ครูเก่งกับผลงานเชิงประจักษ์ สามารถเสนอได้ถึง คศ.4 (ระดับ 9)


การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

► ข่าวดี สำหรับครูที่มีผลงานจากการได้รับการคัดเลือกเป็นครูดีเด่น และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นที่ยอมรับในระดับต่างๆหรือเป็นที่ยอมรับระดับประเทศ  ก.ค.ศ. จึงได้กำหนดให้มีการให้วิทยฐานะสูงขึ้น โดยมิต้องดำเนินการยื่นเหมือนครูปกติอีกต่อไป เพราะตนได้รับการยกย่องเป็นที่ประจักษ์แล้ว ซึ่งที่ประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ ๔/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔  เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ   โดยมีรายละเอียดโดยสรุป ดังนี้ 

♦ เห็นชอบในหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ รวมทั้งคู่มือการประเมินทั้ง ๔ สายงาน

♦ เห็นชอบให้ส่วนราชการเสนอรายชื่อได้เพียงครั้งเดียวในคราวเดียวกัน โดยให้เสนอผ่านจากสถานศึกษา หน่วยงานทางการศึกษา จนถึงต้นสังกัด โดยให้ต้นสังกัดกลั่นกรองเพื่อรับฟังคำคัดค้านทางเว็บไซต์ของสังกัดนั้นๆ ภายใน ๑๕ วัน หลังจากนั้นให้ส่งเอกสารถึงสำนักงาน ก.ค.ศ.ในคราวแรก ภายในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๔

♦ การดำเนินการในการประเมิน ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ขอความเห็นชอบจาก ก.ค.ศ.ในการประเมินเป็นคราวๆ ไปตามคำขอที่ต้นสังกัดได้ส่งมา

♦ เห็นชอบให้รัฐมนตรีขอความร่วมมือให้ส่วนราชการต้นสังกัดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเมินของคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ และให้สำนักงาน ก.ค.ศ.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการประชุมและค่าตอบแทนในการตรวจและประเมิน

♦ ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ติดตามประเมินผลและสรุปรายงาน ในการดำเนินการประเมินผลงานเชิงประจักษ์ต่อที่ประชุม ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณาต่อไป

          เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ครูหลายคนได้รับรางวัลดีเด่น มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั้งสายครูผู้สอน สายผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ศึกษานิเทศก์ จะได้มีโอกาสส่งผลงานเชิงประจักษ์ ที่มิใช่การทิ้งชั้นเรียนเพื่อเขียนรายงานอีกต่อไป เพียงแต่อาศัยกระบวนการยื่นผลงานเชิงประจักษ์ เพื่อให้มีการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด

          เราคงเห็นแนวทางที่เป็นประโยชน์นี้ในเร็ววัน

หมายเลขบันทึก: 435140เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2011 15:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

เรียน ท่านประสิทธิ์ทราบ

        การเลื่อนวิทยฐานะ  นับเป็นสิ่งมุ่งหวังของคุณครูทุกคน  อาจจะไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว  แต่เป็นการสร้างประวัติที่ดีให้กับครอบครัว  คนในสังคม  และคนรอบข้าง การยอมรับจากสังคม   แต่ส่วนลึกในความเป็นครูคือร่วมกันพัฒนาเด็กไทย  ถ้าตนเองเลื่อนวิทยฐานะได้  แต่เด็กที่สอนแย่ลงก็คงจะไม่เกิดความภูมิใจแน่เลยนะค่ะ  แต่ต้องมุ่งพัฒนาเด็กเราก่อน    ผลที่เราพัฒนาเด็กก็จะส่งผลถึงตัวเราไม่ช้าก็เร็วนะคะ  ครูเล็กบ้านโป่ง 

ดีมากเลยค่ะ การเลื่อนวิทยฐานะให้กับครูดีเด่นถือว่าเป็นสิ่งท่ีดีท่ีสุด เพราะกว่าจะได้ชื่อว่าครูดีนั่นก็หมายความว่าคุณครูได้มุ่งมั่น ทุ่มเทพํฒนาเด็กและอุทิศตนแล้วกว่าจะได้เป็นครูดีเด่น

ในส่วนของ ครูปฐมวัยของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครนั้น การทำผลงานวิชาการเพื่อเลื่อนวิทยฐานะเป็น ครู คศ3 -ครู คศ.5 ยากมากที่สุดในโลกเพราะผู้ตรวจผลงานวิชาการ ด้านปฐวัยนั้นใจร้ายมาก ๆกับครูปฐมวัยซึ่งเป็นครูที่ดูแลและส่งเสริมพัฒนาการ การเรียนรู้ของเด็กด่านแรกก่อนที่จะส่งต่อเด็กไปชั้นเรียนที่สูงกว่าและเข้าสู่ระบบการศึกษาชั้นพื้นฐาน ลำพัง การสอนเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะอดนมแม่มาและพูดชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ร้องไห้งอแงตามประสาเด็กวัย 4-5 ขวบ ก็ยากพอดูอยู่แล้วแต่ครูก็พูดและทำความเข้าใจกับเค้าได้เพราะเด็กวัยนี้กำลังน่ารักน่าชังขี้อ้อน ช่างพูดช่างเจรจา แต่กับกรรมการนี่ซิมีแต่รุ่นปลดเกษีณจากมหาลัยไหนก็ไม่รู้เอาแต่ความรู้สึกของตนเป็นใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของผู้ที่ทำผลงานว่ามันเหนื่อยมากยิ่งกว่าสอนเด้กอนุบาลหลายเท่า คิดดูเอาก็แล้วกัน เวลาไปอบรมก่อนเลื่อนและแต่งตั้งวิทยฐานะ วิทยากรก้บอกให้ทำแบบนี้นะพร้อมให้ตัวอย่างเป้นแนวทางพร้อมการชี้แนะมาอย่างดีแต่พอทำตามคำชี้แนะมาคนตรวจผลงานกับบอกว่าไม่ถูกต้องผิดหมดแล้วจะให้ครูเชื่อใครละก็ในเมื่อคนตรวจผลงานกับวิทยากรผู้ให้ความรู้นั้นมันคนละคนกันและคนละชุดกันเวรกรรมก็ตกอยู่กับครูผู้เสนอผลงาน ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้อ่านแล้วกรุณาพิจารณาด้วยว่าควรแก้ไขอย่างไร ครู กทม.อยากมีวิทยฐานะสูง ๆ เจ้าค่ะ (ไม่ได้ใช้เวลาราชการทำผลงานนะแต่ใช้เวลาหลักเลิกงานและวันหยุดทำ นะ..จะ..บอกให้........)

ในส่วนของ ครูปฐมวัยของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครนั้น การทำผลงานวิชาการเพื่อเลื่อนวิทยฐานะเป็น ครู คศ3 -ครู คศ.5 ยากมากที่สุดในโลกเพราะผู้ตรวจผลงานวิชาการ ด้านปฐวัยนั้นใจร้ายมาก ๆกับครูปฐมวัยซึ่งเป็นครูที่ดูแลและส่งเสริมพัฒนาการ การเรียนรู้ของเด็กด่านแรกก่อนที่จะส่งต่อเด็กไปชั้นเรียนที่สูงกว่าและเข้าสู่ระบบการศึกษาชั้นพื้นฐาน ลำพัง การสอนเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะอดนมแม่มาและพูดชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ร้องไห้งอแงตามประสาเด็กวัย 4-5 ขวบ ก็ยากพอดูอยู่แล้วแต่ครูก็พูดและทำความเข้าใจกับเค้าได้เพราะเด็กวัยนี้กำลังน่ารักน่าชังขี้อ้อน ช่างพูดช่างเจรจา แต่กับกรรมการนี่ซิมีแต่รุ่นปลดเกษีณจากมหาลัยไหนก็ไม่รู้เอาแต่ความรู้สึกของตนเป็นใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของผู้ที่ทำผลงานว่ามันเหนื่อยมากยิ่งกว่าสอนเด้กอนุบาลหลายเท่า คิดดูเอาก็แล้วกัน เวลาไปอบรมก่อนเลื่อนและแต่งตั้งวิทยฐานะ วิทยากรก้บอกให้ทำแบบนี้นะพร้อมให้ตัวอย่างเป้นแนวทางพร้อมการชี้แนะมาอย่างดีแต่พอทำตามคำชี้แนะมาคนตรวจผลงานกับบอกว่าไม่ถูกต้องผิดหมดแล้วจะให้ครูเชื่อใครละก็ในเมื่อคนตรวจผลงานกับวิทยากรผู้ให้ความรู้นั้นมันคนละคนกันและคนละชุดกันเวรกรรมก็ตกอยู่กับครูผู้เสนอผลงาน ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้อ่านแล้วกรุณาพิจารณาด้วยว่าควรแก้ไขอย่างไร ครู กทม.อยากมีวิทยฐานะสูง ๆ เจ้าค่ะ (ไม่ได้ใช้เวลาราชการทำผลงานนะแต่ใช้เวลาหลักเลิกงานและวันหยุดทำ นะ..จะ..บอกให้........)

หาคำว่าเป็นที่ประจักษ์...ก็มาพบบังเอิญ...ก็ ดีนะ ได้ความรู้เพิ่ม

ดีมากค่ะ  เป็นสิ่งที่ครูทุกคนได้ปฏิบัติในวิชาชีพครู และเป็นกำลังใจให้กับครูทุกคนท่ีมีความมุ่งมั่น

ในการทำงาน หากได้รับโอกาสดี ๆ อย่างนี้ ครูที่อยู่ติดขอบชายแดนก็ปลื้มใจค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท