DSRR
มูลนิธิเพื่อการเยียวยาและสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ มูลนิธิเพื่อการเยียวยาและสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้

ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี “เพื่อสันติภาพรัฐต้องเยียวยาฝ่ายตรงข้าม”


  

ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี

“เพื่อสันติภาพรัฐต้องเยียวยาฝ่ายตรงข้าม”

           

มูฮำหมัด ดือราแม

 

ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตปัตตานี นับเป็นนักวิชาการสายรัฐศาสตร์ที่เสียงดังที่สุดคนหนึ่งในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ในฐานะที่เป็นนักวิชาการสังกัดสถาบันการศึกษาในพื้นที่ โดยได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ยังสวมหมวกอีกใบ คือผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) ที่กำลังถูกจับตามองมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากมีผลการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความสงบออกมาทีไร เสียงดังฟังชัดทุกครั้ง

มีงานวิจัยหลายชิ้นของผศ.ดร.ศรีสมภพ ที่พูดถึง “เหยื่อ” ของความไม่สงบ โดยการรวบรวมสถิติและวิเคราะห์ถึงระดับความบอบบางและอ่อนแอของเหยื่อแต่ประเภท ซึ่งส่งผลสะเทือนอย่างมีนัยสำคัญกับการทำงานและการแก้ปัญหารัฐ

เมื่อแยกแยะประเภทและระดับของเหยื่อได้แล้ว การเยียวยาเหยื่อเหล่านี้ในทัศนะของผศ.ดร.ศรีสมภพ ก็ยิ่งน่าสนใจขึ้นอีก

 

 
ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี

 

เหยื่อความไม่สงบจากความรุนแรงในชายแดนใต้ มีใครบ้าง และสถิติเป็นอย่างไร?

ถ้ามองในแง่ภูมิหลังของอาชีพ คนตายและบาดเจ็บ 50% เป็นราษฎรทั่วไป จากผู้สูญเสียทั้งหมดประมาณ 11,000 กว่าคน ตายประมาณ 4,000 กว่าคน บาดเจ็บประมาณ 7,000 กว่าคน

ราษฎรทั่วไป หมายถึง ผู้ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพรับราชการ ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำศาสนา

เหยื่อที่มีจำนวนรองลงมา คือ ทหาร 15 % จากนั้นเป็นตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อส.(อาสาสมัครรักษาดินแดน) ชรบ.(เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) ตามลำดับ นอกจากนั้นยังมีครู ซึ่งมีจำนวนรองลงไปอีก

 

ใครคือเหยื่อที่อ่อนไหวหรือบอบบางที่สุด?

ในบรรดาความสูญเสียทั้งหมด เราประเมินจากสัดส่วนการตาย พบว่า กลุ่มผู้นำศาสนาอิสลาม โต๊ะอิหม่าม หรืออุสตาซ(ครูสอนศาสนาอิสลาม) เป็นกลุ่มทีมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียมากที่สุด บอบบางมากที่สุด หากพิจารณาจากสถิติที่เป็นอยู่

ในกลุ่มนี้มีสัดส่วนการตายต่อการบาดเจ็บนั้นสูงมาก 80 % เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น หมายถึงตายมากกว่าบาดเจ็บ โอกาสรอดน้อยมาก รองลงมา เป็น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน คือ ถ้าไม่บาดเจ็บก็เสียชีวิต

 

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การจัดการหรือการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อในแต่ละระดับควรเป็นอย่างไร?

การช่วยเหลือเยียวยา ถ้าเป็นราษฎรทั่วไป ระบบของรัฐดีอยู่แล้ว ราษฎรทั่วไปกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยา 100,000 บาท ถ้าเป็นประชาชนผู้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือราชการในการรักษาความสงบในพื้นที่ และอาสาสมัครที่ได้รับการแต่งตั้งจากส่วนราชการ จะได้ 200,000 บาท ผู้นำศาสนาก็ได้ 200,000 บาท

ยังไม่นับรวมข้าราชการที่จะได้เงินช่วยเหลืออีกมากมาย ทั้งสวัสดิการสังคม การศึกษา และเงินเยียวยา

ที่ผ่านมารัฐให้ความสำคัญกับผู้สูญเสียที่เป็นฝ่ายรัฐหรือทำงานเกี่ยวข้องกับรัฐมากกว่า โดยจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาในอัตราที่สูงกว่าประชาชนธรรมดา คือ ถ้าเสียชีวิตประชาชนได้ 100,000 บาท ถ้าฝ่ายรัฐเสียชิวตจะได้ 200,000 บาท นั่นคือข้อแตกต่างของการเยียวยา

ผมว่าการเยียวยาราษฎรทั่วไปที่ไม่ได้ทำงานให้รัฐ ควรที่จะให้ความสนใจมากกว่านี้ ที่ผ่านมาก็ให้ความความสนใจอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับการเยียวยาฝ่ายรัฐ ยังน้อยไป

อีกส่วนหนึ่ง คือผู้สูญเสียที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อความไม่สงบหรือถูกสงสัยว่า ทำงานกับกลุ่มก่อความไม่สงบ บางทีจะไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐเลยหรือถ้าได้ก็ช้ามาก

ถ้าจะใช้การเยียวยาเป็นเครื่องมือในกระบวนการประนีประนอม หรือกระบวนการสันติภาพ ก็ควรพิจารณาให้การเยียวยาทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน

หลังจากพิจารณาแล้วว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรืออาชญากรรม ก็ควรที่จะให้กับกลุ่มที่ถูกสงสัยเหล่านั้นด้วย ควรเปิดโอกาสให้กลุ่มเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาได้ ก็จะดีมาก

ที่ผ่านมา การช่วยเหลือเยียวยาของรัฐ ถ้าเป็นกลุ่มราชการจะให้เร็วมาก บางครั้งภายใน 24 ชั่วโมงก็ได้แล้ว ซึ่งการจัดการตรงนี้ดีแล้ว

ส่วนการมองว่าไม่ควรเอาเงินไปให้พวกโจรอะไรทำนองนั้น ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นนโยบายเพื่อสันติ เพื่อความสมานฉันท์ สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาวแล้ว ก็ควรจะให้เขาได้รับสิทธิตรงนี้ด้วย

 

มองว่าอนาคตการเยียวยาควรเป็นอย่างไร?

งานเยียวยาคงต้องมีต่อไป แต่ประสิทธิภาพต้องมีมากขึ้น การเพิ่มในเรื่องสวัสดิการสังคม โอกาสการประกอบอาชีพ การศึกษา ควรจะให้อย่างเต็มที่

การเยียวยา ไม่ใช่ให้เงินเยียวยาหลังเกิดการสูญเสียแล้วเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการมีชีวิตอยู่รอดในอนาคต มีทุนทรัพย์ในการประกอบอาชีพ มีโอกาสหลายๆ อย่าง เพราะคนที่สูญเสียถ้าเป็นประชาชนทั่วไป ก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำ เป็นคนทำมาหากินปกติ การสูญเสียคนในครอบครัว ถือว่าสูญเสียโอกาสในการหาเลี้ยงครอบครัว

อีกส่วนหนึ่ง ที่อาจเปลี่ยนแปลงให้เป็นระบบหรือคิดระบบใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบสนอง เช่น ในเรื่องการประกันสังคม คือรัฐลงส่วนหนึ่งและให้มีการสนับสนุนจากส่วนอื่นเข้ามาเสริมให้เป็นกองทุนสวัสดิการ เหมือนกับการประกันสุขภาพ แต่มาใช้กับการเยียวยา นี่คือตัวอย่าง

 


********************

 

คำสำคัญ (Tags): #เยียวยา
หมายเลขบันทึก: 431100เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2011 11:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 06:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

อาจารย์ครับ. ทั้งคนใส่ชุดโต๊บ ปละ นักบวช ที่มีผ้าพันกายสีเหลืองๆนั้น สามารถ นำพาอาวุธไปไหนมาไหนแบบซุกซ่อนทั้งนั้นนะครับ

แล้วการฝึกตรวจค้น น่าจะให้มีคนแต่งตัวแบบพระสงฆ์ ให้ทหารค้นด้วยนะครับ. สถานะการณ์จริง จะได้ค้นแบบไม่เลือกปฏิบัติน่ะครับ. อีกอย่างนะครับ มนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร น่าจะเหนี่ยวไกปืน ยิงคนได้นะครับ ถ้า มีความชั่วครอบงำในหัวใจ


ลองศึกษาแก่นธรรมของทั้งสองศาสนาที่อยู่ร่วมกันดูซิครับว่า ทำหม มุสลิมถึงดูถูกชาวไทยพุทธนักครับ. เพราะเข้ารู้ว่า เขาคือ ผู้กตัญญูเป็นอันดับเหนือกว่าไทยพุทธนั่นเอง เพราะไทยพุทธ กตัญญูสูงสุดได้แค่ธรรมชาติ แต่มุสลิมที่แท้ เขากตัญญูต่อเจ้าเมืองธรรมชาติ กตัญญูต่อ ผู้สร้างและค้ำจุน จรรโลงพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำ. นั่นแหละที่คือ ปม แก้ให้ได้ครับ

ป้ายผ้าที่ มีข้อความตักเตือนฝ่ายบริหาร ในเรื่อง สิทธิคนในพื้นที่ ที่เขาไม่กล้าแสดงตนในการให้ข้อมูล เพื่อความสงบสุข(กลัวถูกไอ้ปื้ดเก็บ) มิได้ละเมิด รัฐธรรมนูญ ถูกปลดลงโดยสัญญลักษณ์ที่สำคัญคือ ทหาร. นั่นคือ การแสดงความเขลาของฝ่ายปฏิบัติการในพื้นที่อย่างชัดเจน. ลองตรองดูเถิดว่า ทำอะไรกันไปรายวัน

น่าจะขึ้นป้ายผ้า ตอบไว้ข้างล่าง ว่า " ใจเย็ยๆครับพี่น้อง เรากำลังทำให้อยู่ " แทนที่จะไปปลดของเขาลง ปัญญา สมาธิ ปายหนายโหมด

หากต้องปลดป้ายผ้าทุกผืน ด้วยการไร้ไตร่ตรองข้อความ จงปลดป้ายผ้าที่ขบวนเดิยเรียกร้องตามวิทธิ์ต่างๆ ทั้งนปช ทั้งพันธมิตร ทั้งกลุ่มต่าง หน้าสถานทูตบ้าง หน้ากระทรวงบ้าง เพราะป้ายเหล่านั้น มีจุดมุ่งหวัง และเนื้อความแบบเดียวกับ ป้ายผ้าภาคใต้ทั้งนั้นเลย

เข้าใจว่าการละหมาดคืออะไรไหม.  การละหมาด คือ ภาระหน้าที่ของผู้กตัญญูต่อเจ้าเมืองธรรมชาติ ที่สร้างพระพุทธเจ้า และศาสนทูตทุกคน กเป็นอาการารแสดงความกตัญญูอย่างเปิดเผยต่อผู้ให้ออกซิเจนพระพุทธเจ้าหายใจ ทำอย่างตรงต่อเวลา มีระเบียบแบบแผนที่ตรงกันเป็นสากลที่ตรงกันทั้งโลก. ใครติดตามพระพุทธเจ้า แล้วมุทิตาต่อการกระทำนั้น กุศลด้วย เพราะเขาขอบคุณแทนพระพุทธเจ้ามาช้านานแล้วด้วย

มุสลิมเป็นพุทธะ

เมื่อมุสลิม สามารถดำเนินชีวิตตามโอวาทของผู้สร้างมนุษย์(อัล-กุรอาน) มุสลิมผู้นั้น จะเป็น พุทธ คริสต์ และอิสลาม ยิว ได้ด้วย
เมื่อผู้ที่อ้างว่าตนคือ พุทธะ ปฏิบัติตนตามโอวาท(ที่สุจริตธรรม)ของ เจ้าชายสิถถะได้จริง(อ่านไตรปิฏก แบบแยกแยะนัยยะทางการตลาด และผลประโยชน์ของนักบวชได้เป็น) พุทธะผู้นั้นจะเป็น อิสลาม คริสต์ ยิว ได้ด้วย
เมื่อชาวไครส์ (คริสต์) ผู้ใดปฏิบัติตน เดินตามทางแห่งวัจนะของพระเจ้าในไบเบิ่ล(แยกแยะผลประโยชน์มนุษษย์ ผลประโยชน์นักบวช นัยยะทางการตลาด เนื้อทางการถ่ายทอดวัฒนธรรมออกได้เป็น) ชาวไครส์ผู้นั้น สามารถ เป็น อิสลาม ยิว และพุทธได้ด้วย
เมื่อ ชาวยิว สามารถดำเนินชีวิตตาม สิ่งที่ท่านโมเสส แนะนำได้ เข้าถึงโอวาทผู้สร้างมนุษย์ได้ หลุดพ้นจากผลประโยชน์มนุษย์ได้ ยิวผู้นั้น สามารถเป็นพุทธ คริสต์ อิสลามได้ทันที
นั่นคือหลักสันติธรรม หลักความมีภาราดรภาพ หลักความเป็นหนึ่งเดียวของมวลมนุษยชาติ(เตาฮีต) ของปรัชญาอิสลาม
จงตรองกันดูก่อน มนุษย์เปลี่ยนโลกคงไม่ได้ เราก็มิได้อวดอ้างหรอก. แต่ผู้สร้างทั้งมนุษย์ และโลก รวมถึงองคาพยพ ทั้งหลายที่มนุษย์สูดเสพมาช้านานนี้ไปแล้ว ได้มอบแนวทางไว้ให้แล้ว

พุทธะ คือ ผู้ยึดในปรัชญา ผู้เพียรเรียนรู้ในการแสวงองค์แห่งธรรม ผู้ตื่นตัวในองค์แห่งธรรม ผู้มีความเบิกบานทั้งของตน และให่แก่ผู้อื่น


ทำให้ได้เถิด แล้วจะเป็น พุทธะ อย่างสมบูรณ์


เราจะขอพรจาก อัลลอฮ์ ให้พี่น้องชาวไทยพุทธ เข้าถึงการกตัญญูสูงสุดต่อ ผู้จัดการธรรมชาติตัวจริง เพื่อ ภัยพิบัติ จะได้คลาดแคล้วจากแผ่นดินไทย และพี่น้องชาวไทย การเตือนของอัลลอฮ์ เมื่อปี54 นั้น สาหัสมากไม่พอหรือ (เราเตือนแบบนี้มาก่อนหน้าเป็นปีๆแล้วด้วย) จะเอาภัยพิบัติรูปแบบใด ลองเลือกก่อน เนรคุณซิ เพราะนั่นคือ ตรรกกะที่โต้แย้งไม่ได้เลย. หากต้องการท้าทาย ก็ทำไปเถิด แล้วรอวันทำให้ปรากฏ(อย่าลืมนะ อัลลอฮ์ ถูกภาวนาให้ศักดิ์สิทธิ์มากครั้ง เหนือ เทพ พรหมใดใด ที่ท่านรู้จักนะ) อะไรศักดิ์สิทธิ์พอจะกตัญญู เกรงขามเล่า. จะลองดีก็ลองไปเถิด มันเกิดจริงมาแล้ว เชิญเนรคุณต่อไปนะ. ถ้าเลิกยังไม่ได้ยังติดเนรคุณงอมแงมอยู่ ก็ค่อยๆลดได้

ตรรกศาสตร์ เรื่อง การเนรคุณ

ตรรกศาสตร์ เรื่อง การเนรคุณ


หากท่านจะก่อประกายจิตที่เนรคุณใดใด ประกายจิตก่อนหน้านั้น จงเลือก ภัยพิบัติที่จะตามมาเสียก่อน จะเอาเป็นสิว เป็นมะเร็ง ขาขาด พิการใหม่ สันหลังคด เดินไม่ได้ ป่วยต้องให้อหาสายยางไปตลอดชีวิต เส้นเลือดแตก วิกฤติการศึกษา วิกฤติทางการงาน
  หรือ ภัยพิบัติตกกับพ่อแม่ลูกผัว หรือคนที่เรารักแบบนี้เล่า. พ่อตกท่อ แม่เป็นมะเร็ง พ่อเดินไม่ได้ ลูกเป็นไวรัสบี เมียถูกสิบล้อบี้ ผัวติดนักร้อง แม่ถูกต้นไม้หล่นใส่ พ่อถูกผึ้งต่อย
  หรือจะเอาแบบภัยพิบัติต่อประเทศชาติเล่า เช่น น้ำท่วม(เห็นของจริงแล้วนะ) แผ่นดินไหว อุกาบาตหล่นเป็นฝน ไฟป่าดับไม่ทัน พายุทอร์นาโด แผ่นดินแห้งผาก ฝนไม่ตกเป็นปีๆ หิมะตกเป็นปีๆ 
  ลองเลือกภัยภิบัติก่อน เนรคุณต่อ ผู้สร้างธรรมชาติ และผู้ตักเตือนมามากแล้ว อย่าเนรคุณต่อ อัลลอฮ์ เลย

พระพุทธเจ้า เยซู โมเสส ต่างรับอิสลามกันหมด เพราะอิสลามคือสันติธรรม. ธรรมข้อนี้ คนดีๆเช่นนั้น ใยจะไม่รับเล่า. อย่าอวดอ้างอุตริกันไปเองว่า ศาสนทูตที่ท่านติดตามอยู่จะขาดในธรรม ข้อหนึ่งข้อใดกันเลย. แก่นของปรัชญาอิสลามคือ สันติธรรม. ไม่ต้องเชื่อ ลองศึกษาก่อน อย่ามุสา. ลองก่อนอย่าเพิ่งเชื่อ เปิดกว้างอย่าปิดกั้น. พระพุทธองค์สอนไว้

มุสลิม ที่ดำเนินชีวิตตามโอวาทผู้สร้างมนุษย์ได้(อัล-กุรอาน) จะเป็นผู้เพียรเรียนรู้(ไม่ปิดกั้นสิ่งใด) เป็นผู้ตื่น(ในองค์แห่งธรรม) เป็นผู้เบิกบาน(ไม่เนรคุณต่อผู้ให้ออกซิเจนโมเสส เยซู สิถถะ มูฮัมมัด นานัก มหาวีระ หายใจ) นั่นก็คือ มุสลิม(ผู้จำนนต่อปรัชญาที่สามารถกตัญญูได้อย่างสูงสุดที่มนุษย์พึงกระทำได้ตั้งแต่จิตถึงจริต)ผู้นั้น ก็มีคุณลักษณะของ พุทธะ ไปแล้ว. แล้วผู้อ้างว่าตนคือพุทธะเล่า ทำให้ประชาชาติส่วนใหญ่ และตนเองเบิกบานแล้วหรือยัง. อย่าปฏิเสธเนรคุณผู้ให้ออกซิเจนพระพุทธเจ้าหายใจกันอยู่เลย เพราะท่านเอง และผู้พบเห็นจะเป็นพุทธะไม่ได้. เพราะไม่เบิกบานไงล่ะ. 

"กรรม" วลีที่อาจมีสิ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อน กล่อมจิตคนไทย เพื่อผลประโยชน์ แห่งทาน อาหาร ความพึงใจ และปัจจัยเกื้อกูลความสะดวกสบายส่อนตน ส่วนพวกพ้อง ซ่อนไว้ได้. เพราะวลีนี้ยังคงถูกตกใต้บงการเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความพึงใจ นำไปเป็นสินค้าและบริการได้อยู่

กรรม วลีซับซ้อน

กรรมคือวลีซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่ศึกษาแล้วครับ
พบว่าวลีนี้ ถูกนักบวชนำพาไปหากินมานานนับพันๆปีครับ ขนาดพระพุทธเจ้าจากไปด้วยการถูกวางยาตาย ยังกล่าวว่า กรรมเป็นผู้วางยาท่านเลย
พนักงานสอบสวนไม่ยอมแน่หากเป็นปัจจุบัน
วลีนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือที่ชาวพุทธแสดงความขัดแย้งกับพระพุทธเจ้าอย่างออกหน้าออกตา มีการยิงกันกลางถนน มีการด่าทอตอบโต้กันรายวัน หากกรรมมีศักดิ์ศรีขนาดสร้างและกำกับทุกสิ่งได้ ขนาดนั้น ใยตกต่ำ ถูกใช้หากิน ใช้หลอกทาน ใช้หลอกงบประมาณชุมชนให้ตกในมือนักบวชได้
นั่นแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า วลีนี้คือ กลยุทธ์ทางการตลาดเท่านั้น(แต่อย่าไปยกเลิกมันนะ) เพราะพระเจ้าได้มอบให้มนุษย์มาแล้ว เราไม่มีสิทธิ์ยกเลิกในสิ่งที่เรามิได้สร้าง หรืออกกฏ พระเจ้าคือผู้ออกกฏ แห่ง กรรม นั่นเอง. และบริหารให้ลงตัวยุติธรรมเสมอมา. แม้แต่คดีพระพุทธเจ้าถูกวางยาปรินิพาน ยุคนั้นมีผู้ใช้ประโยชน์ของวลีนี้ โทษกรรม แต่หากมีขันติธรรม ความจริงจะปรากฏ มากตัญญูต่อผู้มอบที่อยู่ให้ท่านรอพวกเรากันเถิด

กตัญญูต่อพระเจ้า ที่เมตตาปราณีเถิด อย่าหลงในวลี ที่ซ่อนเงื่อน แล้วนำพาผู้คนไปสู่การขาด "กตัญญูธรรม"เลยครับ
จะเป็นการฝึกจิตให้เนรคุณต่อผู้มีพระคุณได้ง่าย เป็นเชื้อไวรัสที่สมองมนุษย์ให้เนรคุณต่อผู้ให้ออกซิเจนพระพุทธเจ้า เยซู โมเสส มูฮัมมัดหายใจ ต่อไปเลยครับ เพราะปัญหาบนโลก แทบจะ99% เกิดจากเหตุ ปัจจัยของ การ เนรคุณ ทั้งสิ้น. ตรองกันดู

พี่น้องชาวไทยพุทธ น่าจะอ่าน และวิเคราะห์ในบทความต่างๆอย่างไม่ปิดกั้นทำลายบ้างนะครับ ลองก่อนเถิด อย่าเพิ่งเชื่อทันที และมิต้องหวาดกลัวข้อความที่ทำร้ายท่านไม่ได้เลย หากท่านพกพาความสุจริตไว้. สามารถเก็บไว้เมื่อยามจำเป็น แต่หากไม่ได้ใช้ก็ไม่เสียหายอันใดเลยมิใช่หรือ


   การไม่อนุญาติให้รับความรู้ในการมีพระเจ้า. คือ การห้าม กตัญญู(กตัญญุตาธรรม) ต่อผู้มีพระคุณในเบื้องต้นของชาวไทย.แต่การแนะนำในการมีพระเจ้าเป็นสิ่งกตัญญู แทนมีเพื่อปฎิเสธ. คือ ความรู้เพื่อฟื้นฟูจิตเนรคุณ ที่ปลูกฝังกันมาจากการ"ห้ามกตัญญู" นั่นเอง ฉะนั้นเรามาลองตรองกันดูซิว่า พระพุทธเจ้าเอง. ท่านจะเลือกความรู้ใดเป็นสิ่งปฎิบัติในปลายทาง. แบบก่อความเสียหาย หรือ แบบฟื้นฟูความดีงามเล่า. ไม่ต้องตอบ ไม่ต้องลบ ไม่ต้องทำอะไรกับสารทั้งนั้น. เพราะมีแต่กุศล ต่อแผ่นดินทั้งนั้น ถ้าประชาชนตรอง และบรรลุธรรมนี้ได้. มันคือ ปัญญาธรรม. และการเสริมเกียรติของพระพุทธเจ้าอย่างชัดแจ้ง.มุสามิได้. กลั่นแกลงพระพุทธเจ้าก็ไม่เกิดผลดีแต่อย่างใด. เราเข้าใจนะว่านักบวช นักพยากรณ์ นักข่าวฯลฯ อาจจะมีรายได้ลดลง การได้รับการพึงใจเป็นอามิสลดลง ความโดดเด่นทางสังคมลดลง. แต่ประชากรไทยมีกุศลจิตและบรรลุในข้อธรรมได้มากขึ้น ไม่เกิดกุศลหรือ. แค่กลัวนั้นสร้างชาติยากและช้า. กตัญญูนั้นง่ายและตรงที่สุดแล้ว(เที่ยงธรรม). พระพุทธเจ้ามิให้เชื่อให้ลองเอง. แล้วมัวแต่ลบเพื่อปิดกั้น ประชาชนจะลองกันอย่างไร. จงเห็นแก่ส่วนรวมเถิด. ท่านต้องการให้ใครกราบขอร้องเป็นประจักษ์อามิสเช่นนั้นหรือ ถึงได้ดื้อดึง เป็นผู้ว่านอนสอนยาก ได้รับการตักเตือนเกิน3 ครั้งไปกี่รอบแล้วล่ะ(ข้อ12 ของกฎแห่งพนักงานองการสื่อสารมวลชนของพระพุทธเจ้านะ) จงรักษากฎเถิด. เราก็ยังรักท่านอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง. ท่านล่ะ กลับเนื้อกลับตัวได้หรือยัง. ทั้งนักบวช และคฤหรรส

เพียงมีศรัทธามั่นว่า มีผู้พิพากษา ที่ยุติธรรมที่สุดต่อพ่อแม่เรา. และมีวันนั้นที่การสอบสวนจะต้องมาภึง. ผู้เดียวกันนั้น สร้างชีวิตมนุษย์ทุกคนมา อย่างมีมาตรฐาน. ทำไม มุสลิม(ผู้จำนนต่อสันติธรรมที่ท่านมูฮัมมัดประกาศอย่างเป็นทางการ(formal) ไว้. จึงถูกกำหนดให้มีศรัทธาต่อทั้งสองสิ่งนั้นเล่า(ผู้พิพากษาที่ทรงเมตตา. และวันสอบสวนบัญชีพ่อแม่เรา และเรา)

ผู้นั้น สามารถตำหนิ เอาผิด หรือ อภัยโทษ (อันเป็นสิทธิ์ที่ไม่มีมนุษย์คนไหน จะอวดอ้าง อุตริว่าเป็นงานการของตน หรือ ของธรรมชาติ หรือ ของวลีกรรม ที่มีเพื่อนมนุษย์ใช้ทำมาหากินกันทั่ว อย่างที่เห็นทั้งผล ทั้งเหตุกันอยู่นี้นั่นแหละ ไม่ได้เลย) หากมีขันติธรรมรอวันนั้นมาถึง. พ่อแม่เราทุกๆคน จะดับเหตุแห่งทุกข์ ได้แน่นอน เพราะท่านๆคงไม่หน้าแห้ง ตื่นตระหนกในสภาพบัญชีท่านๆนั้น มีผลออกมาเป็นลบ เพราะมีลูกอย่างเราที่ เนรคุณ ง่ายๆไร้เหตุผลที่สุจริต ไร้สติปัญญา ไม่มีขันติธรรมทยอมเนรคุณไปพลางๆ แทนการ กตัญญูไปพลางๆต่อการเสพของตนเอง. เป็นผู้ต่อรอง หรือหาเครื่องมือประณีประนอมในการกระทำผิดพลาดไปเรื่อยๆ แทนที่จะกลับเนื้อกลับตัว แบบทันทีทันใด. เปล่าเลย กลับแค่เชื่อว่า "บุญ" จะเป็นสิ่งที่ทำแล้วได้มา เพื่อไถ่โทษให้ตนเองได้เท่านั้น และ เพื่อนๆมนุษย์(ที่เหมือนเราทุกประการทั้งเส้นเลือด เส้นประสาท ระบบต่างๆ)ก็มารอที่ประตูนั้น เพื่อรับทานของเรา และสุดท้าย พญามารก็จะกระซิบให่เขามองและได้กลิ่นว่า งบประมาณของชุมชนที่เขาสามารถรวบรวมมาได้นั้น มีกลิ่นที่หอม มีรสที่หวาน. และ หลงไปทำให้บัญชีพ่อแม่เขาแปดเปื้อน กว่าจะรู้ ก็วันที่บัญชีพ่อแม่เรา-เขา ถูกกางแผ่. เหตุแห่งทุกข์นั้น ก็จะเกิดขึ้นกับพ่อแม่เรา-เขาทันที. พระพุทธเจ้าสอนให้ดับที่เหตุ ฉะนั้น จงศรัทธาการตักเตือนของท่าน. จงดับเหตุ แห่งทุกข์ของพ่อแม่ หากเรากตัญญูกัน

แค่อิถถิบาท4. ก็มีนวัตกรรม ค้นพบคุณค่าของอัลลอฮ์ได้. มีฉันทะ ที่จะกตัญญูไปพลางๆไหมล่ะ หรือมีฉันทะที่จะเนรคุณไปพลางๆ. หากมีทางเนรคุณก็จบ. แต่หากมุ่งทิศกตัญญู ก็จงวิริยะที่จะสืบค้นคุณค่า. ตั้งจิตตะ ที่จะทำ ที่จะอ่านอย่าเข้าถึงเจตนารม มีวิมังสะ ที่จะสืบค้นความจริงไปอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช้กิเลสสุข กิเลสทุกข์ ความเห็นแก่ได้ อามิสสินจ้างทางโลก มาปิดกั้นทำให้วิมังสะกลายร่างไปนิวรณ์เสียก่อน. ใช้หลักการของพระพุทธเจ้า ก็เข้าใจสันติธรรม(อิสลาม)ได้.

หากมีปรัชญาแห่งสันติธรรม(อิสลาม)ครอบครองตั้งแต่จิตขันธ์ วิญญาณขันธ์ เวทนา สัญญาขันธ์แล้วล่ะก้อ…. สังขารขันธ์ จะไม่ก่อวรรณกรรมว่า “ฝ่ายตรงข้าม” อย่างเด็ดขาด. จะรักใคร่สมัครสมานสามัคคี กลมเกลียว เป็นพี่น้องหนึ่งเดียวกันได้ ทั่วโลก. ขอให้เข้าถึงแก่นแท้แห่งสันติธรรม ขอให้กตัญญูธรรมได้สูงสุดถึงผู้มอบออกซิเจนให้เราท่านหายใจ ขอให้รักสมัคสมาน ขอให้รักษาบัญชีตน และพ่อแม่รวมถึงผู้ที่รักใคร่ผูกพัน ให้เป็นผลบวกเสมอ เพื่อยื่นเสนอต่อ อัลลอฮ์ ในวันสอบสวน วันนั้นแหละจะชัดว่าใครที่ดับเหตุแห่งทุกพ่อแม่ และ ของตนเป็น. ขันติธรรมรอ แล้วกตัญญูต่อผู้มีพระคุณไปพลางๆเถิด อย่ารีบเนรคุณ และ ขโมยออกซิเจนของท่านนั้น เสพเอาๆๆ อย่างทุกวันนี้เลย จิตจะไม่สะอาดได้. มิได้พิพากษานะ. แต่เพียง”เตือน”.

เมื่อ ปอด และ หัวใจทุกท่าน คือเครื่องฟอกอากาศ ฟอกเลือด ฉะนั้น ปอดและหัวใจจงปฏิเสธการเนรคุณต่อผู้ให้ออกซิเจนพระพุทธเจ้า มูฮัมมัด เยซู โมเสส หายใจ เสียแต่เนิ่นๆ. เพื่ออากาศรอบข้าง ไม่เสียหาย ติดื้อเนรคุณ จากการผ่ากระบวนการฟอก ของปอดและหัวใจที่สับสน ปฏิเสธการกตัญญูขั้นสูงสุด ยอมเนรคุณไปพลางๆ ดื้อดึงต่อความรู้ ปิดกั้นในเพียร ทั้งอิทธิบาท4 อินทรีย์5 กันทุกๆนาที. จงกตัญญูให้เท่าเทียมชาวโลกเถิด เพราะ ประเทศชาตินั้น ติดเชื้อเนรคุณกันไปทั่วแผ่นดินแล้ว เนรคุณต่อภาระหน้าที่ ต่อสมองตน ต่อจิตตน ต่อสัญญาของตน ต่อเวทนาของตนเอง. และแพร่เชื้อออกสู่บรรยากาศรอบข้างอีกด้วย.

ทำไมชาวใต้ถึงฟังกลุ่ม บีอาร์เอ็น มากกว่า รัฐ เพราะ กลุ่ม บีอาร์เอ็น สามารถแสดงออกอย่างเปิดเผยว่า พวกเขากตัญญูสูงสุดได้. เพราะเขากตัญญูต่อเจ้าเมืองธรรมชาติ ที่ให้ออกซิเจนพระพุทธเจ้า หายใจ มันคือการใฝ่หาของมนุษย์โดยพื้นฐานว่า เขาจะฟังผู้กตัญญู และ จะต่อต้านผู้มีจิต เนรคุณ นั่นเอง

ลองปรับกันซักนิด จะครองใจชาวบ้านได้ง่ายขึ้น. ด้วยการมีพระเจ้าเป็นสิ่งกตัญญู แทนการมีเป็นสิ่งปฏิเสธ ถึง เนรคุณ

ลองก่อนอย่ารีบเชื่อ

สันติ คือทางแก้ไข ทุกปัญหา เหตุจากการแย่งมวลชน

ทำไมชาวใต้ถึงฟังกลุ่ม บีอาร์เอ็น มากกว่า รัฐ (จากการ สรุปโดย พล.อ เอกชัย ศรีวิลาศ ผอ. สถาบันสันติวิธี)) เพราะ กลุ่ม บีอาร์เอ็น สามารถแสดงออกอย่างเปิดเผยว่า พวกเขากตัญญูสูงสุดได้. เพราะเขากตัญญูต่อเจ้าเมืองธรรมชาติ ที่ให้ออกซิเจนพระพุทธเจ้า หายใจ มันคือการใฝ่หาของมนุษย์โดยพื้นฐานว่า เขาจะฟังผู้กตัญญู และ จะต่อต้านผู้มีจิต เนรคุณ นั่นเอง. จงกตัญญูให้เท่าเทียมผู้ที่ท่าน จะเข้าพัฒนาเขา

ลองปรับกันซักนิด จะครองใจชาวบ้านได้ง่ายขึ้น. ด้วยการมีพระเจ้าเป็นสิ่งกตัญญู แทนการมีเป็นสิ่งปฏิเสธ ถึง เนรคุณ

ไม่มีความรู้ใด ได้มาด้วยการไม่เคยทดลอง จงลองกตัญญูไปพลางๆ แทนการเนรคุณไปพลางๆก่อนเถิด (ต่อผู้สร้างธรรมชาติ สร้างโปรแกรมบริหารจัดการกรรม) ท่านจะได้ความรู้เรื่องการ “จะกตัญญูสูงสุดได้อย่างไร”—-

การแนะนำเรื่องการกตัญญู คือ เครื่องมือช่วย การชี้วัด เป้าหมายของจิต วิญญาณ เชิงพรรณนา ขอจงอย่ากังขาว่า ถูกหรือผิด เพราะ การกตัญญูสูงสุด ย่อมไม่มีทางเลือกอื่น เพราะมันคือ สูงสุดแล้ว. สูงสุดคือ ปลอดภัยสุด กตัญญู ก็ยังคงเป็นนามธรรม ไร้รูปธรรมที่หากจะต่อรองแล้ว ก็ยังสามารถดีดดิ้นได้อีกว่า ยังไม่พบตัวตนแล้วจะกตัญญูทำไม. หากไม่แน่ใจวันนี้ จงย้อนกลับไปตรวจสอบว่า เราเอง กตัญญูสูงสุดเทียบเท่ามนุษย์อื่นๆสากล ที่เขาทำได้กันหรือยัง——-

แยกทางโลก ออกจากทางธรรม เป็นการสร้างความสับสนให้ระบบ เพิ่มภาระงาน มุ่งหน้าสู่ความสำเร็จทั้งทางเนื้อหนัง และจิตวิญญาณได้ แบบ ไม่พร้อมกัน และถูกหลอก สวมรอยจากนายหน้า ทนายกรรมได้ง่าย. อย่าแยก สังขาร สัญญา ออกจากจิต วิญญาณ ปล่อยให้มีผู้สวมรอยมานำ จิต และ วิญญาณของเรา และต้องจ่ายค่าสินค้าและบริการของเขาแบบ ไม่จำเป็น

เมื่อ นิค วูยิซิกส์ ผู้ไม่มีเท้าทั้งสองข้างแต่เกิด ได้ศรัทธามั่นว่า วันหนึ่ง พระเจ้าจะมอบเท้าทั้งสองข้างให้กับเขา เพียงไม่ลืมพระเจา ศรัทธา และทำหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายให้มาอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต่อรอง แสดงความกตัญญูอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ ยังเพื่อนๆมนุษย์ และ พญามารตลอดเวลา. เขาจึงเตรียม รองเท้า ไว้1คู่เสมอ. แล้วเราที่ครบถ้วนด้วยร่างกายเล่า จะตระเตรียมแค่ ความกตัญญู ความศรัทธา มิได้หรือ มันง่ายกว่าการเตรียมรองเท้า ที่ไม่เคยจะได้ใส่มัน1คู่เสมอๆในชีวิตด้วยซ้ำ. ทำไม่เรา เสพ แล้วจริง แต่กลับไม่กตัญญูต่อผู้ให้เราเสพ ผู้รอสอบสวนชำระบัญชี ทั้งเรา และ พ่อแม่เรา รวมถึงศาสนทูตที่เราติดตามเชื่อฟังทุกๆท่านเล่า. มันยากเย็นตรงขั้นตอนใดหรือ แค่กตัญญูไปพลางๆไม่เนรคุณไปพลางๆนั้น มันต้องหาเหตุผลกันมากมายทั้งชีวิตเลยหรือ. ระหว่างหาเหตุผลก็ยังสามารถกตัญญูไปพลางๆได้นะ. ขอจงอย่าเนรคุณ ปฏิเสธ ปิดกั้น ไปพลางๆแบบที่คนไทยมากมายถึงเกือบ60 ล้านคน กระทำอยู่นี้เลย. แผ่นดินจะมีแต่การก่อ อกุศลกรรม อกุศลจิต ทำให้แผ่นดินตกต่ำไร้มงคล อากาศก็ไม่บริสุทธิ์ เพราะผู้ที่มีเครื่องในที่ทำการฝอกอากาศออกมาแบบ มีเชื้อเนรคุณปนลมหายใจออก ออกมาด้วย ติดเชื้อกันทั่วประเทศ ก่อความเสียหายให้ตน ให้สังคม ให้ผู้อื่นรอบข้างเปล่าๆ.

เมื่อ นิค วูยิซิกส์ ผู้ไม่มีเท้าทั้งสองข้างแต่เกิด ได้ศรัทธามั่นว่า วันหนึ่ง พระเจ้าจะมอบเท้าทั้งสองข้างให้กับเขา เพียงไม่ลืมพระเจา ศรัทธา และทำหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายให้มาอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต่อรอง แสดงความกตัญญูอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ ยังเพื่อนๆมนุษย์ และ พญามารตลอดเวลา. เขาจึงเตรียม รองเท้า ไว้1คู่เสมอ. แล้วเราที่ครบถ้วนด้วยร่างกายเล่า จะตระเตรียมแค่ ความกตัญญู ความศรัทธา มิได้หรือ มันง่ายกว่าการเตรียมรองเท้า ที่ไม่เคยจะได้ใส่มัน1คู่เสมอๆในชีวิตด้วยซ้ำ. ทำไม่เรา เสพ แล้วจริง แต่กลับไม่กตัญญูต่อผู้ให้เราเสพ ผู้รอสอบสวนชำระบัญชี ทั้งเรา และ พ่อแม่เรา รวมถึงศาสนทูตที่เราติดตามเชื่อฟังทุกๆท่านเล่า. มันยากเย็นตรงขั้นตอนใดหรือ แค่กตัญญูไปพลางๆไม่เนรคุณไปพลางๆนั้น มันต้องหาเหตุผลกันมากมายทั้งชีวิตเลยหรือ. ระหว่างหาเหตุผลก็ยังสามารถกตัญญูไปพลางๆได้นะ. ขอจงอย่าเนรคุณ ปฏิเสธ ปิดกั้น ไปพลางๆแบบที่คนไทยมากมายถึงเกือบ60 ล้านคน กระทำอยู่นี้เลย. แผ่นดินจะมีแต่การก่อ อกุศลกรรม อกุศลจิต ทำให้แผ่นดินตกต่ำไร้มงคล อากาศก็ไม่บริสุทธิ์ เพราะผู้ที่มีเครื่องในที่ทำการฝอกอากาศออกมาแบบ มีเชื้อเนรคุณปนลมหายใจออก ออกมาด้วย ติดเชื้อกันทั่วประเทศ ก่อความเสียหายให้ตน ให้สังคม ให้ผู้อื่นรอบข้างเปล่าๆ.

อิสลาม คือ สันติธรรม. สันติวิธี ก็ต้องคือ วิธีตามแบบอย่างของ อิสลาม นั่นเอง. ไม่ลองก่อนหรือ มวลชนผู้รักชาติทั้งหลาย.

อิสลาม ทำให้มนุษย์ มีเสรีภาพ. ยืนยันว่า มี แต่หากท่านปิดกั้น ไม่เปิดกว้างตามที่ศาสนทูตท่านหนึ่งเมื่อ2500กว่าปีแนะนำ ท่านก็จะติดอยู่ที่บ่วงแห่งการ ขาดอิสระภาพ เริ่มจาก มายาคติที่บังคับให้การมีสภาวะ เป็นทาส เป็น นาย ต่อกันของเพื่อนพี่น้องมนุษย์ด้วยกันเอง จากนั้น ภาวะจำยอม หรือ เชื่อ ก็จะเข้าครอบงำจิตเรา เราก็คือผู้ใช้บริการในสินค้าที่แปรมา ต่อยอดมาจากความเชื่อนั้นๆไป และที่ประตู หรือ ชุมชนแห่งนั้น มีการรับผลประโยชน์ มีการจับต้องงบประมาณของชุมชน เพื่อสิ่งเสพของเขา เริ่มจากการให้ความพึงใจต่อกัน จนลามไปถึงการยินยอมแบ่งปันสิ่งที่เราแสวงหา แต่เขารอรับอย่างไม่เพียร ในกำลังงาน ซึ่งก็ไม่ผิดเลยที่เขากระทำ แต่มันยุติธรรม หรือ พอเพียงในระดับไหนล่ะ ที่จะไม่ยึดอำนาจทางจิตใจเราไป ให้ขาด “อิสระภาพ” ให้สังเกตว่า ปรัชญาอิสลาม มิได้สนับสนุนมนุษย์ให้มีคุณลักษณะ หรือ สัญญลักษณ์ ของ “นักบวช”.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท