เมื่อวานดิฉันและคุณสุภาพรรณ ตันติภาสวศิน ได้ไปเยี่ยมคุณหมอบุญรัก ธำรงลักษณ์กุลและทีม PCU ตะพง ในการนี้เราเชิญทีมดูแลผู้ป่วยเบาหวานของเทพธารินทร์คือคุณสุนทรี นาคะเสถียร ผู้จัดการฝ่ายบริการการศึกษาและวิจัย และคุณศิริวรรณ บุตะเดช พยาบาลวิชาชีพ ซึ่งทำหน้าที่เป็น Diabetes Educator ร่วมเดินทางไปกับเรา
เป้าหมายของดิฉันในครั้งนี้คือ
๑. ติดตามความก้าวหน้าของทีมคุณหมอบุญรักในด้านการนำความรู้ KM และความรู้เรื่องการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่ได้จากตลาดนัดความรู้ไปใช้ |
๒. ทดลองทำกิจกรรม "เพื่อนช่วยเพื่อน" โดยให้ทีมเทพธารินทร์ไปเรียนรู้วิธีการเข้าถึงและทำงานร่วมกับชุมชน ทีมตะพงเรียนรู้การดูแลผู้ป่วยเบาหวานแบบครบวงจรจากเทพธารินทร์ และชุมชนเรียนรู้วิธีการตรวจน้ำตาลใน Capillary blood จากทีมเทพธารินทร์ |
๓. สอนทีมตะพงในการทำบล็อก และเปิดบล็อกของตะพง |
ตอนเที่ยงไปรับประทานอาหารที่ร้านครัววิจารณ์กับทีมงานของคุณหมอบุญรัก เจ้าของร้านนี้มีภรรยาเป็น อสม. จึงเป็นคนละคนกับอาจารย์วิจารณ์ของเราแน่นอน
ช่วงบ่ายคุณหมอบุญรักบอกว่ามีทีมงานจากหลายที่ที่พอรู้ว่าทีมเทพธารินทร์จะมาเยี่ยม ก็ขอมาร่วมฟังด้วย เราจึงไปที่ห้องประชุมของ อบต.ตะพง ปรากฎว่ามีบุคลากรสหวิชาชีพทั้งแพทย์ พยาบาล นักสุขศึกษา นักโภชนาการ นักวิชาการสาธารณสุข เภสัชกร จากโรงพยาบาลระยอง PCU และสถานีอนามัย มาร่วมคุยกับเราจำนวน ๑๓ คน นายก อบต.ก็มาร่วมต้อนรับและบอกความตั้งใจในการทำงานด้วย ใช้เวลาถึงเกือบ ๑๖.๓๐ น. กิจกรรมบ่ายนี้ผิดแผนของเรา (และของเขา) แต่เราก็ได้ความคิดสำหรับการสนับสนุนการทำงานของทีมคุณหมอบุญรักและการดำเนินงานเครือข่ายต่อไป
กิจกรรมในวันนี้ ดิฉันบรรลุเป้าหมายข้อ ๑ ข้อ ๒ บรรลุบางส่วน ส่วนข้อ ๓ ไม่บรรลุเลย
แม้ไม่มีโอกาสทำกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนในรูปแบบที่ควรเป็น แต่ดิฉันและทีมเทพธารินทร์ก็ได้เรียนรู้วิธีการเข้าถึงและทำงานร่วมกับชุมชน จากการสังเกตการปฏิบัติจริงของคุณหมอบุญรักและทีมงาน คุณหมอบุญรักมีวิธีการที่จะทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างฝ่ายต่างๆ โดยยกย่องและให้ความสำคัญกับผู้อื่น ไม่ยัดเยียดความคิดของตนเอง ชาวบ้านชื่นชมทีมนี้อย่างมาก
สำหรับเรื่องที่ทางทีมเทพธารินทร์ตั้งใจจะไปเป็น "ผู้ให้" ๒ เรื่องนั้น บรรลุเป้าหมายบางส่วน คุณสุนทรีและคุณศิริวรรณจะเล่าให้ทราบในบล็อกของเทพธารินทร์ค่ะ
เป้าหมายข้อ ๓ ไม่มีเวลาสำหรับทำกิจกรรมนี้ แต่ได้ประชาสัมพันธ์บล็อก และคุณหมอบุญรักช่วยประชาสัมพันธ์จดหมายข่าว ปรากฎว่าทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ต้องการให้ส่งจดหมายข่าวไปที่หน่วยงานของตนด้วย
โดยรวมการเดินทางครั้งนี้ แม้ไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งหมด แต่สิ่งที่ได้มาอย่างไม่คาดคิดมีค่าอย่างมาก ที่สำคัญคือเริ่มมีการก่อตัวของเครือข่าย PCU ๔ แห่งและสอ.๑๘ แห่ง ซึ่งไม่เคยพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันมาก่อน (ติดตามรายละเอียดตอนต่อไปค่ะ)
ดิฉันได้ข้อคิดว่าสมาชิกแต่ละทีมมีโอกาสในการนำความรู้ KM และความรู้วิธีการดูแลผู้ป่วยเบาหวานไปใช้และขยายต่อไม่เท่ากัน จะไปคาดหวังเหมือนๆ กันไม่ได้ ผู้ประสานงานเครือข่ายต้องเข้าใจสภาพการทำงานและบริบทจริงๆ ของสมาชิกและเข้าไปสนับสนุนในทิศทางที่จะเอื้อให้สมาชิกทำงานได้ตามที่ตั้งใจไว้ ดิฉันและทีมคงต้องทำงานเชิงรุก ติดตามและสนับสนุนสมาชิกอย่างต่อเนื่อง
ข้อแนะนำที่ดิฉันพูดคุยกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมตอนบ่าย ๒ เรื่องหลักคือ
๑. ควรมีการป้องกันโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง เพราะมีการคัดกรองคนในชุมชนโดยการตรวจน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว ควรมีกิจกรรมการป้องกันในกลุ่มผู้ที่มีความผิดปกติของน้ำตาลในเลือด แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นเบาหวาน และหน่วยต่างๆ ควรทำโครงการด้วยกัน เพื่อให้สามารถใช้แหล่งประโยชน์ร่วมกันได้ |
๒. การนำ KM ไปใช้ใน ๓ กลุ่มคือบุคลากรสหวิชาชีพซึ่งเป็นผู้ให้บริการผู้ป่วยเบาหวาน กลุ่มผู้ป่วยด้วยกันเอง และชาวบ้านต่างชุมชน |
เราเดินทางกลับถึงเทพธารินทร์เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. ฝนกำลังตกหนักมาก ก่อนที่จะแยกย้ายกันลุยน้ำท่วมถนนเดินทางกลับบ้าน ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งใจที่ผู้ร่วมเดินทางทุกคนได้สละเวลาไปด้วยกันในครั้งนี้ รวมทั้งคุณอนันต์ ว่องมาดีโชเฟอร์ที่พาเราเดินทางไป-กลับอย่างปลอดภัย รวมทั้งพาลุยโคลนเข้าหมู่บ้านโดยไม่มีท่าทีย่อท้อ
วัลลา ตันตโยทัย วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๔๘
ไม่มีความเห็น