Archanwell
รศ.ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร

ตอบคุณสมรักเรื่องปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายไทยของคุณเรไร


โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายของประชาชนที่ถามมา เมื่อวันจันทร์ที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

คำถาม

ร.อ.สมรัก [IP: 125.25.33.96]  ได้เข้ามาใน http://gotoknow.org/ask/archanwell/12622  เพื่อถาม อ.แหววเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ เวลา ๑๑.๓๕ น. 2554 ดังต่อไปนี้

เรียนอาจารย์ ผมมีเรื่องเล่าและอยากถามครับ เรื่องมีอยู่ว่า นางสาวเรไรกับแม่และน้องชายเป็นชาวพม่าแถวจังหวัดตากได้ถูกชักชวนให้เข้ามาทำงานในไทยอยู่เป็นลูกจ้างของคนจีนเพื่อทำงาน

แม่เป็นคนครัวทำอาหารเลี้ยงนายจ้างและครอบครัวนายจ้างรวมถึงญาติๆที่อยู่รวมกันในบ้าน ๒๔ คน มีหน้าที่ทำอาหารเตรียมอาหารเสริบอาหารเก็บล้างทำอาหารว่างและบริการเพื่อนๆ นายจ้างเมื่อมีงานหรือแขกที่มาเล่นไพ่ประจำตัว

น้องชายมีหน้าที่ดูแลรถให้นายจ้างจำนวน ๑๒ คันมีหน้าที่ล้างทำความสะอาดและเป็นยามที่หน้าประตูบ้าน

ส่วนตัวเรไรก็มีหน้าที่ซักผ้ารีดผ้าจัดที่นอนและทำความสะอาดบ้านนายจ้างและลูกนายจ้าง ๔ หลังและยังต้องเลี้ยงลูกของลูกนายจ้างอีก ๓ คนทำงานให้นายจ้างลูกนายจ้าง ผมลืมบอกไปว่า เจ้านายขอนางสาวเรไรมีลูก ๖ คนมีครอบครัว แล้ว ๕ คนอาศัยอยู่ในบ้านรั้วเดียวกันในประเทศไทยนาน ๕ ปี ด้วยค่าตัวรวม ๓ คนกัน ๑๐,๐๐๐ บาททำงานใช้หนี้มา ๓ ปี (ไม่มีรายได้) จนกระทั่งรัฐบาลประกาสจะเอาผิดกับผู้ที่มีลูกจ้างต่างด่าวและจะมีโทษหนัก

นางสาวเรไรเล่าให้ผมฟังว่า อยู่ๆ นายจ้างก็ใจดีให้แม่เรไรและน้องชายกับบ้านได้ให้เงินติดตัว ๕,๐๐๐ บาท แม่ของเรไรก็เดินทางกลับบ้านในพม่าทันที แต่น้องชายขอตามเพื่อนไปทำงานต้องที่พัทยา ส่วนตัวของเรไรเองนายจ้างของให้อยู่ต่อโดยให้ไปอยู่กับญาติของนายจ้างที่รังสิต (ผมเข้าใจได้ว่า ญาติของนายจ้างเรไรคงเห็นว่าเรไรเป็นเด็กสาวขยันทำงานบ้านเก่งซื่อสัตย์ จึงขอตัวเรไรไปทำงานที่บ้านตนเองมากกว่า) นายจ้างให้เงินเรไรติดตัว ๒,๐๐๐ บาท

ที่บ้านของนายจ้างใหม่เป็นตึก ๕ ชั้นอยู่ด้วยกับ๖คนชั้นล้างขายของเรไรได้อยู่ห้องชั้นบนสุดทำหน้าที่ทุกอย่างคือ รวมงานของแม่ของน้องและตัวเอง อยู่ได้ ๑ปี สามีของเจ้านายมีเมียใหม่และชอบเข้ามาหาเรไรตอนดึกๆแต่เรไรไม่เปิดประตูให้บอกเจ้านายให้รู้ตัวเองจึงต้องถูกย้างให้มาอยู้ร้านขายก้วยเตี้ยวแถวคลอง๖ ธัญญบุรีได้เงินวันละ ๕๐ บาทอยู่เป็นลูกจ้างได้ ๑ ปี ร้านเสริมสวยก็ขอให้ไปอยู่ด้วยช่วยทางร้านได้เงินวันละ ๑๐๐ บาททำทุกอย่างเหมือนเดิมอีก ไม่ทำ ก็คือ ยามและล้างรถเท่านั้น ตอนนี้เรไรเป็นสาวมีหนุ่มๆ มาติดมากรวมทั้งแฟนของร้านเสริมสวยด้วย จึงต้องย้ายมาช่วยขายขนมที่ โรงเรียนได้รู้จักกับลูกเจ้านาย ตอนเป็นนักเรียน ม.๓ เรียนไม่จบออกมาขับมอเตอรไซย์รับจ้าง เรไรจึงมาอยู่ด้วยในสถานะลูกจ้างกับนายจ้างเช่าบ้านแม่สามีอยู่ ๑ ห้องและได้ทำบัตรสีเขียวแล้วและสัญญาจะจดทะเบียบสมรสด้วย ต่อมา ๖ เดือนแฟนเรไรก็มีเมียใหม่แต่ยังให้สัญญาเหมือนเดิมว่า จะจดทะเบียน  ต่อมาเมียใหม่ท้อง เวลาผ่านไป ๑ ปี เด็กคลอดเป็นผู้ชาย

สามีเรไรได้รับรองบุตรและจดทะเบียนกับเมียใหม่ แต่บอกเรไรว่า ไม่สามารถย้ายเรไรเข้าทะเบียบบ้านแม่ตัวเองได้เพราะที่บ้านอยู่นั้นไม่มีทะเบียบบ้าน การที่จดทะเบียนกับเมียใหม่เพราะจำเป็นต้องรับรองลูกที่เกิดและเข้าทะเบียบบ้านคนอื่น เรไรจึงต้องหางานทำได้ขายของมีรายได้  ๖,๕๐๐  บาท ต่อเดือนส่งให้แม่ ๓,๐๐๐ บาทเป็นค่าเช่าน้ำไฟ ๑,๒๐๐ บาทเก็บไว้กินใช้ ๘๐๐ บาทสามีมาขอเงินใช้  ๑,๐๐๐ บาท สามีก็สัญญาต่อไปว่า ขอให้เรไรอยู่กับเขาก่อน ให้ออกจากงานมาเลี้ยงลูกให้เขาจะให้เงินเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท และถ้าพ่อสามีกลับมา จะจดทะเบียบทันที (พ่อสามีมีเมียใหม่อยู่อุดรไม่เคยกับมาเลย)

คำถาม ก็คือ  เรไรจะฟ้องเอาเรื่องกับสามีได้หรือไม่  เรไรจะออกจากบ้านสามีได้หรือไม่ เรไรจะมีลูกกับสามีได้หรือไม่ ถ้ามี จะมีผลอย่างไร ถ้าเรไรจะแต่งงานไหม่ได้หรือไม่ มีผลอย่างไรถ้าสามีเก่าตามมา หรือแกล้งแจ้งความ  สามีเรไรพาไปทำบัตรใหม่แล้ว ต้องรออีก ๓ เดือน จริงหรือไม่ที่ทำบัตรต้องรอนานมาก เรไรจะต้องทำตัวอย่างไรจึงจะได้จดทะเบียนหรือมีบัตรอยู่ในประเทศไทย ขอขอบคุณมานะที่นี้หวังว่าคงเป็นตัวอย่างและมีประโยชน์กับผู้อื่นที่มีปัญหาคล้ายกัน”

คำตอบ

อ.แหววหยิบเรื่องนี้มาตอบเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเห็นด้วยกับ ร.อ.สมรักว่า เรื่องแบบนี้มีให้เห็นทั่วไป ความเป็นแรงงานต่างด้าวจากพม่าและอาจจะไร้รัฐก็เป็นปัญหาอยู่แล้ว ยังมีปัญหาชีวิตขึ้นมาอีก

ในประการแรก จึงขอสรุปคำถามของ ร.อ.สมรัก เป็น ๒ เรื่องใหญ่ๆ กล่าวคือ

เรื่องแรก ก็คือ ปัญหาสัมพันธภาพทางครอบครัวระหว่างคุณเรไรกับสามีซึ่งน่าจะเป็นคนสัญชาติไทในประเด็นนี้  ร.อ.สมรักถามว่า (๑) เรไรจะฟ้องเอาเรื่องกับสามีได้หรือไม่ (๒) เรไรจะออกจากบ้านสามีได้หรือไม่ (๓) เรไรจะมีลูกกับสามีได้หรือไม่ (๔) ถ้ามีจะมีผลอย่างไร (๕) ถ้าเรไรจะแต่งงานไหม่ได้หรือไม่  มีผลอย่างไร ถ้าสามีเก่าตามมา หรือแกล้งแจ้งความ  อันนี้ อ.แหววก็ไม่เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายครอบครัว เลยจะขอส่งต่อให้เพื่อนนักกฎหมายที่มีจิตอาสาเพื่อสังคมช่วยตอบ อ.แหววจะหารือไปยัง ท่านบัณฑูร ทองตัน และท่านอาจารย์ ดร.สุชาดา รัตนพิบูลย์

เรื่องที่สอง ก็คือ ปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายไทยของคุณเรไร ซึ่ง ร.อ.สมรักให้ข้อมูลว่า คุณเรไรมี “บัตรสีเขียว” และ “สามีเรไรพาไปทำบัตรใหม่แล้ว”  และ ร.อ.สมรักตั้งคำถามว่า (๑) สำหรับบัตรใหม่ ต้องรออีก ๓ เดือน จริงหรือไม่ (๒) เรไรจะต้องทำตัวอย่างไรจึงจะได้จดทะเบียนหรือมีบัตรอยู่ในประเทศไทย

ในส่วนที่สองนี้ อ.แหววตอบได้เลย แต่ก็อยากมีคำถามต่อ ร.อ.สมรักอีกสักนิด กล่าวคือ

ในประการแรก บัตรสีเขียวที่ว่า คือบัตรอะไรแน่ ? โปรดดูบนบัตร และอ่านข้อความทั้งหมดบนบัตร บอกมาหน่อยค่ะ หากเป็นบัตรที่มาจากการขึ้นทะเบียนแรงงาน มีคำถามต่อไปว่า มีการยื่นขอพิสูจน์สัญชาติกับประเทศพม่าแล้วยังคะ

ในประการที่สอง คุณเรไรมีชื่อในทะเบียนราษฎรพม่าไหมคะ มีบัตรประชาชนพม่าไหมคะ

โปรดตอบมานะคะ จะได้ให้ความเห็นทางกฎหมายที่ถูกต้อง

คำแนะนำเบื้องต้น ก็คือ คุณเรไรควรกลับไปพม่า และดำเนินการตามกฎหมายคนเข้าเมืองที่ถูกต้องจากพม่าเพื่อกลับเข้ามาในประเทศไทย จะดีกว่าไหม ? หากยังอยากอาศัยอยู่ในประเทศไทย  

รอคำตอบจาก ร.อ.สมรักแล้ว หรือความเห็นจาก ยัง ท่านบัณฑูร ทองตัน และท่านอาจารย์ ดร.สุชาดา รัตนพิบูลย์ ตลอดจนนักวิชาการท่านอื่นๆ แล้ว เราค่อยมาวิเคราะห์กันต่อนะคะ

หมายเลขบันทึก: 429888เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2011 13:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 18:40 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท