ประเทศต่างๆโดยเฉพาะประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมประเพณีหยั่งรากลึกมาเนิ่นนานหลายชั่วอายุคน มีการสั่งสมความรู้ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น จนกลายมาเป็นสิ่งที่เรียกว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Traditional Knowledge) ภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้นเกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติเพื่อการผลิตอาหารและยารักษาโรค และมักมีการแลกเปลียนความรู้จากชุมชนหนึ่งไปยังอีกชุมชนหนึ่งอยู่เสมอ โดยไม่มีการหวงกันเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ภูมิปัญญาท้องถิ่นจะมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับทรัพยาการพันธุกรรมพืช ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรู้ที่มีในเรื่องการเพาะปลูก บำรุงรักษา หรือใช้ประโยชน์จากพันธุกรรมพืช ซึ่งมีส่วนเกี่ยวโยงกับการผลิตอาหารและยารักษาโรค จึงเห็นได้ชัดว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นปัจจัยสำคัญการดำรงชีวิตของผู้คนในชุมชน เป็นสิ่งที่ชาวบ้านคิดค้นและสืบทอดความรู้มาต่อเนื่อยาวนานจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง
แต่ในปัจจุบันภูมิปัญญาท้องถิ่นบางอย่างกลับถูกนำไปใช้ในเชิงกาค้าพาณิชย์และก็เป็นการเอาไปจดสิทธิบัตรเป็นของตัวเอง โดยที่แท้จริงแล้วเป็นทรัพย์สมบัติของชุมชน
ในส่วนนี้ภาครัฐควรมีมาตรการบางอย่างเพื่อคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่นไม่ให้ถูกฉกฉวยไปใช้ประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรมเพื่อประโยชน์ของคนแค่บางกลุ่ม
ที่มา นันทน อินทนนท์ 2003 ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญาและผลกระทบต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น วารสารกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ หน้า144-173
website http://www.ipthailand.org
เห็นด้วยว่าประเทศไทยควรเร่งให้ความคุ้มครองให้ทั่วถึงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเรา
ข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมประเด็น และจะทำการจัดจ้างเพื่อศึกษาวิจัย และทำการยกร่างกฎหมายคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย และกรมทรัพย์สินฯ ได้มีการรับจดแจ้งข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยเพื่อประโยชน์ในการแปลงทรัพย์สินทางปัญญาให้เป็นทุน และเป็นฐานข้อมูลเพื่อประกอบการยกร่างกฎหมายต่อไป แต่การจดแจ้งดังกล่าวยังไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแต่อย่างใด..