ชีวิตขาลง


ยามที่เราเพียบพร้อมด้วยทรัพย์สิน มั่นคง และเพียบพร้อมด้วยความมั่นคง ความสำเร็จ มีบทบาทหน้าที่การงานที่ก้าวหน้าและมีอิทธิพล ยามนั้นสัมพันธภาพที่มีต่อตัวเรากลายเป็นที่รักและที่ปรารถนา

 


คุณเตรียมพร้อมเพื่อรับกับชีวิต..ขาลงบ้างหรือยัง และอย่างไร

          ยูจีน โอเคลลี  เป็นนักธุรกิจ นักบริหารที่มีอนาคตก้าวไกล   ในฐานะผู้บริหารระดับกลางของบรรษัทธุรกิจข้ามชาติระดับหลายพันล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ตำแหน่งประธานบรรษัทรออยู่ไม่ไกล   ยูจีนมีความฝัน ความหวังว่าวันหนึ่งเมื่อถึงจุดที่อะไรต่างๆ ลงตัว    เขากับภรรยาจะไปท่องเที่ยว พักผ่อน ทำงานการกุศล   แต่แล้ว วันหนึ่งที่ว่าก็มาไม่ถึง ในวัย ๕๓ ปี   ยูจีนล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเนื้องอกในสมอง    สมรรถภาพร่างกาย รวมถึงประสาทสั่งการต่างๆ   จะค่อยๆ  เสื่อมสภาพ     นาฬิกาชีวิตของยูจีนค่อยๆ นับถอยหลังและจะหยุดนิ่งในที่สุด

             โชคดีหรือโชคร้ายก็ตาม เหตุการณ์นี้ทำให้ยูจีนมีโอกาสรู้วันตายของตนเอง   ขณะที่คนอื่นไม่มีโอกาสได้ทราบหรือเตรียมพร้อมความตายที่กำลังใกล้เข้ามา   ขณะที่ยูจีนมีเวลาตระเตรียมตัวเอง คนรอบข้าง รวมถึงการได้ทำสิ่งที่คั่งค้าง   ผัดผ่อนและปรารถนาที่จะทำภายในกำหนดเวลา ๓ เดือน   ก่อนที่โรคภัยจะคุกคามจนชีวิตสิ้นสุดลง   ยูจีนได้ใช้โอกาสนี้เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความตายที่กำลังจะมาถึงให้ดีที่สุด  เขาตั้งเป้าหมายความสำเร็จของชีวิตในภาวะนี้ว่า เขาจะเตรียมพร้อมและตายให้ดี และเป็นมิตรกับความตายมากที่สุด

          พวกเราหลายคนไม่สามารถทราบวันตายของตนได้ว่าจะมาถึงเมื่อไร   เราทราบว่า ความตายต้องมาถึงแน่นอน   แต่เราทุกคนต่างหลอกลวงตนเองว่า   เราคงไม่ใช่คนที่ความตายจะมาหาในเร็วๆ นี้หรอก   วันเวลาของเราน่าจะยังอีกยาว..นาน นี่คือ การหลอกลวงตนเองในลักษณะหนึ่ง   ซึ่งหากเราสังเกตความเป็นไปของชีวิต ความเป็นในตัวเราเอง  เราก็จะพบสัญญาณเตือนตลอดเวลา    สัญญาณเตือนที่เด่นชัดอันหนึ่งก็คือ สัญญาณจากชีวิตขาลง

          สัญญาณนี้คอยเตือน และค่อยๆ ให้เรารับรู้   และค่อยๆ ยอมรับความจริงได้ว่าว่า ชีวิตเรามีข้อจำกัด   นาฬิกาชีวิตของเรามีระยะเวลาที่จะหยุดลงในที่สุด   ชีวิตขาลงจึงเป็นสัญญาณเตือนให้เราได้ทบทวนและมาตั้งหลักว่า   อะไรคือสิ่งสำคัญที่เราควรทำก่อนที่จะหมดเวลา

            เราทุกคนต่างมีท่วงทำนองชีวิตที่ไม่ต่างจากยูจีน   เราทำงานหนัก สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและฐานะ ไข้วคว้าความสำเร็จและการบรรลุเป้าหมาย  มีบันไดที่รอคอยให้เราไต่ขึ้นและไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ   เพื่อที่จะพบว่าถึงวันหนึ่ง สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเราก็ต้องส่งคืน   หรือ (ถูกบังคับ)เพื่อมอบสิ่งที่เราครอบครองให้กับผู้อื่นต่อไป   เริ่มต้นจากร่างกายที่เราได้รับจุดเริ่มต้นจากพ่อและแม่มาเป็นจุดตั้งต้น   จากนั้นเราได้รับอาหาร การบำรุงเลี้ยงดูไม่เพียงจากพ่อแม่   แต่ยังรวมถึงคนรอบข้าง และวงสังคมรอบข้างที่ค่อยๆ ขยายวงใหญ่ขึ้น  จากนั้นเราก็เข้าสู่แวดวงสังคม เริ่มต้นจากพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนโรงเรียน ที่ทำงาน หมู่คณะสังคมวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ   สัมพันธภาพกลายเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต   และเป็นที่มาของความสุข ความทุกข์อย่างหนึ่งของชีวิต

            จิตใจของเรารับรู้ความสุข ความทุกข์   และเราทุกคนต่างวิ่งหาความสุข หลบหนีความทุกข์   อาการวิ่งหาหรือหลบหนีเรากระทำทั้งโดยการพัฒนาวิธีคิด แรงจูงใจ   รวมถึงความเชื่อและการกระทำกลายเป็นบุคลิกภาพประจำตัว ขณะเดียวกันจิตใจของเราก็เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ   สั่งสมความทรงจำและประสบการณ์ต่างๆ ในเรื่องราว ที่เราเลือกจดจำ   และเลือกหลงลืมตามความเป็นเรา

            สัญญาณชีวิตขาลงที่หากเราสังเกตให้ดี   ก็จะพบว่ายามที่เราเพียบพร้อมด้วยทรัพย์สิน มั่นคง  และเพียบพร้อมด้วยความมั่นคง ความสำเร็จ   มีบทบาทหน้าที่การงานที่ก้าวหน้าและมีอิทธิพล   ยามนั้นสัมพันธภาพที่มีต่อตัวเรากลายเป็นที่รักและที่ปรารถนา   แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้หลุดลอย หรือเสื่อมคลายไป   เราไม่ได้เป็นที่รักของคนมากมายอีกต่อไป  สัญญาณชีวิตขาลงจากความเสื่อมไปของสิ่งที่เคยมี   เคยถือครองก็ช่วยให้เราได้ค้นพบมิตรแท้ มิตรที่แท้จริงไม่ทอดทิ้ง   แม้เราจะไม่ได้ร่ำรวยในทรัพย์สิน หรือในหน้าที่การงานอีกต่อไป   เช่นเดียวกันยามที่เราเริ่มเข้าสู่วัยกลางคน วัยชรา   ไม่ยากเลยที่จะพบว่าสมรรถภาพร่างกายของเราค่อยๆ เสื่อมสลาย   สายตาเริ่มยาว และฝ้าฟาง ข้อต่อส่วนต่างๆ ของร่างกายเริ่มขัดยอก   ปวดเมื่อยมากขึ้น ความเจ็บป่วยด้วยโรคภัยค่อยๆ เบียดเบียน   ในอีกทาง เราก็พบว่าสมองของเราเริ่มจดจำได้น้อยลง   ความหลงเริ่มเข้ามามากขึ้น

          ชีวิต..ขาลงก็คือ โฉมหน้าที่บอกเราว่า ในที่สุดความเสื่อม   ความไม่จีรังยั่งยืนก็จะค่อยๆ คืบคลานเข้ามา   กระนั้นเราก็มีช่วงวันเวลาที่มากเพียงพอสำหรับการเตรียมตัว และเตรียมพร้อม   เริ่มต้นคือ การกลับมาค้นหาคุณค่าและความหมายของชีวิต   การค้นหาและทำความเข้าใจในความเป็นตัวเรา   การเรียนรู้และยอมรับในความจริงของชีวิต   จิตใจของเรามีธรรมชาติที่มักไหลลงสู่ที่ต่ำ   ไหลไปตามกิเลส มุ่งสู่ความเสื่อม    กระนั้นจิตใจของเราก็มีธรรมชาติที่สามารถฝึกฝนได้   ด้วยเหตุนี้ สมาธิภาวนา การศึกษาและปฏิบัติ   จึงเป็นกิจกรรมสำคัญของชีวิตที่อาจไม่เร่งด่วนแต่สำคัญอย่างยิ่ง  ที่รอคอยความใส่ใจ และการกระทำจากเรา

          จากโรคภัยที่คุกคามและระยะเวลาที่เหลือ ๓ เดือน   ยูจีนเริ่มหันมาใส่ใจและจริงจังมากขึ้นกับการทำสมาธิภาวนา

คำสำคัญ (Tags): #โชคดี
หมายเลขบันทึก: 434402เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2011 08:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สาธุค่ะ  ตัวดิฉันเองก็อยู่ในช่วงชีวิตขาลงเหมือนกันค่ะ

  • นมัสการพระคุณเจ้าครับ
  • มนุษย์มีเพียงดวงจิตเพียงสิ่งเดียวที่เป็นของเราหรือเปล่าครับ?

อ่านแล้วได้ประโยชน์มากมายจริงๆ ขอบคุณสำหรับเนื้อดีๆ เรียกสติ...เตือนสำนึก เตือนใจได้เป็นอย่างดี

จะพบมิตรแท้ เมื่อชีวิตขาลงเข้ามาเยือน...........และชีวิตเราก็ไม่ได้มีแค่ขาขึ้น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท