ใช้ต้นไม้เป็นข้อคิด ข้อเตือนใจ

ตาล:ต้นไม้แห่งปรัชญา

   ทุกคนคงรู้จักต้นตาล ต้นตาลมีมากแถวจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสงขลาโดยเฉพาะอำเภอระโนดและอำเภอสะทิงพระ ตาลเป็นพืชที่มีรากหยั่งลึก ลำต้นเดี่ยว ใบรวมกันเป็นกระจุกที่ปลายลำต้นไม่แผ่กิ่งก้านสาขา ตาลเป็นพืชที่มีความทนทานใช้ชีวิตอย่างไม่หวั่นไหวต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงและไม่พึงประสงค์ทั้งหลายทั้งปวง  ทนแล้ง ทนแดด ทนน้ำ ทนฝน เราไม่เคยเป็นต้นตาลยืนต้นเหี่ยวเฉาตาย ไม่เคยเห็นต้นตาลตายเพราะนำ้ท่วม(ยกเว้นน้ำเค็ม ดินเค็ม ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงเกินไปที่จะทนได้) ไม่เคยเห็นต้นตาลล้มหรือหักโค่นเพราะแรงลมหรือพายุ ตาลจัดได้ว่าดำรงชีวิตแบบพอเพียงปลูกแล้วไม่ต้องรดน้ำ ใส่ปุ๋ยก็สามารถเจริญเติบโตได้ แม้บนคันนาเล็ก ๆ ต้นตาลก็สามารถขึ้นได้ รากและใบของต้นตาลที่ขึ้นบนคันนาไม่รบกวนชีวิตข้าวกล้าในนาเพราะรากตาลหยั่งลึกไม่แผ่กว้าง และพุ่มใบก็ไม่แผ่กิ่งก้านจนกำบังแสงที่อาจรบกวน           ต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าวในนา นอกจากนี้พุ่มในยังเป็นที่พักอาศัยของนก กา หรือค้างคาวสามารถให้ปุ๋ยแก่ข้าวกล้าอีกต่อหนึ่ง ส่วนต่าง ๆของตาลล้วนแต่ให้ประโยชน์ จนมีผู้เขียนถึงประโยชน์ของตาลเป็นหนังสือชื่อ "ร้อยประโยชน์ตาลโตนดไทย"

ตัวอย่างประโยชน์ของตาลเช่นใช้ผลอ่อน ผลแก่ เป็นอาหารทั้งโดยตรงและแปรรูป ใช้เนื้อไม้ของลำต้นทำเครื่องเรือน ว่ากันว่าไม้จากต้นตาลทนทานกว่าเหล็ก ใช้ทำเครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ  ใบตาลใช้ทำจากมุงหลังคา ทางตาล(ก้านใบ)ใช้กั้นรั้วบ้าน คอกสัตว์(ในชนบท) ก้านใบส่วนที่เป็นกาบหุ้มลำต้นประกอบด้วยเส้นใยใช้ควั่นทำเชือก ใช้ทอทำเป็นกระเป๋าและอื่น ๆ งวงตาล(ช่อดอก)ให้น้ำหวานใช้ทำน้ำตาล สด นำ้ตาลเหลว น้ำตาลแว่น เป็นต้น

        นอกจากนี้การดำรงชีวิตของต้นตาลที่เต็มไปด้วยความอดทนต่อสภาพแวดล้อม ชีวิตที่ล้วนแต่ให้ประโยชน์ ยังใช้เป็นปรัชญาในการดำเนินชีวิตของคนที่จะทำงานเพื่อสังคมได้อีกด้วย เพราะคนที่ทำงานเพื่อสังคมจะหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์เช่น เสียงตำหนิ ท้วงติง ติฉินนินทา ด่าทอ เป็นต้น ไม่ได้ ผู้ใดรักที่จะทำงานเพื่อสังคม จึงควรใช้การดำรงชีวิตของตาลเป็นข้อคิดและข้อเตือนใจ เพราะคนทำงานทุกคนจะต้องพบกับสิ่งแวดล้อมอันไม่พึงประสงค์เหล่านี้จึงต้องอดทน ดังนั้นหากรักที่จะทำงานเพื่อสังคมส่วนรวมแล้ว "จงตำตนให้เสมือนต้นตาล"