บันทึกค่าย se-ed photo campปี4

พอถึงช่วงบ่ายเราจึงได้ออกไปนอกที่พักไปที่อุทยานประวัติศาสตร์ไปถ่ายรูปรู้สึกว่าวันนั้นเป็นวันที่แสงเหมาะมากในการถ่ายภาพมากจึงได้ภาพที่ดีและสวยมาก ในวันนั้นพอตกเย็นพวกเราพร้อมกันไปกินข้าวหน้าวัดที่เราจะไปชมมินิไลท์แอนด์ซาวด์ พวกเราก็กินข้าวไปชมพระอาทิตย์ตกดินไปมันเป็นมื้อที่เยี่ยมยอดมาก

ในปิดเทอมใหญ่ปีเป็นช่วงเวลาสำหรับพักผ่อน ไปเที่ยวไปหาประสบการณ์ ไปหาความรู้เพิ่มเติม ไปหาเพื่อน และในปีนี้ผมได้ไปเข้าค่าย se-ed เป็นครั้งที่3ซึ่งเป็นค่ายถ่ายภาพที่ผมต้องการจะไปค่ายนี้อีกครั้งเพราะผมต้องการที่จะใช้กล้องให้ได้ทุกรูปแบบเพราะปีที่แล้วผมได้ใช้กล้องคอมแพกค์ในการเรียนรู้ในค่าย ทำให้ปีนี้ผมอยากจะใช้กล้องอีกแบบหนึ่งคือกล้อง D-SLR Light หรือพูดง่ายๆก็คือ...กล้อง D-SLR ที่ย่อส่วนมานั่นเอง และอีกเหตุผลหลักคือผมสนุกกับการถ่ายภาพ และปีนี้ se-ed ก็ได้พาพวกเราไปที่จังหวัดสุโขทัยซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยมาก่อน

ในวันแรกพวกผมต้องตื่นกันตั้งแต่ตี5ครึ่งเพราะกลัวว่าจะไปกันไม่ทันที่เขากำหมดให้และสุดท้ายก็สายเพราะวันนั้นรู้สึกเท่าที่จำได้คือกรุงเทพรถติดมากทำให้เดินทางได้ช้า(สายไป15นาที) แต่สุดท้ายเราก็ถึง ณ จัตุรัสจามจุรี และสุดท้ายพวกเราก็ออกเดินทางสู่จังหวัดสุโขทัยเมื่อถึงเกินครึ่งทางมาหน่อยเราก็ยืดเส้นยืดสายกันที่อุทยานแห่งชาติจังหวัดกำแพงเพชรเพื่อที่จะถ่ายรูป ณ อุทยานแห่งนี้ ซึ่งเมื่อก่อนเมืองกำแพงเพชรเคยเป็นเมืองหน้าด่านให้สุโขทัยจึงมีความเจริญทางวัฒนธรรมและประเพณีค่อนข้างสูง สังเกตได้จากสิ่งก่อสร้างที่สร้างในรุ่นราวคราวเดียวกันกับสุโขทัยเพราะไม่ได้ใหญ่น้อยหน้าสุโขทัยเลยแม้แต่น้อยเราใช้เวลาที่นี่ประมาณ3ชั่วโมงและเราก็ออกเดินทางสู่ที่พักต่อจากอุทยานแห่งนี้ใช้เวลาเข้าสู่ที่พักประมาณ2ชั่วโมงครึ่งเมื่อถึงที่พักเราก็เข้านอนกัน.......

อุทธยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จุดพักครึ่งทางของการเดินทางวันแรก

สัญลักษณ์ของเมืองสุโขทัย อนุเสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง

เข้าสู่วันที่2ของค่ายphotoวันนี้เป็นการแบ่งกลุ่มเพื่อที่จะเข้าฐานเพื่อหัดเรียนรู้วิธีการใช้กล้องโดยเขาจะแบ่งเป็น2กลุ่มใหญ่ๆคือพวกที่ใช้คอมแพกค์กับพวกที่ใช้ D-SLR และ D-SLR Light ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 ฐานคือ เอคชั่น พอตเทรต มาโคร แลนด์สเคป ซึ่งแต่ละฐานก็จะมีวิธีการถ่ายภาพที่ต่างออกไป พอถึงช่วงบ่ายเราจึงได้ออกไปนอกที่พักไปที่อุทยานประวัติศาสตร์ไปถ่ายรูปรู้สึกว่าวันนั้นเป็นวันที่แสงเหมาะมากในการถ่ายภาพมากจึงได้ภาพที่ดีและสวยมาก ในวันนั้นพอตกเย็นพวกเราพร้อมกันไปกินข้าวหน้าวัดที่เราจะไปชมมินิไลท์แอนด์ซาวด์ พวกเราก็กินข้าวไปชมพระอาทิตย์ตกดินไปมันเป็นมื้อที่เยี่ยมยอดมาก การแสดงนี้เป็นการแสดงเกี่ยวกับความเป็นมาของสุโขทัยและสุดท้ายก็.............................กลับที่พักและหลับ

ภาพสวยๆข้างบนนี้ ฝีมือผมเองคร๊าบ

การแสดง Mini Light & Sound ที่บอกเล่าเรื่องราวในสมัยสุโขทัย

วันที่3ในสุโขทัยก็คงเป็นวันนี้ที่สนุกที่สุดเพราะเพิ่งจะได้เพื่อนใหม่ก็ปาเข้าวันที่3ก็อาจเป็นเพราะว่าต้องนอนกับญาติจึงไม่ได้นอนกับเพื่อนใหม่จึงไม่ค่อยได้คุยกันวันนี้เราไปดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาว กงไกรลาศ เป็นหมู่บ้านที่ทำขนมผิงเยอะมาก และมีร้านทำขนมผิงเจ้าแรกของประเทศไทยด้วยและที่นั่นยังว่ากันว่ามีพระพุทธรูปที่ลอยน้ำด้วยเราจึงเข้าไปไหว้บูชากัน เมื่อเสร็จจากที่นี่เราก็กลับเข้าที่พักเพื่อที่จะจัดการแสดงรอบกองไฟผมอยู่กลุ่ม3ซึ่งไม่มีผู้หญิงแม้แต่คนเดียวเราจึงคิดกันอยู่นานมากกว่าจะได้มาและดูเหมือนพวกผู้ใหญ่เขาต้องการ surprise จากพวกเราด้วยเพราะพวกเราถูกหาว่าซุ่มซ้อมแต่หารู้ไม่ว่าความเป็นจริงคือมันอากาศร้อนมากๆๆๆๆ=_=!แต่สุดท้ายเราก็ประสบความสำเร็จจนได้ วันนี้ผมคิดว่าเป็นวันที่สนุกที่สุด

ภาพนี้คุณพ่อบอกว่า น่าจะเลือกส่งประกวด

ภาพทองม้วนอร่อยๆ งานสวยๆ ในแบบ มาโคร

วัดช้างล้อม (มีคุณครูผมแอคชั่นอยู่ด้วย)

เข้าสู่วันสุดท้าย(แล้วสินะ เขียนมาเยอะ) วันนี้เป็นวันประกาศผลการประกวดภาพถ่ายที่เราได้ไปถ่ายกันมา กติกาคือต้องส่งภาพถ่ายแค่คนละ3รูปเท่านั้น ในปีที่แล้วผมได้ที่1แต่ปีนี้ไม่ได้(ให้คนอื่นบ้าง!)และพวกเราก็กลับสู่กรุงเทพอย่างปลอดภัย