“ปิดทองไปข้างหลังเรื่อย ๆ แล้วทองจะล้นออกมาที่หน้าพระเอง” พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ งานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำนายตำรวจและนายทหารเรือ วังไกลกังวล
การสืบสานแนวพระราชดำริใน ๖ มิติลงสู่ชุมชน ได้แก่ดินปรับปรุงดินโดยปลูกหญ้าแฝก เกษตร ทฤษฏีใหม่และเกษตรรูปแบบที่เหมาะสมกับพื้นที่ พลังงานทดแทน ไบโอดีเซลเชื้อเพลิงสีเขียว ป่า การอนุรักษ์ ดูแลรักษา และได้ประโยชน์จากป่าอย่างถูกวิธีเพื่อให้มนุษย์กับธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข สิ่งแวดล้อมกำจัดขยะและน้ำเสีย น้ำ การพัฒนาแหล่งน้ำ การเก็บน้ำให้อยู่ในประเทศได้นานที่สุด การใช้น้ำทุกหยดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทำไมต้องน่าน ? น่านเป็นพื้นที่ซึ่งมีความสำคัญเชิงภูมิศาสตร์ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นร้อยละ ๔๕ ของแม่น้ำเจ้าพระยา การพัฒนาลุ่มแม่น้ำน่านย่อมทำให้เห็นผลผลิตของการแก้ไขปัญหาตามแนวพระราชดำริที่เป็นรูปธรรมชัดเจน
พื้นที่เป้าหมายแห่งแรกของการพัฒนาคืออำเภอสองแควและอำเภอท่าวังผาบริเวณลุ่มแม่น้ำยาวยอดและลุ่มแม่น้ำสบสาย ตามหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ดำริให้เริ่มทำจากจุดเล็ก ๆ
เกณฑ์การเลือกพื้นที่น่าน ประการแรกสามารถแก้ปัญหาได้ในเชิงระบบเริ่มต้นที่อำเภอสองแควและอำเภอท่าวังผา และขยายผลสู่ทุกพื้นที่ในจังหวัดน่าน ประการที่สอง มีพื้นที่ทางระบบนิเวศมีอุทยานถึง ๗ แห่งและหน่วยการจัดการต้นน้ำ ๕๑ หน่วย ประการที่สาม มีข้อมูลเพียงพอเป็นระบบ ข้อมูลแผนชุมชน ๙๙ ตำบลและข้อมูลงานวิจัย สกว. และ สปสช. ประการที่สี่ มีสภาพปัญหา เกิดน้ำท่วม ดินถล่มเป็นประจำทุกปี การบุกรุกป่าทำไร่ข้าวโพด มีสารพิษในเลือดสูงอยู่ในระดับ ๓ และ ๔ ประการที่ห้า อปท.เข้มแข็ง อปท. จำนวน ๑๐๐ แห่งมีความพร้อมในการร่วมมือสนับสนุนการทำงานของชุมชน ประการที่หก องค์กรชุมชนเข้มแข็งมีกลุ่มเครือข่ายที่เชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ๑๒๘ องค์กรทั่งจังหวัด
บ้านเปียงซ้อ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๓๔๐ เมตร ได้ดำเนินโครงการปิดทองหลังพระ
การพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างฝายน้ำการเกษตร และฝายอนุรักษ์น้ำ จำนวน ๙๘๓ ฝาย
การพัฒนาที่ทำกิน ขุดนาขั้นบันได ๔๙๐ ไร่
การส่งเสริมอาชีพ กองทุนปลา กองทุนเมล็ดพันธุ์ข้าว/พืชไร่/เมล็ดพันธุ์พืชผัก
การส่งเสริมการเกษตรระยะสั้น/ระยะยาว ไผ่เปาะ ไผ่ซางนวล ไผ่ตง หวาย ต๋าวและกล้วยเหลืองนวล
กองทุนพลังงานทดแทน เครื่องบดข้าวโพดและเตาเผาเศรษฐกิจ
การปศุสัตว์ กองทุนสุกร กองทุนยา และสุขภาพสัตว์
“การขุดนาขั้นบันไดที่บ้านเปียงซ้อ” คุณจอห์นได้ให้ความอนุเคราะห์อธิบายเกี่ยวกับการขุดนาขั้นบันไดว่า แต่ละครอบครัวจะมีที่ทำกิน ๖๐ ไร่ และแบ่งออกเป็นพื้นที่ ๓ ส่วนคือ
ป่าเหล่าที่ ๑ มีพื้นที่ ๒๐ ไร่ เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของดิน ๒ ถึง ๓ ปี โดยทิ้งพื้นที่ให้เกิดหญ้าและต้นไม้ปกคลุม ฝนตกดินชุ่มน้ำ
พื้นที่ทำกิน ป่าที่ ๒ มีพื้นที่ ๒๐ ไร่ ขุดเป็นนาขั้นบันได และปลูกข้าวประมาณ ๑ ถึง ๓ ปีแล้วแต่ความลาดชันของพื้นดิน อาจสลับการปลูกข้าวโพด แล้วทิ้งไว้ให้เป็นป่าเหล่าต่อไปอีก ๒ ถึง ๓ ปี
ย้ายไปทำนาขั้นบันไดและปลูกข้าวป่าแห่งที่ ๓ ซึ่งมีพื้นที่ ๒๐ ไร่ โดยพัฒนาขึ้นมาจากป่าเหล่าที่สมบูรณ์แล้ว ประมาณ ๒ หรือ ๓ ปี ก็วนไปยังพื้นที่ทำกินในป่าที่ ๑ ทิ้งพื้นที่ทำกินให้กลับเป็นป่าเหล่าเช่นนี้วนเวียนกันไป
เนื่องจากภูมิประเทศเหล่านี้จะเป็นที่อยู่ของชาวเขาเผ่าต่าง ๆ อาจทำให้ความเชื่อดั้งเดิมเป็นอุปสรรคในการพัฒนา การสร้างแรงจูงใจในการทำนาขั้นไดโดยแจกเครื่องมือและจอบขุด จัดทำระบบน้ำให้ แจกเมล็ดพันธุ์ มีผู้เชี่ยวชาญจากโครงการหลวงดอยตุงมาให้ความรู้ ปราชญ์ชาวจีนมาอบรมแนะนำ และส่งผู้นำหมู่บ้านไปดูงานที่ประเทศบาหลี ให้ค่าเสียเวลาไร่ละ ๑๐๐๐ บาท และถ้าหากผลผลิตไม่ถึง ๕๐๐ กก./ไร่ โครงการยินดีจ่ายข้าวให้ทดแทนตามจำนวน
ความเชื่อของชนเผ่าชาวเขายังเชื่อว่า “ห้ามขุดที่ทำกินจะทำให้ผิดผีผิดประเพณี” โครงการจึงมีกุศโลบาย “แจกหมูฟรีให้สำหรับเลี้ยงผี” ในวันสำคัญคือวันสมเด็จย่า ๒๑ ตุลาคม ของทุกปี
“โครงการปิดทองหลังพระ” มีความสำคัญและความเป็นมาอย่างไร นักเรียนโรงเรียนบ้านเปียงซ้อกลุ่มที่เข้าค่ายสามารถอธิบายได้เป็นเหตุเป็นผลมากที่สุด และสามารถอธิบาย “การขุดนาขั้นบันได” ได้อย่างภาคภูมิใจ รวมทั้งมีความเชื่อและตระหนักต่อการปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ร่องถนนคือเส้นทางทรงงานของสมเด็จพระเทพฯ
คุณจอห์นและครูโจ
ภาพจากเว็ปโรงเรียน
บ้านพัก (เจ้าหน้าที่)คนปิดทองหลังพระ
เห็นภาพชัดเจน ครับ ขอบคุณพี่คิมครับ
การทำนาขั้นบันไดเป็นการช่วยกันการพังทลายของดินด้วยนะคะ
ภาพสวยและได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับคนที่อยู่บนที่สูง
โครงการนี้เป็นโครงการในพระราชดำริที่ทรงมองเห็นการณ์ไกลดีจริงเลย...ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
...นอกเรื่องนิ๊ด..ขำเรื่องปิดทองหลังพระดีกว่าปิดทองก้นพระ...คิดแล้วนั่งยิ้มอยู่นะนี่
สวัสดีค่ะ
ขอขอบพระคุณ krugui Chutima และ พระมหาแล อาสโย ขำสุข.
ที่กรุณามามอบดอกไม้ให้เป็นกำลังใจค่ะ
สวัสดีครับ
เข้ามาลงทะเบียนเรียนต่ออีกค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ ที่ทำให้ได้เห็นการทำงาน
ของกลุ่มปิดทองหลังพระ เพื่อพัฒนาชาติตามโคงการพระราชดำริค่ะ
เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจริงๆค่ะ..พี่คิม
เหมือนยอดดอยแต่ละลูก ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลยนะคะคุณครู
สวัสดีค่ะพี่ครูคิม
มาชมธรรมชาติงามๆ โครงการดีๆค่ะ
นาขั้นบันได ได้พัฒนาที่ทำกิน
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่แบ่งปันค่ะ
ชอบภาพนี้ค่ะพี่คิม
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะต้นกล้า
พี่คิมเขียนบันทึกแล้วเตลิดเลยค่ะ เพิ่งจะเข้ามาติดตามตอบเม้นท์เป็นเรื่องเป็นราววันนี้เองค่ะ ไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ "มีหนังสือดีน่าอ่าน" หลายเล่มค่ะ เลยมุ่งจดจ่ออยู่กับหนังสือเสียมากกว่า
สวัสดีค่ะkrugui Chutima
ถ้าจะให้ดีต้องไปชมหน้าฝนที่เขาทำนากัน ดังภาพข้างล่างคงจะเป็นบรรยากาศที่สวยงามมากนะคะ
ปิดตรงไหนก็ทองค่ะน้องรัก
สวัสดีค่ะKRUJOY (ครูจ่อย)
พักผ่อนหายเหนื่อยหรือยังคะ ที่กาฬสินธ์อากาศคงเริ่มร้อนแล้วนะคะ
ขอขอบคุณที่แวะมาติดตามอ่านเรื่องเล่าค่ะ
เห็นแล้วสวยงามดีจัง
แต่ว่าเหมือนจะแล้งไปหน่อย
อยากได้แบบป่าเขียวขจีมากกว่า
ถ้าเป็นไปได้
สวัสดีค่ะน้องขจิต ฝอยทอง
ดีแล้วหละฝากไปให้ขยายพันธุ์กันเยอะ ๆ อาจารย์แฮนดี้ก็อยากได้ ยังไม่มีให้เลยค่ะ เพราะที่มีอยู่มันเก่าเกินไป กลัวไม่งอก
สระน้ำที่เห็นในภาพลึกมาก แต่เขามีหลายร้อยสระค่ะ เพียงแต่สงสัยว่าผืนยางพาราที่รองก้นบ่อนำเข้าจากประเทศจีน มีอายุการใช้งานหลายสิบปี สงสัยว่ามันจะย่อยสลายไหมนั่น
สวัสดีค่ะอาจารย์mee_pole
การเล่าในบันทึกนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มีโอกาสไปเรียนรู้เพียงครึ่งวันเองค่ะ กำลังตั้งหลักว่าจะกลับไปเรียนรู้อีกค่ะ เพราะยังมีสิ่งหลงเหลือให้เก็บเกี่ยวอีกมากมาย
การไปจัดค่ายครั้งนี้คุ้มค่าทั้งสองฝ่ายค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์กุลมาตา
แค่เพียงได้ไปเห็นไปชม ก็ชื่นอกชื่นใจค่ะ ปิดทองหลังพระ...มีคุณค่าและความหมายที่เป็นอมตะค่ะ
ถ่ายภาพมามากมาย ยังมีภูเขาที่โอบล้อมลิบลับอีกหลายพันลูกค่ะ และอีกไม่กี่ก้าวก็เป็นเขต สปป.ลาวค่ะ
สวัสดีค่ะnamsha
ต้นไม่ใหญ่แทบไม่เหลือค่ะ ผู้ที่ได้ประโยชน์การนำต้นไม้ใหญ่ไปใช้ไม่ใช่ชาวเขาที่อยู่บนดอยหรอกนะคะ
ทำให้พวกเขาทำไร่เลื่อนลอยไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีการทำนาขั้นบันไดนี่แหละสามารถแก้ปัญหาที่วิกฤติจากธรรมชาติได้
สวัสดีค่ะถาวร
ขอบคุณค่ะ ที่บอกว่าชอบ
เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่เอาภาพของคนอื่นมาลงบล็อก นี่คะ ถ้าเราไปฤดูทำนา เราก็จะได้เห็นภาพสดชื่นกว่านี้นะคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์โสภณ เปียสนิท
เช่นกันค่ะอาจารย์ แต่คงรออีกระยะยาวค่ะ
ป่าเหลืออยู่เท่าที่เห็นในภาพ เพราะเป็นป่าช้าของชาวเขาเผ่าลั๊วะค่ะ