446 พบพระดี พระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่กัณหา สุขกาโม


พระอาจารย์ใหญ่กัณหา สุขกาโม

 

 

(ผู้เขียนกับหลวงพ่อกัณหา

ท่านเมตตาเคาะศรีษะให้พรผมหลายครั้ง)

 การอยู่อินเดีย ประเทศที่มีทั้งความเจริญสูงสุดกับการพัฒนาที่ต่ำสุด วิถีชีวิตที่หลากหลายทั้งรวยมากติดอันดับโลกกับจนที่สุด ผู้คนที่คิดเพียงอย่างเดียวคือการเอาตัวรอด "ฉันก่อน" แต่ไม่ว่าอินเดียจะเป็นอะไรหรืออย่างไร สิ่งหนึ่งสำหรับชาวพุทธไทยอย่างเราก็คือ การอยู่อินเดียมีโอกาสได้ทำบุญมากกว่าอยู่เมืองไทย มีโอกาสได้พบพระมากกว่าอยู่เมืองไทย ดังเรื่องที่จะเล่าให้ฟัง 

ช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณกฎ เพ็ชรภักดีพงษ์ นายสถานีการบินไทยเดลีว่าพระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่กัณหา สุขกาโม แห่งวัดป่าทรัพย์ทวี วังน้ำเขียวและคณะจะแวะมาเดลีวันที่ 9 กพ.เพื่อเปลี่ยนเครื่องบินไปลัคเนาว์โดยจะมีเวลาช่วงรอเปลี่ยนเครื่องบิน 2 ชม. กว่าและในวันที่ 12 กพ.จะแวะกลับมาเดลีอีกครั้งโดยคราวนี้จะมีเวลานานกว่า 5 ชม. เนื่องจากคุณเมษา หรือคุณเมย์ ภรรยาคุณกฏเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่กัณหาฯ มานาน จึงบอกบุญมา ผมเมื่อทราบดังนั้นจึงได้ออกปากให้นิมนต์พระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่ฯ มาที่สถานเอกอัครราชทูตซึ่งผมเป็นอุปทูตอยู่ในขณะนั้นเพื่อท่านจะได้มาเยี่ยมชมสถานทูต ทำเนียบทูตและให้โอกาสข้าราชการและคนไทยในเดลีได้กราบ ฟังธรรมและทำบุญกับท่าน โดยที่ผมเองยังไม่ทราบว่าพระอาจารย์ใหญ่นั้นเป็นใคร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร รู้แต่เพียงว่าหากมีพระไทยมาเดลี ก็ถือว่าเป็นบุญของผมและคนไทยในเดลี จะได้มีโอกาสทำบุญและฟังธรรม คุณกฏก็ยินดีและได้นัดแนะกับคณะต่อไป

ที่สนามบิน

ที่ห้องอาหาร Hotel Lohias

คุณกฏ คุณเมษาและคุณชุลีรัตน์(ภรรยาผู้ช่วยทูตทหารเรือ)

ในวันที่ 9 กพ. ผมจึงได้ไปรับพระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่กัณหาที่สนามบินร่วมกับคุณกฎและภรรยา พาท่านไปฉันอาหาร ณ โรงแรมใกล้สนามบินแล้วก็พาไปส่งขึ้นเครื่องไปลัคเนาว์ เนื่องจากมีเวลาสั้นๆ จึงได้สนทนากับท่านไม่มากนัก แต่ก็รู้สึกแล้วว่าท่านเป็นพระที่ไม่ธรรมดา มีเมตตาสูงมาก ท่านยิ้มได้น่ารักและอย่างเมตตา เอาไม้เคาะศรีษะและให้พรโดยเน้นเสียงตอนท้าย “สุขัง พลัง” ทำให้เรารู้สึกดีมาก นอกจากนั้นท่านพระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่ยังแจกท๊อฟฟี่ซองใหญ่ ให้ด้วย ทราบจากปากท่านเองว่าท่านบวชมาแล้ว 40 กว่าพรรษา อายุ 60 ปีแล้ว เป็นหลานของพระอาจารย์ชา และถือธุดงถ์เป็นวัตร พระที่มากับท่าน 9 รูปก็ล้วนเป็นพระที่สำรวมดูเข้มแข็งในทางธรรม ทำให้ผมเลื่อมใสด้วยความจริงใจ เนื่องจากช่วงนั้นมีงานเยอะจึงยังไม่ได้ค้นหาข้อมูลของพระอาจารย์กัณหาซึ่งตั้งใจว่าจะต้องหาความรู้ก่อนที่ท่านจะมาแวะสถานทูตในวันที่ 12 กพ.

คณะญาติธรรมเดลี อยู่กันพร้อมหน้า

ในวันที่ 12 กพ. ท่านพระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่ก็มาแวะที่ทำเนียบทูต มีข้าราชการและคนไทยในเดลีมากราบท่านประมาณ 30 คน ก็มีทั้งข้าราชการสถานทูต ผู้ช่วยทูตทหาร นักธุรกิจไทย แม่บ้านไทยในเดลี เช่นคุณตุ๊กตา ดร.วิไลพร คุณธนินทร์ ซึ่งก็เป็นผู้ที่สนใจธรรมะทั้งนั้น ท่านอาจารย์ใหญ่ก็จะให้เข้ามาทีละคน เอาไม้เท้าเคาะศรีษะ ให้พร แจกท๊อฟฟี่และนมกล่องคนละกล่อง เป็นที่ถูกอกถูกใจของทุกคนในที่นั้น จากนั้นก็มีการนำกราบบูชาพระรัตนตรัยและสวดชุมนุมเทวดา สวดอิติปิโสและพระสงฆ์เล่าประวัติของพระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่ให้พวกเราได้รับทราบกัน ทำให้พวกเราได้ทราบว่าหลวงพ่อใหญ่นั้นเป็นพระที่มีบารมีธรรมมาก เดินธุดงถ์มาตลอดชีวิต แม้ปัจจุบันก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์รวมทั้งไข่ บารมีธรรมของท่านที่เห็นได้ชัดคือความเมตตาเห็นจากแววตาของท่านที่ฉายออกมามีแต่ความเมตตาและสบายๆ มีแต่ให้ผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นมีความสุขใจ อิ่มใจ ทำให้พวกเราได้ทราบว่าพวกเรานั้นโชคดีเหลือเกินที่ได้มีโอกาสได้กราบและพบท่านอย่างใก้ลชิดแบบนี้ พระที่บรรยายบอกว่าหากเป็นที่เมืองไทยจะไม่มีโอกาสแบบนี้เพราะคนที่ไปกราบท่านที่วัดนั้นมากมาย

ผมได้มีโอกาสอ่านข้อมูลของวัดแพร่ธรรมาราม ต.เด่นชัย อ.เด่นขัย จ.แพร่ โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะบวชตามรอยพระพุทธเจ้าซึ่งพระอาจารย์หลวงพ่อใหญ่เป็นคนเขียน อ่านแล้วต้องยอมรับว่าเป็นธรรมะและธรรมวินัยที่ดีมากสำหรับพระ ที่แท้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ท่านถือปฏิบัติมานานตั้งแต่บวช ดังนั้นบารมีธรรมจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่ายเลย แต่ถ้าใครทำได้แล้วก็จะเป็นอำนาจที่น่ายกย่องและเคารพยิ่งนัก ผมได้ข้อคิดด้วยว่า การที่ใครจะเคารพเลื่อมใสใครนั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่อยู่ที่ยศฐาบรรดาศักดิ์หรือตำแหน่งใหญ่โตแต่อยู่ที่การปฏิบัติจริง สำหรับพระสงฆ์แล้ว การปฏิบัติที่ถูกต้อง ตรงต่อพระวินัยและทำได้จริงตลอดเวลายาวนานแสดงให้เห็นถึงอำนาจหรือบารมีธรรมที่เรารู้สึกได้เองและต้องเคารพและยกย่องนั่นคือพระที่เราสามารถกราบได้ด้วยความสนิทใจ

ครอบครัวผู้ช่วยทูตทหารเรือ น.อ. บัญชา บัวรอด

คุณแจ่มใส คุณแม่และลูกศิษย์หลวงพ่อ

เย็นนั้นนอกจากพวกเราจะ ได้ร่วมกันทำบุญกับพระอาจารย์แล้วก็ยังได้ฟังธรรมะโดยการถามตอบด้วยซึ่งนับว่าได้รับข้อคิดและสติเตือนใจที่ดีมาก โดยเฉพาะเรื่องการคิดที่ถูกต้อง ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ (มรรค 8 ) จึงจะเป็นพุทธแท้ แต่ถ้าเริ่มต้นคิดก็ผิดซะแล้ว ต่อให้นั่งสมาธิหรือไปทำบุญบูชาอะไรก็ไม่เป็นผล นอกจากนั้นก็ให้มีเมตตาทั้งกับตัวเราและผู้อื่น มีความกตัญญูต่อบิดามารดา และมีสติเพื่อทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ก็ต้องบอกว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้มีโอกาสพบ ได้ทำบุญและได้ฟังธรรมจากพระดีๆ รู้สึกได้ชัดเจนว่าไม่เสียทีที่ได้มาอยู่ ณ ดินแดนพุทธภูมิแห่งนี้ จึงเผื่อแผ่มายังผู้อ่านทุกท่าน ให้ได้บุญกันถ้วนหน้าครับ

คุณกฏ คุณเมษาและบุตรชาย

ลูกศิษย์คนสำคัญของหลวงพ่อและ

พ.จ.อ.สุพจน์กับครอบครัว

 

พ.จ.อ.ณัฐวุฒิจากสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารอากาศ

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณ คุณกฏ เพ็ชรภักดีพงษ์และคุณเมย์ที่เป็นเสมือนสะพานบุญทำให้พวกเราคนไทยในเดลีได้มีโอกาสพบพระดีๆ เช่นนี้ และขอบคุณคนไทยทุกท่าน ตั้งแต่ผู้ช่วยทูตทหารเรือ แม่บ้าน จนท.ผู้ช่วยทูตทหารทั้งทหารเรือและทหารอากาศที่ได้ถ่ายภาพดีๆ ให้พวกเราได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก

และขอจบด้วยคำว่า พบกันในโอกาสสร้างบุญครั้งหน้าครับ

หมายเลขบันทึก: 425765เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2011 11:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ

  กระแสแห่งความดี ก็มักจะดึงดูดสิ่งดีๆ

เข้าใกล้ผู้นั้น ขอกราบอนุโมทนามา ณ โอกาสนี้

ตันติราพันธ์

แนะนำให้หาโอกาสไปกราบท่านนะ ที่วัดป่าทรัพย์ทวี วังน้ำเขียวหรือลองไปแวะในเว็บที่เกี่ยวข้อง โดยค้นหาผ่านกูเกิ้ล

ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันครับ

สวัสดีครับ...มีความสุขมากที่ได้ร่วมกันทำบุญ และสุขใจมาก...เห็นด้วยกับท่านพลเดชอย่างยิ่ง...พวกเราได้รับพรและความเมตตาจากพระอาจารย์แล้วก็ยังได้ฟังธรรมะโดยการถามตอบด้วยซึ่งนับว่าได้รับข้อคิดและสติเตือนใจที่ดี โดยเฉพาะเรื่องการคิดที่ถูกต้อง ที่เป็นสัมมา (มรรค 8 ) จึงจะเป็นพุทธแท้ ให้มีเมตตาทั้งกับตัวเราและผู้อื่น มีความกตัญญูต่อบิดามารดา และมีสติเพื่อทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ก็ต้องบอกว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้มีโอกาสพบ ได้ทำบุญและได้ฟังธรรมจากพระดีๆ ก็รู้สึกว่าไม่เสียทีที่ได้มาอยู่ ณ ดินแดนพุทธภูมิแห่งนี้ จึงเผื่อแผ่มายังผู้อ่านทุกท่าน ให้ได้บุญกันถ้วนหน้าครับ...ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

คุณThanindra ครับ

ยินดีครับที่พวกเราคนไทยในเดลีได้มีโอกาสพบพระดีๆ เช่นนี้ ต้องถือว่าพวกเรามีบุญนะครับ ยิ่งในวันนั้นได้เห็นพวกเราซาบซึ้งในรสพระธรรม ก็ทำให้ดีใจไปด้วยครับ

ความจริงแล้ว ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในโลก หากนำหลักธรรมมาปฏิบัติ ก็เหมือนอยู่ไม่ไกลจากพุทธองค์นะครับ การปฏิบัติธรรม คงต้องเป็นบัญชีส่วนบุคคลครับ ใครทำใครได้ หากเราจำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ได้ ปัจฉิมโอวาท คือความไม่ประมาท ชีวิตเราก็คงต้องอยู่ในความไม่ประมาทครับ เพราะหลายสิ่งที่เราคิดว่าแน่นอน ยั่งยืน ก็ไม่แน่นอนและไม่ยั่งยืนครับ

ขอให้มีความสุขทั้งทางโลกและทางธรรมนะครับ 

สวัสดีค่ะ...

ขออนุโมทนา สาธุด้วยค่ะ

"การปฏิบัติธรรม คงต้องเป็นบัญชีส่วนบุคคลครับ ใครทำใครได้"

ถูกใจ..ใช่เลยค่ะ คนไทยในเดลี คงมีบัญชีธรรมยาวเหยียดแน่ๆเลยค่ะ

 

Ico48

 

สวัสดีครับครูเล็ก

ขอบคุณที่มาทักทายด้วยธรรมครับ บุญที่จะได้ฟังธรรม พบพระดี อยู่ที่กรรมและบารมีครับ หากมีเหตุ ก็เกิดขึ้นเองครับ

ภาพหลวงพ่อทวดใช่ไหมครับ ภาพสวยมาก ยังไม่มีโอกาสไปสักการะครับ

สวัสดีค่ะ..

อยู่ในประเทศก็เพิ่งได้ไปกราบชื่นชมบารมีท่านมาเพียงครั้งเดียวเองค่ะ

หลวงพ่อทวด หรือหลวงปู่ทวด วัดห้วยมงคล เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือน

หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต”

ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามใหม่จากห้วยคต

เป็นห้วยมงคล ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นทั้งชื่อหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโครงการต่างๆ อีกมากมาย

ผมเคยบวชที่ วัดแพร่ธรรมราม ปี51 ถือว่ามีบุญมากเลย ที่ได้บวชกับหลวงพ่อใหญ่ พระอริยสงฆ์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท