ทุกวันนี้ผู้ที่ปฏิบัติตนและยึดมั่นในการทำความดี
เริ่มท้อถอยในการทำความดี ด้วยไม่มั่นใจในการทำความดี
ว่า "ทำดี ได้ดี" นั้นจริงหรือเปล่า ขอให้มีความมั่นใจเถอะว่า
"ทำดี ย่อมได้ดี" เพราะความดีที่กระทำไปนั้นจะเป็น
พระที่คอยคุ้มครองผู้นั้นอยู่ตลอดเวลา
ในเรื่องนี้ หลวงพ่อพุทธทาสกล่าวว่า
"ความดีที่ทำกันนั้น เป็นตัวพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เสียเองแล้ว
คนสมัยนี้มัวแต่อะไร ๆ ก็อ้างคุณพระรัตนตรัย
แต่แล้วก็มีการกระทำที่ขบถต่อพระรัตนตรัยอย่างหน้ามือ
เป็นหลังมือ จึงได้รับแต่ความโกลาหลวุ่นวายฯ
เราเป็นพุทธบริษัทที่แท้จริง ก็ต้องทำตามคำสอนของพระองค์
คือ ทำดีด้วยการยึดหลัก "ทำดี ได้ดี"
แล้วจะต้องไปพึ่งขอพรจากใครทำไม"
(จากหนังสือ : "คติธรรมของท่านพุทธทาส"
รวบรวมโดย อ.อภิปุญโญ)
"พุทธทาส" นามท่านปานขุนเขา
ทว่าเบาสบายอย่างว่างน้ำหนัก
และตัวตนของท่านนั้นใหญ่นัก
ใหญ่ด้วยหลักให้สละละตัวตน
บทประพันธ์ : เนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์
สวัสดีค่ะ
วันนี้อ่าน โอวาทของพระพุทธทาส เรื่องทำไมจึงสนใจปฏิบัติธรรมค่ะ มายืนยันว่า เชื่อเรื่องการทำดีค่ะ
เป็นความจริงทุกประการครับ เพราะพุทธศาสนาเราคือ กรรมวาทะ กิริยาวาทะ และวิริยะวาทะ คือสอนให้รู้ถึงการกระทำคือกรรม สอนให้ทำคือกิริยา, ทำคุณความดี สอนให้มีความเพียรคือ วิริยะ, พากเพียรทำความดี
พุทธศาสนาสอนให้รับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นครับ ทำดีได้ดีแน่นอน แต่ที่ทำชั่วแล้วได้ดีนั่นเพราะคนอื่นไม่รู้ แต่คนที่รู้แก่ใจคือคนทำ ไม่มีความสุขครับ เพราะกลัวว่าคนอื่นจะรู้นี่ก็เป็นทุกข์
ครูอิง..เก็บภาพนี้ไว้
งามมากนะครับ
ธรรมะเป็นความคุ้นเคยในทุก ๆ สิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้ทีเดียว
..
ขอบพระคุณในกำลังใจที่คุณครูอิงส่งมอบมาให้ นะครับ
สวัสดีค่ะพี่อิง
"...กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จปาปกํ..."
ผู้ที่ทำความดีย่อมได้รับผลดี ผู้ที่ทำความชั่วย่อมได้รับผลชั่ว
มาเยี่ยมคุณครู ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง...
"...กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ..."
ผู้ที่ทำความดีย่อมได้รับผลดี ผู้ที่ทำความชั่วย่อมได้รับผลชั่ว
มาเยี่ยมคุณครู ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง.
(จ ศัพท์ ต้องไม่ติด กับ ปา ลบด้วยครับ ลืมเคาะ)