ช่วงหลายวันที่ผ่านมาของชีวิตกับการเดินทางและทำงาน เมื่อกลับมาดูต้นกล้าที่บ่มเพาะไว้ เห็นความแห้งผากทางจิตใจ ความก้าวร้าว และสภาวะจิตที่ไม่สงบ
ข้าพเจ้าเกิดการตั้งคำถามกับตนเองว่าเกิดอะไร?
แต่ที่แน่ๆ ความชุ่มชื่นในจิตใจของต้นกล้าแต่ละต้นนั้นแทบไม่มีหยดน้ำเหลืออยู่เลย
ความเหนื่อยล้าปรากฏขึ้นมา ทำให้นึกถึงเวลาที่เราปลูกต้นกล้าบนพื้นดินที่แห้งแล้ง ปราศจากการรดน้ำและพรวนดิน
เด็กๆ สมาชิกศูนย์ฟื้นฟูฯ ที่วัดหนองไคร้นี้ก็ไม่ต่างไปจากต้นกล้าบนผืนแผ่นดินอันไร้ความอุดม...ข้าพเจ้าก็ตั้งข้อสงสัยต่อไปว่าสาเหตุคืออะไรกัน
จนได้คำตอบว่า...ศีล อันนำมาเป็นแนวทางการใช้ชีวิตที่นี่บกพร่อง
ศีลก็เปรียบเป็นดั่ง ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ที่เหมาะต่อการเพาะปลูก
เมื่อพิจารณาได้เช่นนี้ ก็ดำเนินการให้เด็กๆ ได้ตรวจสอบศีลของตนเอง และพิจารณาเรื่องของกุศลกรรมและอกุศลกรรม กิจกรรมเช่นนี้ในแง่มิติทางจิตวิญญาณทำให้ได้รับการบ่มเพาะอีกครั้ง กระแสแห่งความวุ่นวายที่ส่อเค้าออกมาทางพฤติกรรมลดดีกรีความรุ่มร้อนลง
และในวันนี้...
ข้าพเจ้าได้คิดอีกครั้งว่า ... "ความรักความเข้าใจ" ก็น่าจะยังคงเป็นพลังที่ดีเยี่ยมยอดสำหรับการบ่มเพาะต้นกล้า ซึ่งพลังแห่งความรักและความเข้าใจนี้ หากใช้ภาษาทางจิตวิญญาณ ก็คือ "ความเมตตาและปัญญา" ที่จะช่วยทำให้จิตใจอันแห้งผากของเด็กๆ เหล่านี้ชุ่มฉ่ำขึ้น
กิจกรรมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน อันเป็นวิถีแห่งการเนียนเนื้อพุทธะสู่วิถีชีวิตได้เริ่มต้น ด้วยการที่ข้าพเจ้าให้เด็กๆ ได้ร่วมกันทบทวนต่อ "ชีวิต" ว่า ในความเข้าใจของเขามองว่า
ชีวิตคืออะไร...ปัญหาของชีวิตคืออะไร...และที่สุดแล้วมีเป้าหมายอย่างไรในชีวิต
จากนั้น...
ข้าพเจ้าให้แต่ละคนได้วิเคราะห์และเรียนรู้การมองชีวิตตามการประกอบกันของ "ขันธ์๕" ที่นำพาให้เขามีวิถีชีวิตไปทั้งทางด้านกุศลกรรม และอกุศลกรรม
ความนิ่งและความสงบในใจมีเพิ่มขึ้น พลังชีวิตของเด็กเริ่มเคลื่อนนำมาสู่ความเป็นหนึ่งเดียว แววตาใคร่รู้และอยากค้นหาคำตอบมีมากขึ้น
หน้าที่ของข้าพเจ้าเพียงรดน้ำด้วยความรักและความเข้าใจ แต่การเผชิญเพื่อการเติบโตของต้นกล้าเหล่านี้ ต้องอาศัยการดำรงอยู่ทางจิตวิญญาณของเขาเองว่าจะมีพลังมากน้อยเพียงใด
แต่อย่างน้อย...วันนี้ กำลังใจ ก็ได้มีปรากฏขึ้นอีกครั้งในใจของข้าพเจ้า
อันเป็นกำลังใจต่อความเชื่อมั่นในการก้าวย่างที่ว่า "แม้ก้าวเดินเพียงลำพังก็จะยังก้าวเดินเพื่อบ่มเพาะต้นกล้าเหล่านี้" แม้อาจจะปราศจากผู้คนที่มีศรัทธาร่วมกันก็ตาม...
การร่วมเยียวยาเด็กๆ เหล่านี้มีความหมายอย่างมากต่อการมีชีวิตอยู่ข้าพเจ้า และจะเลิกทำก็ต่อเมื่อเป็นดำริของธรรมชาติเท่านั้น
ไม่มีความเห็น