ  : เมื่อคืนฉันเห็นหอพักข้าง ๆ เปิดไฟฟ้าทิ้งไว้ทั้งคืน

    แก้วตา :…..?

หากนิสิตเป็นแก้วตา   นิสิตจะคิดอย่างไร

ก.      เขาเปิดทิ้งไว้ทำไม  (ขั้นที่ 1)

ข.      ทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้ามากขึ้น  (ขั้นที่ 2)

ค.      การเปิดไฟฟ้าทิ้งไว้เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรไปมาก  (ขั้นที่ 3)

ง.       เวลาที่เราไม่ใช้ไฟฟ้า  เราควรปิดไฟฟ้าเพื่อเป็นการประหยัด (ขั้นที่ 4)

ตอนที่  3   พฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม   มีจำนวนทั้งสิ้น  20  ข้อ  โดยกำหนดคะแนนการแสดงพฤติกรรมดังนี้

ข้อคำถามเชิงบวก

 -   ถ้าตอบช่องปฏิบัติมากที่สุด                 ให้    5    คะแนน

-    ถ้าตอบช่องปฏิบัติมาก                        ให้    4    คะแนน

                         -    ถ้าตอบช่องปฏิบัติปานกลาง               ให้    3    คะแนน

                        -   ถ้าตอบช่องปฏิบัติน้อย                        ให้    2    คะแนน

                         -   ถ้าตอบช่องปฏิบัติน้อยที่สุด                 ให้    1    คะแนน

            ข้อคำถามเชิงลบ

-   ถ้าตอบช่องเห็นด้วยมากที่สุด                ให้     1    คะแนน

-   ถ้าตอบช่องเห็นด้วยมาก                      ให้     2    คะแนน

                        -    ถ้าตอบช่องเห็นด้วยปานกลาง             ให้     3   คะแนน

                       -    ถ้าตอบช่องเห็นด้วยน้อย                      ให้    4    คะแนน

                        -    ถ้าตอบช่องเห็นด้วยน้อยที่สุด               ให้    5    คะแนน

          จากแบบสอบถาม จะพบข้อคำถามในเชิงบวกและเชิงลบ  กล่าวคือ

-     ข้อความในเชิงบวก   ได้แก่  ข้อ   1 , 2 , 4 , 7, 8, 9, 10 , 11 , 12, 13 , 14 และ 15

-          ข้อความในเชิงลบ  ได้แก่  ข้อ  3 , 5 และ 6

 

ตอนที่  4  ความรู้สึกพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม มีจำนวนทั้งสิ้น  12  ข้อ โดยกำหนดคะแนนความพึงพอใจดังนี้

 -   ถ้าตอบช่องพึงพอใจมากที่สุด              ให้    5    คะแนน

-    ถ้าตอบช่องพึงพอใจมาก                     ให้    4    คะแนน

                         -   ถ้าตอบช่องพึงพอใจปานกลาง             ให้    3    คะแนน

                        -   ถ้าตอบช่องพึงพอใจน้อย                    ให้    2    คะแนน

                         -   ถ้าตอบช่องพึงพอใจน้อยที่สุด              ให้    1    คะแนน

 

 

 

 

3.4. การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ 

                   โดยการนำแนวทางการสอนและแบบทดสอบเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ที่สร้างขึ้นมาตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยหาความเที่ยงตรง (Validity) และความเชื่อถือได้ (Reliability)  ของเครื่องมือ  โดยให้ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาและ ด้านการวิจัย  จำนวน 3  ท่าน ในการตรวจสอบโครงสร้างและความครอบคลุมเนื้อหา ตลอดจนความชัดเจนของภาษาและถ้อยคำ และนำมาปรับปรุงตรวจสอบ  จากนั้นจึงนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง   

 

  1. 4.           ขั้นตอนการดำเนินการ

 

ในการวิจัยเพื่อศึกษาพัฒนาการทางจริยธรรมเรื่องสิ่งแวดล้อมนี้  ผู้วิจัยได้ดำเนินการสอน

ด้วยตนเอง  โดยการใช้แผนการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้างอนาคตร่วมกันจำนวน  8  แผน  ดำเนินการสอนใน 42 คาบ  คาบละ  50  นาที  ทำการทดสอบก่อนและหลังเรียน 1  คาบ  รวมเป็น  40 คาบ  สำหรับการดำเนินการวิจัยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ทำการทดสอบนิสิตก่อนเรียนด้วยแบบทดสอบเพื่อวัดความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่ง

แวดล้อม   จิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม  และ พฤติกรรมการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของนิสิต  ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น

  1. ทำการสอนด้วยตนเองในคาบสอนปกติ  ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ทำการสอนตามวิธีการในแนวทาง

การสอนที่สร้างขึ้นจนครบถ้วน  จำนวน  40  คาบ  คาบละ  50 นาที 

  1. ทำการทดสอบนิสิตหลังเรียน  ด้วยแบบทดสอบเพื่อวัดความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่ง

แวดล้อม   จิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม  และ พฤติกรรมการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม   รวมทั้งความพึงพอใจต่อการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม  ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น

  1. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยคะแนนก่อนและหลังเรียนในส่วนของความ

ตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อม   จิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม  และ พฤติกรรมการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

4. การรวบรวมข้อมูล

          ด้วยการวิจัยครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนปกติ  ฉะนั้นผู้วิจัยจึงใช้เวลาในการเรียนปกติเพื่อการดำเนินการทดลองวิจัยตามแนวคิด  สำหรับแนวทางการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย

  1. การทดสอบนิสิตก่อนเรียนด้วยแบบทดสอบเพื่อวัดความตระหนักต่อสถานการณ์

สิ่งแวดล้อม   จิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมการใช้ /การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทักษะการคิดแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม    ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ใช้เวลา  1 คาบ

  1. การสอนด้วยตนเองในคาบสอนปกติ  ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ทำการสอนตามวิธีการในแผนการ

เรียนรู้ที่สร้างขึ้นจนครบถ้วน  8  แผน  จำนวน  40  คาบ  คาบละ  50 นาที 

  1. ในระหว่างสอน  ได้ทำการสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ของผู้เรียนทั้ง

รายบุคคลและเป็นกลุ่ม  พร้อมทั้งบันทึกลงในแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม

  1. การทดสอบนิสิตหลังเรียนด้วยแบบทดสอบเพื่อวัดความตระหนักต่อสถานการณ์

สิ่งแวดล้อมจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม   พฤติกรรมการใช้/การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และทักษะการคิดแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม      ความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้างอนาคตร่วมกัน   ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น  ใช้เวลา  1  คาบ

            5.  การเก็บรวบรวมข้อมูลจากบันทึกการเรียนรู้   บันทึกกระจกส่องตนด้านสิ่งแวดล้อม   รายงานการพัฒนาตนเองด้านสิ่งแวดล้อม   รายงานการศึกษาชุมชน  และรายงานโครงงานเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม 

  1. นำข้อมูลที่ได้รับจากการตอบแบบสอบถาม  การสังเกตพฤติกรรม  การตรวจสอบ

ผลงาน มาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้คะแนนก่อนและหลังเรียนในส่วนของความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อม  จิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม  และ พฤติกรรมการใช้/การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

 5.   การวิเคราะห์ข้อมูล         

 

              สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลนั้น  ได้ใช้วิธีการผสมผสานทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยได้ดำเนินการดังนี้

            ก. ข้อมูลเชิงปริมาณ

5.1 การวิเคราะห์ข้อมูลความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อม   และพฤติกรรมต่อสิ่ง

แวดล้อมของนิสิตผู้วิจัยได้ใช้การวิเคราะห์ทางสถิติ  เพื่อตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัย ซึ่งประกอบด้วย สถิติพื้นฐาน  ได้แก่  ร้อยละ   ค่าความถี่    ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน   แล้วกำหนดเกณฑ์ในการแปลความหมายค่าเฉลี่ย ดังนี้

                        1.00 - 1.49   มีความตระหนักและมีลักษณะการปฏิบัติน้อยที่สุด

                        1.50 - 2.49   มีความตระหนักและมีลักษณะการปฏิบัติน้อย

2.50 - 3.49   มีความตระหนักและมีลักษณะการปฏิบัติปานกลาง

3.50 - 4.49   มีความตระหนักและมีลักษณะการปฏิบัติมาก

4.50 - 5.00   มีความตระหนักและมีลักษณะการปฏิบัติมากที่สุด

5.2.) การแปลผลระดับจิตสำนึกนั้น  ผู้วิจัยมีเกณฑ์ดังนี้

5.2.1.)หากความถี่สูงสุดอยู่ในจิตสำนึกระดับใด  ก็ให้ถือว่า  นิสิตมีระดับจิตสำนึก

ต่อสิ่งแวดล้อมในระดับนั้น

5.2.2.)หากมีความถี่สูงสุดเท่ากันหลายระดับ  ให้ถือว่า  นิสิตมีระดับจิตสำนึกอยู่ใน

ระดับนั้นทั้งคู่

ระดับขั้นของจิตสำนึก

ก่อนเรียน

หลังเรียน

1. ระดับพอใจรับรู้

3 = 18.75%

0+ 0%

2. ระดับเต็มใจตอบสนอง

7 = 43.75 %

2 = 12.50 %

3. ระดับเห็นคุณค่า

4 = 25.00 %

7 = 43.75 %

4. ระดับจัดระบบ

 2 = 12.50 %

7 = 43.75 %

 ค่าจำนวนประชาการ (N)

16

16

จากตารางนี้สามารถแปลผลได้ว่า   ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมนิสิตมีระดับขั้นจิตสำนึกในระดับเต็มใจตอบสนอง    และหลังเข้าร่วมกิจกรรมนิสิตมีระดับขั้นจิตสำนึกในระดับการเห็นคุณค่าและการจัดระบบ

            5.3. จากนั้นได้มีการนำเอาข้อมูลระดับความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อม  ระดับความสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม    และพฤติกรรมการใช้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  ก่อนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบเพื่อศึกษาผลของการเรียนรู้  โดยการใช้ค่า Paired Sample  test

          ข. ข้อมูลเชิงคุณภาพ

            สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพของการพัฒนาจริยธรรม  ได้มีการนำข้อมูลจากสมุดบันทึกการเรียนรู้  บันทึกกระจกส่องตนด้านสิ่งแวดล้อม  รายงานการพัฒนาตนเองด้านสิ่งแวดล้อม  รายงานการศึกษาชุมชน  การนำเสนอผลโครงการทำงานเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม มาประกอบการอธิบายข้อมูลเชิงสถิติ      ซึ่งทั้งหมดได้ถูกนำมาประมวลผลการเรียนรู้ของผู้เรียนทั้งรายบุคคล   ซึ่งจะสามารถสะท้อนถึงความรู้  ความเข้าใจ  การวิเคราะห์ สังเคราะห์  ตลอดจนทัศนคติต่อการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม

           

หมายเลขบันทึก: 435712เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2011 22:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 05:23 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท