ผมเป็นคนซื่อบื้อในเรื่องการพูดความจริง และแปลกใจตลอดมาว่าทำไมคนกลุ่มหนึ่งจึงไม่พูดความจริง ทำไมเขาจึงบอกความเท็จต่อสาธารณะจนคนจับได้
เคยมีอดีตนักการเมืองระดับรัฐมนตรีคนหนึ่งเล่าว่า นานมาแล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคในชื่อนางสาว และทำงานการเมืองใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ในพรรคมาก เป็นดาวดวงเด่น ว่างั้นเถอะ
ต่อมาสังเกตว่า มีไอ้หนุ่มซินตึ๊งมารอรับนักการเมืองสาวอยู่เสมอ จึงถามว่า "น้อย (ชื่อสมมติ) ไอ้หนุ่มนั่นเป็นใคร" "สามีหนูเองค่ะ" "อ้าว แล้วที่ในบัญชีสมาชิกพรรคเขียนว่านางสาว" "หนูคิดว่าเขียนว่านางสาว หาเสียงได้ดีกว่าค่ะ"
การบอกความจริงครึ่งๆ กลางๆ หรือโกหกซึ่งๆ หน้า โดยคิดว่าคนจะจับไม่ได้ หรือคิดว่าคนไม่ถือสาเรื่องการโกหกในทางการเมือง จึงกลายเป็นไวยากรณ์ทางการเมือง
ผมเฝ้าจ้องข่าวเรื่องไก่ตาย กับการแถลงข่าวการตรวจ (ไม่) พบเชื้อไข้หวัดนก มานานนับเดือน พร้อมกับถามตัวเองว่า เป็นไวยากรณ์การเมืองหรือเป็นไวยากรณ์วิชาการ ผมตอบตัวเอง (ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด) ว่าเป็นไวยากรณ์การเมือง ยิ่งข่าวจากทางกรมปศุสัตว์ภายใต้กระทรวงเกษตรด้วยแล้วผมเชื่อมั่นว่าเป็นไวยากรณ์การเมือง ผมเห็นใจข้าราชการที่ไม่กล้าให้ความจริงแก่สาธารณะ
ผมถามตัวเองว่า ถ้ามีการโกหก ผลของการโกหกนี้เป็นคุณต่อใคร สังคมไทยได้ประโยชน์อะไรจากการโกหกนี้ สังคมไทยเสียประโยชน์จากการโกหกนี้ ถ้าเราเปิดเผยความจริง และเร่งให้ความรู้แก่ประชาชน การแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดนก ทั้งในสัตว์ และในคน จะลดลงกว่าที่เห็นในขณะนี้ไหม
ผมถามตัวเองว่า การที่นักการเมือง (บางคน หรือหลายคน?) โกหกจนเป็นนิสัย มีผลเสียต่อบ้านเมืองอย่างไรบ้าง และมีผลดีต่อบ้านเมืองอย่างไรบ้าง คนทั่วไปจะรู้ได้อย่างไรว่านักการเมืองคนไหนขี้โกหก นักการเมืองคนไหนซื่อตรง หรือตรงไปตรงมา เชื่อถือได้
ผมถามตัวเองว่า การที่นักการเมืองบางคนโกหกบ่อย จนเป็นนิสัย และคนทั่วไปจำนวนหนึ่งก็จับได้ไล่ทัน เป็นคุณหรือเป็นโทษต่อนักการเมืองคนนั้น สังคมไทยเรายอมรับคนขี้โกหกมากน้อยแค่ไหน ระดับศีลธรรม ระดับจรรยาบรรณของนักการเมือง ที่จะปกครองบ้านเมือง ที่ชาวบ้านยอมรับ สูงต่ำแค่ไหน ผมไม่มีคำตอบ แต่ในทางส่วนตัวผมคิดว่าเรายอมรับความไม่ถูกต้องกันง่ายเกินไป เรายอมรับนักการเมืองที่จริยธรรมต่ำกันอยู่ ทั้งๆ ที่เราไม่ควรยอมรับ
ผมบอกแล้วว่าผมเป็นคนซื่อบื้อ
วิจาณ์ พานิช
๖ สค. ๔๙
เห็นด้วยกับอาจารย์และทนไม่ไหวกับนักการเมืองที่เอาเงินมาล่อประชาชนและมีหมอของเราไปเป็นทาสทั้งๆรู้ว่าขี้โกง เอางบหลวงมาให้ธุรกิจครอบครัวอย่างหน้าด้านๆ ไม่ทราบว่าแรงไปใหม? ขออนุญาตไม่ใส่ชื่อเพื่อความสบายใจ
คนที่อ่านเรื่องของอาจารย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นคนที่ชอบความจริง คนที่ชอบโกหกเขาไม่มาอ่าน จะทำอย่างไรให้คนชอบโกหกมาอ่านเพื่อเขาจะได้พูดความจริงบ้าง ในสังคมเรานั้นมักแยกกันไป 2 กลุ่ม กลุ่มชอบความจริง ก็พอกันในกลุ่ม และกลุ่มชอบโกหกก็พูดกันในกลุ่ม หากเอาคน 2 กลุ่มนี้มาร่วมกันได้คงช่วยให้ความจริงต่างๆ ปรากฏแก่สายตาได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ตรงนี้ใช่เลยค่ะ อาจารย์
"แต่ในทางส่วนตัวผมคิดว่าเรายอมรับความไม่ถูกต้องกันง่ายเกินไป เรายอมรับนักการเมืองที่จริยธรรมต่ำกันอยู่ ทั้งๆ ที่เราไม่ควรยอมรับ"
และไม่ใช่แต่นักการเมือง เรายอมรับคนจริยธรรมต่ำที่อยู่รอบๆตัวเรากันง่ายและมากเกินไป โดยเกรงใจที่จะแสดงความคิด ความเห็นว่าเรารังเกียจการกระทำที่ไม่ดี ทำให้คนที่มีมาตรฐานจริยธรรมต่ำ ไม่มีโอกาสได้รับการกระตุ้นเตือนบ่อยๆให้ความคิดเบื้องสูงมีอำนาจเหนือ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในระดับทางสังคมสูงกว่าผู้อื่น
เราต้องช่วยกันต่อต้านการโกหกพกลม และความไม่ถูกต้องทุกรูปแบบ โดยต่อต้านในลักษณะบอกต่อกัน ปากต่อปาก
คนที่ไม่กลัวภัยอย่างผมก็เขียน บล็อก ประกาศอย่างเปิดเผย ต้องช่วยกันครับ บ้านเมืองของเรานะครับ ไม่ใช่ของคนโกง คนโกหก
ไม่น่าจะเห็นใจนะครับ
"ข้าราชการที่ไม่กล้าให้ความจริงแก่สาธารณะ"
เห็นใจ ข้าราชการที่กล้าให้ความจริงแก่สาธารณะจนเดือดร้อนดีกว่า