หนานเกียรติ
เกียรติศักดิ์ หนานเกียรติ ม่วงมิตร

บทเรียนส่งเสริมโภชนาการดีอย่างยั่งยืน : ร.ร.นาฮีนุเคราะห์ จ.หนองคาย


.

ข้างชายสูงอายุคนหนึ่ง เด็กชาย ๔ คน มีครบชั้นทั้งประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีที่ ๕ และ ๖ นั่งล้อมกะละมังที่ภายในบรรจุกะหล่ำดอกไว้เกือบเต็ม ซึ่งพวกเขากำลังช่วยกันหั่นเพื่อเตรียมนำไปประกอบเป็นอาหารกลางวันสำหรับวันนี้  

     ในแต่ละคราวที่เด็ก ๆ แวะเวียนมาช่วยเตรียมจัดทำอาหารกลางวันของบรรดาเด็ก ๆ เหล่านี้ อาหารชายสูงวัยผู้ทำหน้าที่เป็นพ่อครัวนอกจากจะช่วยสอนและให้แนะนำ รวมทั้งยังพร่ำบอกสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายเด็ก ๆ เห็นคุณค่าความสำคัญในการประกอบอาหารให้ผู้อื่นรับประทานว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง รวมทั้งยังจะสามารถสะสมประสบการณ์ไว้เป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพในอนาคต

     สมัคร หินนิราศ คือชายสูงวัยผู้นั้น เขาเป็นชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้าน ที่อาสามาทำอาหารกลางวันให้กับทางโรงเรียนทุกวันโดยมิได้รับค่าตอบแทนใด ๆ นอกจากอาหารมื้อกลางวันที่ได้รับประทานที่โรงเรียน และตักใส่ถุงกลับไปรับประทานต่อในมื้อเย็นที่บ้าน เขาบอกว่า

มาทำให้ลูกหลานกิน ได้บุญ สนุกดี ดีกว่าอยู่บ้านเฉย ๆ...

     สมัคร จะมาโรงเรียนแต่เช้าราว ๐๗.๐๐ น. เพื่อตระเตรียมจัดทำอาหารกลางวัน สำหรับวัตถุดิบต่าง ๆ ที่จะประกอบอาหาร คณะครูจะเป็นหมุนเวียนกันไปจัดซื้อที่ตลาดมาให้

     สมัคร เข้าใจธรรมชาติการรับประทานของเด็กเป็นอย่างดี ทั้งชนิด ลักษณะและรสชาดของอาหาร ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่ติดตัวมาจากการเป็นพ่อครัวในร้านอาหารใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองอุดรธานี ก่อนที่เขาจะเกษีนณตัวเองกลับมาอยู่บ้าน จึงไม่แปลกใจที่บรรดาเด็ก ๆ และใครต่อใครที่มีโอกาสได้ลิ้มรสฝีมือต่างก็ติดอกติดใจในรสชาดอาหารที่เขาทำ

     และสำหรับการทำอาหารกลางวันให้ถูกใจเด็ก เขาบอกว่า

     ต้องทำอาหารให้มีรสเผ็ดนิด ๆ เพราะเด็กชอบ ถ้าทำจืด ๆ เด็กจะไม่ค่อยชอบ...

     ในระยะสามสี่เดือนหลังจากโรงเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมโภชนาการอย่างยั่งยืนในโรงเรียน เขาได้รับการบอกกล่าวจากทางโรงเรียนว่า อาหารกลางวันนั้นขอให้เน้นผักมากขึ้น รวมทั้งการลดความหวาน-มัน-เค็มของ อาหารลง ถึงแม้ว่าจะมีการปรับปรุงรายละเอียดการทำอาหารกลางวันดังกล่าว แต่ด้วยความสามารถในการทำอาหารของเขาก็มิได้ทำให้อาหารลดความเอร็ดอร่อยลง

     สมัคร อายุ ๖๒ ปี บ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน เป็นเพื่อนกับพี่ของครูคนหนึ่งในโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้ที่ชักชวนให้เขามาทำอาหารกลางวันให้เด็กรับประทาน ด้วยเหตุเพราะเขามีพื้นฐานในการทำอาหารมาก่อน รวมทั้งอยากเห็นเด็ก ๆ ได้รับประทานอาหารที่ดีและอร่อยเขาจึงตัดสินใจมาช่วยโดยไม่คิดถึงการตอบแทนใด ๆ จากทางโรงเรียน

     โดยปกติแล้ว เขามีอาชีพรับจ้างซัก-รีดผ้าในวันเสาร์-อาทิตย์ วันปกติธรรมดาเขาจะมาทำอาหารกลางวันที่โรงเรียนแต่เช้า จนกระทั่งบ่ายก็กลับไปพักผ่อน

     นอกจากสมัคร ที่อาสามาทำอาหารกลางวันที่โรงเรียนแล้ว ยังมีถนอม ภาษาเวช มาช่วยทำอย่างสม่ำเสมอโดยมิได้รับค่าตอบแทนเช่นกัน

     ในบางวันนอกจากสมัคร และถนอม แล้ว ก็จะมีชาวบ้านอีกราวเกือบ ๑๐ คน ที่หมุนเวียนมาช่วยจัดทำอาหารกลางวันที่โรงเรียนอีกด้วย

 

ดาวน์โหลด เอกสารฉบับเต็ม

 

 

 

.

หมายเลขบันทึก: 428314เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2011 09:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท