ความยึดมั่นเป็นตัวทุกข์ มีความยึดมั่นในสิ่งใดก็เป็นทุกข์ในสิ่งนั้นถ้าปล่อยวางได้ก็ไม่ทุกข์
ให้เราจำคำพูดของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ความยึดมั่นเป็นตัวทุกข์ มีความยึดมั่นในสิ่งใดก็เป็นทุกข์ในสิ่งนั้นถ้าปล่อยวางได้ก็ไม่ทุกข์ เราจึงควรรู้เท่าทันสิ่งนั้น อย่ายึดอย่าถือให้มันรุนแรง แต่ให้รู้ว่าสิ่งนี้มัน ไม่ใช่ของแท้ของจริงเป็นสิ่งที่ผ่านมาในวิถีชีวิตของเรา มันเป็นสิ่งที่ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป อะไรที่ผ่านมาในชีวิต ลาภผ่านมา ยศผ่านมา ความสุขผ่านมา สรรเสริญผ่านมา แล้วมันก็ผ่านไป แต่เราหลงผิดว่า เมื่อมันผ่านไปแล้ว เราก็กลับไปจับมันอีกรถไฟออกแล้ว เรากระโดดจับ รถไฟเลยล้มลงไปปากแตก ขาหักแขนหัก ได้รับความทุกข์ความเดือดร้อน อารมณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในใจของเราก็เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าจึงสอน ว่าให้ปล่อยวางให้อยู่ด้วยความว่าง ในการยึดถือในสิ่งนั้น ให้ใช้ปัญญาพิจารณาให้รอบคอบ
แหล่งที่มา : ความแก่ที่ท่านยังไม่รู้จัก รวมพระธรรมเทศนา
นมัสการพระคุณเจ้า กระผมเห็นว่าโลกปัจจุบัน ศีลธรรมขาด จึงเปิดเว็บไซต์เพื่อให้ข้อคิดกับสังคม ผ่านเว็บไซต์ "ธรรมชาติธรรมค้ำจุนโลก" http://www.nature-dhama.ob.tc นำแนวคิดมาสะกิดใจเพื่อหาแนวทางร่วมกัน ในการอยู่ร่วมของสังคมให้มัสุขยิ่งขึ้น ตามแนวคิดหากมีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ แล้วจัดทำหมู่บ้านตัวอย่าง ให้เห็นประจักษ์ คงผลักดันสังคมได้
พระคุณเจ้ามีข้อคิดใด กรุณาแสดงข้อคิดเห็นที่เว็บของกระผมด้วย
กราบนมัสการ
นายประทีป วัฒนสิทธิ์