ความรักกับการมองตนเอง


การฝึกตนให้ชอบในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง หรือต่อร่างกายนี้ ต้องขึ้นอยู่กับจิตใจเป็นสำคัญ นั่นคือ รู้จักเหตุผล รู้จักผ่อนปรน และรู้จักตนเอง การฝึกตนเองจึงเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง โดยไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นกับตนเอง

     กราบสวัสดีอีกครั้งสำหรับผู้สนใจทุกท่านครับ พบกันอีกครั้งในบล็อก "คุยกันวันเสาร์อาทิตย์" ในวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554 นี้ ใกล้วันวาเลนไทน์อีกวาระหนึ่งครับ วันวาเลนไทน์นี้ กระผมเชื่อว่าสำหรับหลายท่านอาจถือเป็นวันสำคัญของชีวิตคู่เลยทีเดียวครับ จริงๆ แล้ว เทศกาลวันวาเลนไทน์ พอบอกว่า วันแห่งความรักทำให้หลายท่านที่กำลังมีความรักรู้จักกระชุ่มกระชวย รู้สึกสดใส หัวใจเบ่งบานด้วยความรักนะครับ บางคนตั้งหน้าตั้งตารอจะจดทะเบียนในวันวาเลนไทน์นี้ เทศกาลวันวาเลนไทน์เลยเป็นวันที่หนุ่มสาวบอกรักกันในวันวาเลนไทน์ ซื้อดอกกุหลาบ ช็อกโกแลตให้แก่กัน บ้างก็นำสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมามอบให้กันแทนว่า ฉันรักเธออะไรประมาณนั้น ทำให้ชีวิตรู้สึกมีความสุข กับสิ่งที่ได้รับ
     ขึ้นว่าความสุขแล้ว สำหรับคนที่มีชีวิต และกำลังจะมีชีวิตคู่ หรือ คนไม่มีคู่ ต่างคนต่างมีความสุขคนละแบบ ความสุขที่ได้พบนั่นคงหนีไม่พ้นในเรื่องของความรัก  ซึ่งไม่เลือกว่าจะอายุ เพศ วัย การศึกษา หรือสถานภาพใด ทุกคนต่างล้วนแต่มีความรักด้วยกันทั้งสิ้น วันนี้เลยขอพูดเกี่ยวกับเรื่องของความรักกับการมองตนเองกันครับ
     หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า "ตัวเราหากไม่เข้าใจตัวเราเองแล้วใครเล่าที่จะไปเข้าใจตัวเรา" จริงๆ แล้วความรักและความเข้าใจเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ยังมีบ้างที่มองไม่ถึง หรือเข้าไม่ถึง หรือมองข้ามในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ดังนั้นคำว่าความรัก จึงมีนิยาม ที่มาต่างๆ กันออกไป นั่นเพราะว่าก่อนที่จะมารักกันได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีการพัฒนาอะไรหลายๆ อย่างด้วยกัน บางคนถึงกับปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อความรักเช่น ไปลดน้ำหนัก ไปทำศัลยกรรม เปลี่ยนพฤติกรรมไม่ดีทิ้งเสีย เพียงเพื่อได้อยู่ร่วมกับคนที่เรารักก็มี ดังนั้น ความรักจึงเป็นได้ทั้งความสุข และความทุกข์

มองตนเอง จนเข้าใจตนเอง

    ทีนี้ มาถึง การมองตนเอง รักตนเองบ้าง พื้นฐานแรกคือ ทางกาย ทางจิตใจ และทางปัญญาหรือความคิด ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ถามตนเองว่าวันนี้เราได้พิจารณาไตร่ตรองหรือไม่ว่า วันนี้ร่างกายเราผุกร่อน ไปแค่ไหน วันนี้เราได้รักที่จะดูแลร่างกายของตนเองได้ดีแค่ไหน วันนี้เรารักที่จะทำจิตใจของเราให้มีความสุขมากน้อยเพียงใด และวันนี้เรารักที่จะคิดในเรื่องที่ทำให้เรามีความสุขหรือเกิดประโยชน์กับเรามากน้อยเพียงใด คำตอบคือไม่มี หรือมีบางส่วน อ้าว... อยากไหนบอกว่ารักตนเอง ฉะนั้น ความรักเกิดจากความเข้าใจเป็นอันดับแรก ด้วยการเข้าใจตัวของเรา เรียนรู้ถึงสภาวะทั้งทางกาย จิตใจ และความคิดหรือปัญญา เพื่อสร้างความสมดุลให้กับชีวิตของตนเอง นั่นคือ การหมั่นดูแลบำรุงรักษาทั้งทางกาย จิตใจ และความคิดของตนเองให้ดีพร้อม ท่านผู้อ่านคงจะเห็นว่า หากร่างกายไม่สมดุล จิตใจไม่สมดุล ความคิดไม่สมดุล อะไรจะเกิดขึ้น นั่นคือเกิดความทุกข์ มากกว่าความสุข
    เคยมีบุคคลหลายท่านมักเคยพูดกับผู้เขียนเสมอว่า นี่อยู่ตั้งนาน แต่ยังไม่รู้จิตใจตนเองเลย เช่น ให้เลือกก็เลือกไม่ได้ โน่นก็ดี นี่ก็ดี ไปหมด หรือให้ไปโน่นก็ไม่อยากไป ไปนี่ก็เบื่อ ดังนั้น การเรียนรู้จิตใจ จะทำให้เรารู้เท่าทันตนเอง ทบทวนตนเอง ควบคุมตนเอง และทราบถึงสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันขณะ นั่นคือ ทราบถึงความต้องการของตนเอง และหาวิธีระงับหรือสนองความต้องการของตนเองได้
     และการให้สิ่งที่ดีกับตนเองนั้น ด้วยความเข้าใจตนเองอย่างดี ทำให้เราเกิดความรักขึ้นในจิตใจของตนเอง ความรักในตนเองนี้ไม่ต้องรอให้ใครบอก ใครกระตุ้น เป็นความรักที่มั่นคงแน่นอน ด้วยความเข้าใจของตนเองครับ

จากความเข้าใจ พัฒนาสู่ความรัก

    หลายครั้งที่ตัวผู้เขียนเองเคยได้ยินคำพูดจากเพื่อนๆ ที่มักพูดว่า "เป็นห่วงตัวเองบ้าง" หรือ "รักตัวเองบ้าง" ผู้เขียนเชื่อประโยคหลายท่านคงได้เคยพูดหรือเคยฟังมาบ้างแล้ว คำๆ นี้แหละที่ทำให้ผู้เขียนกลับมามอง และไตร่ตรองอยู่เสมอ  "เอ...เรายังไม่รักตนเองหรืออย่างไร หรือว่ารักไม่พอ " ถึงแม้คำพูดที่เตือนสติ แต่ก็มีประโยชน์กับผู้เขียนอยู่ไม่น้อยทีเดียว ที่นี้เมื่อเกิดความเข้าใจในตัวเราแล้ว จะพัฒนาให้เป็นความรักได้ไม่ยากครับ 
       ประการแรก นั่นคือ มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง นั่นคือต้องเข้าใจตนเอง ด้วยการบำรุงรักษาสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี เช่นทำความสะอาดร่างกายตนเองอยู่เสมอ  รับประทานอาหารให้ตรงเวลา ครบทั้งห้าหมู่ การมีสติระลึกรู้ด้วยการหมั่นทบทวนตนเองอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และการผ่อนปรนความคิด หรือคิดดีมีสุข มองในมุมมองที่แตกต่างและสร้างสรรค์คือก่อให้เกิดประโยชน์กับตนเอง เรียกว่าเรามีความซื่อสัตย์ต่อตนเองเป็นพื้นฐาน  
       ประการที่สอง นั่นคือ ต้องรู้จักฝึกตน เช่น ไม่ชอบรับประทานผักหรือผลไม้ ต้องรู้จักข่มตนและฝึกตนให้ทำให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ เรื่องนี้ ผู้เขียนเองขอเล่าประสบการณ์ของตนเอง ซึ่งแต่ก่อนเป็นคนที่ไม่ชอบทานมะระ เพราะว่าขม แต่พอระยะหลังเริ่มรู้ว่ามะระมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ถึงแม้จะมีรสชาดขม แต่ก็มีประโยชน์ หลังๆ เลยฝึกทานมะระ จนเริ่มรับประทานได้ ซึ่งการฝึกตนให้ชอบในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง หรือต่อร่างกายนี้ ต้องขึ้นอยู่กับจิตใจเป็นสำคัญ นั่นคือ รู้จักเหตุผล รู้จักผ่อนปรน และรู้จักตนเอง การฝึกตนเองจึงเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง โดยไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นกับตนเอง เช่น รอให้ไม่สบายมากๆ แล้วค่อยกินยา แต่หากฝึกตนเองเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันเสียก่อน เพื่อระงับหรือป้องกันอาการที่เกิดขึ้น ด้วยการปฏิบัติเป็นประจำ และการกระทำที่ทำอย่างเป็นประจำนี้เองที่จะทำให้เราเกิดความผูกพัน และพัฒนาให้เกิดความรักในตนเองมากขึ้น นั่นเอง
     พูดถึงเรื่องการฝึกตนเอง ทำให้นึกถึงกล้ามเนื้อ เวลาเรายกของหนัก หรือใช้แรงหนัก จะรู้สึกปวดเมื่อย ล้า เพราะกล้ามเนื้อยังไม่ชินหรือยังไม่ได้รับการฝึกให้รับกับการปรับสภาพ แต่ถ้ากระทำอยู่ทุกวัน เป็นประจำ กล้ามเนื้อก็จะเริ่มปรับสภาพได้ เสมือนกับเราเล่นกีฬาที่ฝึกซ้อมอยู่บ่อยๆ เราก็จะทำได้ดี แต่ถ้านานๆ ทีเล่นที ก็อาจจะมีผิดพลาดกันได้ เช่นกัน ในเรื่องความรัก การฝึกตนอยู่เสมอ ไม่เฉพาะกับตนเองเท่านั้น แต่อาจกับคนอื่น คือทำให้เป็นประจำ มักทำให้เราเรียนรู้ เกิดความไว้วางใจ และเชื่อถือ จนเป็นความรักในที่สุด
      ประการที่สาม นั่นคือ ความอดทน เนื่องจากการฝึกตนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย การทำให้เป็นนิจ หรือทำเป็นประจำนั้น จำเป็นต้องอาศัยความอดทนอย่างมาก เหมือนตักน้ำใส่ตุ่ม กว่าน้ำจะเต็มตุ่มนั้นต้องใช้ความอดทนเพียงใด นั่นคือจิตใจเราต้องกอปรด้วยศรัทธา ความเชื่อมั่นว่าเราต้องทำได้ ฝ่าฟันต่อไปได้ ถึงแม้จะหนักมากเพียงใดก็ตาม  และต้องมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ  เช่น การออกกำลังกายจะทำให้ไม่เป็นโรค ร่างกายแข็งแรง ถ้ากระทำเป็นประจำ จะเป็นยาอายุวัฒนะให้กับตนเอง เพราะร่างกายได้รับการฝึกฝนอยู่เป็นประจำ จิตใจต้องมุ่งมั่น และมีศรัทธาที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ คือ การมีอายุที่ยืนยาว นั่นคือความรักที่เรามอบให้กับตนเองด้วยความฝึกฝนและความอดทนด้วยความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ที่ถือเป็นวินัยในตนเองนั่นเองครับ

การให้ ... สิ่งที่รักษาความรักให้ยืนยาว
        ประการสุดท้าย ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก นั่นคือ การให้ ครับ การให้นั้นเป็นสิ่งที่รักษาความรักให้ยืนยาว ก่อนที่เราได้รับ เราต้องรู้จักให้เสียก่อน การให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ มีประโยชน์กับร่างกาย กับจิตใจ ของตนเอง นั้น ถือว่าเป็นการต่อความรักในตนเองให้ยืนยาว เช่นการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ การให้จิตใจได้ผ่อนคลายความตึงเครียด เหนื่อยล้า การให้ความรู้เพื่อประเทืองปัญญา เหล่านี้เป็นการให้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเรา เรียกว่ารักษาความรักให้ยืนยาวเลยทีเดียวครับ
      อย่างไรก็ตาม การให้นั้น จึงควรที่จะพิจารณาสิ่งที่ให้ ว่าเหมาะสมกับผู้รับเพียงใด เช่น ร่างกายกระหายน้ำ แต่ไปให้อาหาร หรือ ร่างกายต้องการอาหาร แต่ไปให้น้ำ คุณค่าหรือประโยชน์ที่ได้รับกลับไม่สร้างสมดุลให้เกิดขึ้นกับร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร หรือขาดน้ำ ภูมิต้านทานลดลง เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย ดังนั้น การให้จึงควรพิจารณาสิ่งที่ให้เหมาะสมกับผู้รับมากน้อยเพียงใด นั่นคือ เราต้องทบทวนตนเองอยู่เสมอถึงภาวะในร่างกายของเราด้วยความเข้าใจตนเอง อันจะรู้ถึงความต้องการว่าอะไรที่ร่างกายต้องการนั่นเอง
      ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น เป็นหลัก 4 ประการที่จะทำให้เรารักตนเองและเข้าใจตนเองมากขึ้น ซึ่งในทางพุทธศาสนานั้น เรียกว่า หลักการครองเรือน หรือ ฆราวาสธรรม 4 ประการ นั่นเองครับ ซึ่งการมองตนเองนั้นนอกจากจะเกิดประโยชน์คือเกิดความรักในตัวเราเองแล้ว หรือท่านที่ใช้ชีวิตคนเดียวแล้ว ยังเกิดประโยชน์กับท่านที่ใช้ชีวิตคู่ ให้อยู่กันอย่างยืนยาวด้วยครับ และนอกจากจะนำมาใช้ในความรักแล้ว ในเรื่องการทำงาน ยังทำให้เกิดความรักความสามัคคี เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจซึ่งกัน อันจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว เหล่านี้จึงข้อเสนอแนะเพื่อการสร้างความสุขให้กับชีวิตและการทำงานอีกทางหนึ่งครับ

13 กุมภาพันธ์ 2554

หมายเลขบันทึก: 425954เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2011 22:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ครูนาย Ico48 ครับ

  • ขอบพระคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมเยือนและให้กำลังใจนะครับ

รักตนเอง   รักผู้อื่น  รักสิ่งแวดล้อม ....ทำให้โลกสวยงามนะคะ

ครูตา ลป. ครับ Ico48

  •  ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนและให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์มากครับ
  • ใช่ครับ รักตนเอง รักผู้อื่น รักสิ่งแวดล้อม ทำให้โลกสวยงามขึ้นมากครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท