การปฏิบัติศาสนกิจของพุทธศาสนิกชน :การกรวดน้ำ
สองว้นก่อนมีหมอดูลายมือ และดูกราฟชีวิต เดินเข้าไปในโรงเรียนโดยบังเอิญ เมื่อเจอหน้าฉันขณะที่กำลังสาละวน จัดป้ายนิเทศหน้าห้องเรียน หมอดูก็ทักทาย และบอกว่า ฉันหน่ะเป็น "กระต่ายแสนซน" ฉันก็ออกจะงง ๆ ปกติเป็นคนไม่ชอบเรื่องแบบนี้เอาซะเลย จึงไม่ค่อยสนใจมากนัก หมอดูยังพูดต่อโดยทีฉันยังมิได้เอ่ยปากถามอะไรเลย สรุปได้ว่า ฉันหน่ะเป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบการเดินทาง อยู่ที่ใดก็จะไม่เกิน ๑๐ ปี ก็จะต้องโยกย้าย เออ จริงแฮะ ฉันเริ่มคล้อยตาม ในที่สุดก็ยอมให้หมอดู ดูลายมือ เขียนกราฟชีวิตให้ สรุปได้ว่า ปีนี้เป็นปี "ขาขึ้น" ของฉัน ฉันจะได้มีโอกาสทำบุญมากกว่าปีอืน ๆ
การเป็นกระต่ายแสนซนนี้เอง ทำให้ฉันต้องซึมซับวัฒนธรรมสองภาค คือภาคกลางและภาคใต้ ตอนเด็ก ๆ พวกเราจะแข่งกันท่องบทกรวดน้ำบทใหญ่ ใครท่องได้ถือว่าสุดยอด ฉันไม่แน่ใจนักว่าตอนเด็ก ๆ ท่องได้หรือเปล่า แต่ตอนจัดพิธีงานศพคุณพ่อ ลูก ๆ หลานจะต้องกรวดน้ำให้คุณพ่อว้นละสามครั้ง ทุกคนสวดเสียงดังมาก จนฉันตกใจ ส่วนฉันคงเป็นลูกสาวคนเดียวที่ไม่สามารถท่องบทกรวดน้ำบทนี้ได้(ตอนท่อง ท่องเฉพาะภาษาบาลี)
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
= ด้วยบุญนี้ อุททิศให้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
อาจะริยูปะการาจะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา ( ปิยา มะมัง )
= และอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ และปวงญาติ
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
= สูรย์จันทร์ และราชา ผู้ทรงคุณหรือสูงชาติ
พรัหมะมารา จะ อินทา จะ โลกะปาลา จะ เทวะตา
= พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
= ยมราช มนุษย์มิตร ผุ้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
= ขอให้สุขศานติ์ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน บุญผองที่ข้าทำจงอำนวยศุภผล
สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง
= ให้สุขสามอย่างล้น ให้ลุถึงนิพพานพลัน
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
= ด้วยบุญนี้ที่เราทำ และอุทิศให้ปวงสัตว์
ขิปปังหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
= เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
= สิ่งชั่วในดวงใจ กว่าเราจะถึงนิพพาน
นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
= มลายสิ้นจากสันดาน ทุกๆ ภพ ที่เราเกิด
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
= มีจิตตรง และสติปัญญาอันประเสริฐ พร้อมทั้งความเพียรเลิศเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย
มารา ละภันตะ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
= โอกาส อย่าพึงมี แก่หมูมารทั้งสิ้นทั้งหลาย เป็นช่องประทุษร้ายทำลายล้างความเพียรจม
พุทธาทิปะวะโร นาโถธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
= พระพุทธผู้วรนาถ พระธรรมที่พึ่งอุดม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
= พระปัจเจกะพุทะสมทบ พระสงฆ์ ที่ผึ่งพยอง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา
= ด้วยอานุภาพนั้น อย่าเปิดโอกาสให้แก่มาร ( เทอญเป็นบทสวดที่ยากมาก ๆ สำหรับฉัน ก็จากบ้านเกิดไประเหเร่ร่อนอยู่
ที่อื่น เกือบ ๆ ๓๐ ปีแล้ว ทุกวันนี้ส่วนมากตักบาตรตอนเช้าเสร็จ
ก็ใช้บทนี้ค่ะ (เหมาะกับสภาพการเร่งรีบไปทำงาน)
กรวดน้ำแบบย่ออิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโยฯขอผลบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของ ข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า
จงมีความสุข สุขใจเถิดฯ
ต่อด้วยบทนี้ค่ะ
คำอุทิศส่วนกุศล
ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล .....บุญกุศลแผ่ไปให้ไพศาล
ถึงบิดามารดาครูอาจารย์ .....ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน
คนเคยร่วมทำงานการทั้งหลาย .....มีส่วนได้ในกุศลผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ .....ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เถิด
ต่อมาได้ไปทำบุญที่วัดทางสายบ่อย ๆ ก็เจอคำกรวดน้ำภาษาไทยโบราณ จากหน้งสือ พุทธธรรมสถานอุทยานวัดทางสาย คือบทนี้ค่ะ
บุญทานที่ทำ กลายเป็นข้าวน้ำ เครื่องทิพย์นานา เป็นวิมานทอง เรืองรองโสภา กับทั้งนางฟ้า พันหนึ่งบริวาร
เครื่องทิพย์ครั้งนี้ ส่งถึงชนนี บิดาอย่านาน
ถึงญาติทุกหมู่ ครูบาอาจารย์ พ้นทุกข์อย่านาน ได้วิมานทอง
ฝูงเปรตทั้งหลาย นรกอสุรกายน หมู่สัตว์ทั้งผอง
เต่าปลาปูหอย กุ้งน้อยเนืองนอง จงตั้งใจปอง รับเอาส่วนบุญ
สัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ ตัวเรานี้ไซร์ ได้กระทำทารุณ
ด้วยกายน้ำใจ ฝากไว้เป็นทุน รับเอาส่วนบุญ อย่าเป็นเวรกรรม
อินทราเทวา อีกทั้งพรหมา ท้าวเวสสุวรรณ
พระภูมิเจ้าที่ พระอาทิย์พระจันทร์ พระอังคารพุธธัญ พฤหัสบดี
พระศุกร์พระเสาร์ เทพเจ้าทั้งหลาย สิบสองราศี
พระยมพระกาฬ จตุโลกบาลทั้งสี่ ครุฑานาคี กินรีกินนรา
เทพเจ้าทั้งหลาย ทั้งหญิงทั้งชาย จงอนุโมทนา
รับเอากุศล ผลบุญนี้หนา ทั้งพสุธา คงคาวารี
ชื่อว่าเข็ญใจ ขอจงอย่าได้ ไปบังเกิดมี
ความยากอย่าได้เห็น ขอให้เป็นเศรษฐี คฤหบดี มนตรีพระยา
คนพาลอย่าได้พบ ขอให้สบ คนมีปัญญา
เดชะกุศล ให้พ้นอสุรา ขอให้ตัวข้า พบพระศรีอาริย์
ได้ฟังคำสอน จิตใจโอนอ่อน สำเร็จอย่านาน
ลุถึงเมืองแก้ว กล่าวนิพพาน ดับชาติสังขาร จากโลกโลกีย์
การกรวดน้ำ คือ การตั้งใจอุทิศบุญกุศล ให้แก่ผู้ล่วงลับพร้อมกับรินน้ำเป็นเครื่องหมาย และเป็นเครื่องรวมกระแสจิตใจอุทิศนั้นแน่วแน่ วิธีนิยม ทำกันดังนี้ เริ่มต้นเตรียมน้ำสะอาดใส่ภาชนะไว้พอสมควร จะเป็นคณฑี ขวดเล็ก แก้วน้ำ หรือขัน อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ พอพระสงฆ์เริ่ม อนุโมทนาด้วยบท ยถา... ก็เริ่มกรวดน้ำ โดยตั้งใจ นึกอุทิศส่วนบุญ มือขวาจับภาชนะน้ำริน ใช้มือซ้ายประคอง แล้วว่าบทกรวดน้ำในใจไปจนจบ พอพระรูปที่ ๒ รับว่า "สัพพีติโย" ก็หยุดหลั่งน้ำกรวด แล้วเทน้ำ กรวดที่ยังเหลืออยู่นั้นลงในภาชนะที่รองรับน้ำให้หมด แล้วประณมมือรับพร การหลั่งน้ำกรวด ถ้าเป็นพื้นดินควรหลั่งลง ในที่สะอาดหมดจด ถ้าอยู่บนเรือนหรือสถานที่ ที่ไม่ใช่พื้นดิน ต้องหาภาชนะอื่นที่สมควร เช่น ถาดหรือขัน เป็นต้น รองน้ำกรวดไว้เสร็จแล้วจึงนำไป เทลงดินตรงที่สะอาด อย่าใช้กระโถนหรือภาชนะสกปรกรองเป็นอันขาด เพราะน้ำที่กรวดเป็น สักขีพยานในการทำบุญของตนว่าทำด้วยใจสะอาดจริง ๆ
ความเห็น (30)
- สวัสดีครับ
- ขอบคุณบันทึก ที่ทำให้มีความรู้เกี่ยวกับพิธีทางศาสนาของเราเพิ่มขึ้นครับ
- หลวงพ่อวัดที่ผมเคยไปบวช บอกว่าเวลากรวดน้ำ เป็นไปได้ให้กรวดน้ำผ่านลงพื้นดิน เพื่อให้แม่ธรณีได้นำบุญที่เราอุทิศให้ไปถึงผู้ตายได้ครับ เพราะบางคนก็จะไปกรวดน้ำที่กระถางต้นไม้ดอกไม้
ค่ะ ขอบคุณที่ให้รายละเอียดดีมากค่ะ
ทุกวันอาทิตย์หากไม่เหนือยเกินไป ดิฉันมักจะไปวัดเสมอค่ะ
รู้สึกมีความสุขที่ได้ไป ..
สาธุ...
อ่านแล้ว อยากไปใส่บาตรและกรวดน้ำแล้ว
- สวัสดีครับ พี่อิงจันทร์
- แวะมาหาประสบการณ์ดีๆ ครับผม
สวัสดีคะน้องชำนาญ
- แวะเข้าไปชำเลืองมองอยู่บ่อย ๆ
- เห็นยังไม่มีบันทึกใหม่จึงมิได้ทิ้งร่องรอย
- ขอบพระคุณมากค่ะ รออ่านบันทึกใหม่อยู่นะ
- ถ้าเรากรวดน้ำลงบนภาชนะรองรับ เค้าก็จะบอกให้นำน้ำนั้นไปเทที่ต้นไม้
- คงเป็นกุศโลบาย เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ เป็นการรดน้ำต้นไม้ไปด้วย
- แต่ถ้าเรากรวดน้ำที่พื้นดิน ไม่มีภาชนะรองรับ ก็ต้องเลือกรินน้ำลงที่พื้นดินที่คิดว่าสะอาด ๆ
- หวังว่าเจ้าลีซอตัวน้อย คงสบายดีนะคะ
สวัสดีค่ะพี่อิง
สวัสดียามเช้าค่ะพี่อิงจันทร์
มารับความรู้เรื่องการกรวดน้ำ อุ้มใส่บาตรบ่อยๆแต่ไม่ได้ท่องบทกรวดน้ำค่ะ จะเริ่มท่องแบบสั้นอย่างพี่อิงจันทร์ก่อนค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะน้อง
Bright Lily
- อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ที่ไปวัดบ่อย ๆ ในวันอาทิตย์
- น่าดีใจจัง ที่คนวัยทำงานอย่างน้อง เป็นคนใกล้วัด ใกล้พุทธศาสนา
- ลองกรวดน้ำแบบสั้นก่อนก็ได้นะคะ
- ครูอิงก็ส่วนมากยังใข้บทสั้นอยู่ค่ะ ในการตักบาตรตอนเช้า ๆ
สวัสดีค่ะ
พ.แจ่มจำรัส
- แวะไปเยี่ยมเยียน ส่งกำลังใจให้กัน
- ขอให้หายป่วย มีสุขภาพดีขึ้น นะคะ
- การทำบุญด้วยวิธีต่าง ๆ ก็ถือเป็นการเยียวยาได้อีกวิธีหนึ่งค่ะ
- โดยเฉพาะการสวดมนต์ การแผ่เมตตา จะทำให้จิตใจเราสงบ ไม่คิดมาก
- ตามคำแนะนำของ พี่โอ๋ อโณ นั้นก้ดีมากนะคะ
สวัสดีค่ะน้อง
นาย ฐานิศวร์ ผลเจริญ
- ขอบพระคุณมากค่ะ
- แวะไปเรียนเรขาคณิตที่บ้านน้องมาด้วยค่ะ
- สงสัยต้องขอกลับไปเรียน ม.4 ใหม่
- ถ้ามีครูสอนเก่ง ๆ อย่างน้องฐานิศวร์ พี่อิงคงเก่งคณิตศาสตร์มากกว่านี้
การกรวดน้ำนำใจให้อุทิศ ถึงญาติมิตรเทวัญสัตว์ทั้งหลาย
แม่ธรณีสักขีพยานท่านรับไป สิ่งสำคัญบุญส่งได้ใครรับเป็น
ผู้รับบุญนั้นไซร้ให้อนุโมทนา จึงรับค่าบุญใหญ่คือได้เห็น
กำหนดจิตรับบุญไว้ต้องให้เป็น อนุโมทนาคือประเด็นรับจับได้บุญ
อุทิศบุญไปถึงใครเขาไม่รับ ไม่ซึมซับอนุโมทนาจะเสียสูญ
บุญเหลือไว้ให้คนสร้างจัดวางบุญ ขอเสริมหนุนบุญท่านการรับบุญ
เมื่อเราตายให้รู้ว่าอนุโมทนารับ จึงได้จับบุญได้ไม่สิ้นสูญ
ผลอุทิศญาติมิตรให้เราได้บุญ ผู้เกื้อกูลชื่นใจได้ส่งบุญ
ใส่บาตรทุกครั้งจะต้องกรวดน้ำด้วยบทสวดแบบย่อและด้วยใจที่ตั้งมั่นสำหรับพี่
เขาบอกว่าถ้าเราใส่บาตรแล้วไม่กรวดน้ำ สิ่งที่เราใส่ไปจะไม่ถึงใครเลยที่ตายไป
แต่จะเป็นสิ่งที่สะสมไว้ให้ตัวเองแทนเมื่อตายไปค่ะ
พระพุทธกิตติสิริชัย กาลสมัยถึงเวลาปฏิสังขร
ปิดทองใหม่ใช้งบมากอยากวิงวอน ทั่วสิงขรศรัทธามาร่วมใจ
ทองคำแผ่น เก้าบาท ประกาศบอก ทำการลอกทองเก่าเหมาไม่ไหว
หนึ่งล้านกว่างบประมาณบอกผ่านไป มีศรัทธาติดต่อไปหลวงพ่อไมตรี...ด่วน!
โทร. 081-9268159 โทร. 081-9268159 โทร. 081-9268159
มาเยี่ยมชม การกรวดน้ำเป็นประเพณีเดิมของพราหม์ที่มีมาก่อนพระพุทธศาสนา ปรากฏที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาก็ตอนที่พระเจ้าพิมพิสาร ถวายวัดเวฬุวัน การรดน้ำนี้อินเดียนิยมมาก โดยเฉพาะในการแต่งงาน จนถึงกับเรียกว่าการอภิเษก ซึ่งคำนี้ มาจากศัพท์ว่า อภิ+สิญฺจ อภิ-ยิ่งใหญ่,จำเพาะ.ข้างหน้า สิญฺจ ธาตุ ในความรด เช่น เถราภิเษก การรดน้ำพระสงฆ์โดยยกย่องให้เป็นพระเถระ ที่เห็น เป็นอภิเษก นั้นเขียนตามแบบสันสกฤต โดยผ่านการลงวิภัตติปัจจัย
มารา ละภันตะ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม ตรงนี้น่าจะตกไปสักคำนึง ละภันตุ ควรกว่า เพราะ มารา เป็น พหูพจน์ กิริยาคุมพากษ์ จะต้องเป็นพหูพจน์ตาม ที่ถูก ควรเป็น ละภันตุ ยังไงก็ช่วยดูหลักฐานหน่อยนะครับ หลักฐานฉบับที่เชื่อถือได้
พุทธาทิปะวะโร นาโถธัมโม นาโถ วะรุตตะโม นาโถ กับธัมโม คนละคำ เวลาพิมพ์ต้องแยกครับคุณครู
สวัสดีค่ะน้องคุณยาย
- ดอกกุหลาบสวยดีค่ะ
- ถ้าเป็นสีขาวคงสวยกว่านี้มาก
- พี่อิงโปรดปรานดอกไม้สีขาวค่ะ เช่นดอกมะลิ ดอกแก้ว ดอกจำปี กุหลาบขาว
- สีแดงก็สวยดี แต่ให้อารมณ์รุนแรงไปนิดในความรู้สึก
สวัสดีค่ะน้องอุ้ม
- จะกรวดน้ำแบบย่อ หรือ แบบเต็มก็ดูความสะดวกของเรานะคะ
- การทำอะไรแล้วสะดวกใจ ก็ถือว่าเราไม่เบียดเบียนตัวเอง
- ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น คือชีวิตที่มีความสุขค่ะ
- ขอบพระคุณน้องอุ้มที่แวะมาเยี่ยมเยือนค่ะ
สวัสดีค่ะ
นายวิโรจน์ พูลสุข
- คำว่า "อนุโมทนาบุญ" จริง ๆ แล้วควรใช้ตอนใดบ้างคะ
- ยังสงสัยอยู่ค่ะ อย่างเช่น ตอนเช้านักเรียนทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จแล้ว
- สิ่งสุดท้ายก่อนเข้าห้องเรียน ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม น้องไหว้พี่ เพื่อนไหว้เพื่อน นักเรียนไหว้คุณครู โดยพนมมือไหว้ พร้อมกับกล่าวว่า
- "สวัสดีค่ะ ขออนุโมทนาบุญ ด้วยค่ะ"
- ครูอิงสงสัยว่า ยังไม่มีใครแผ่ส่วนบุญให้ ทำไม ต้องกล่าวอนุโมทนาบุญด้วยคะ ดูเหมือนจะเป็นการกล่าวแบบ ตามคำสั่งของครูมากกว่า ซึ้งครูเองก็รับแนวทางมาจากโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ ค่ะ
- วอนท่านวิโรจน์ ตอบข้อข้องใจด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะพี่ครู
krugui Chutima
- ครูอิงก็ได้ยินมาเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ
- ขอบพระคุณพี่ครูนะคะที่แวะมาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น
- ขอให้พี่ครูมีความสุขเสมอ ๆ นะคะ
สวัสดีค่ะนายวิโรจน์ พูลสุข
พระพุทธกิตติสิริชัย กาลสมัยถึงเวลาปฏิสังขร
ปิดทองใหม่ใช้งบมากอยากวิงวอน ทั่วสิงขรศรัทธามาร่วมใจ
ทองคำแผ่น เก้าบาท ประกาศบอก ทำการลอกทองเก่าเหมาไม่ไหว
หนึ่งล้านกว่างบประมาณบอกผ่านไป มีศรัทธาติดต่อไปหลวงพ่อไมตรี...ด่วน!
โทร. 081-9268159 โทร. 081-9268159 โทร. 081-9268159
*******************
- จะบอกบุญต่อต่อกันไปให้ไพศาล ถึงญาติมิตรบริวารท่านทั้งหลาย
- เป็นข่าวดีได้ทำบุญหนุนนำใจ พระองค์ใหญ่คงงดงามอร่ามเรือง
- เมื่อไปกราบครั้งหลังนั่งมองอยู่ ใจหดหู่พระลดความอร่ามเหลือง
- สนทนาญาติธรรมอยู่เนืองเนือง เกี่ยวกับเรื่องปฏิสังขรณ์นั้นเหมาะกาลแล้ว
กราบนมัสการพระคุณเจ้า
พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ ทิวาพัฒน์
- ขอบพระคุณค่ะ สำหรับข้อมูลความรู้ ประวัติความเป็นมาของการกรวดน้ำ
- สำหรับเรื่องข้อบกพร่องเรื่องการพิมพ์ตัวอักษรนั้น ครูอิงจะตรวจสอบอีกครั้ง และแก้ไขให้ผิดพลาดน้อยที่สุดค่ะ
- ขอบพระคุณค่ะ
คุณครูครับบังเอิญเห็นคำถามที่คุณครูถามคุณโยมวิโรจน์ คำว่า "อนุโมทนาบุญ" จริง ๆ แล้วควรใช้ตอนใดบ้างคะ...
คำว่า อนุโมทนา นะครับ เป็นคำพูดที่กล่าวแสดงความชื่นชมยินดีกับการกระทำความดีของคนอื่น โดยที่เราไม่ได้ทำด้วย แต่เรายินดีพอใจในการกระทำนั้น ท่านว่าเป็นบุญข้อนึงในบุญกิยาวัตถุ ๑๐ ข้อที่ว่า ปัตตานุโมทนามัย บุญเกิดจากการอนุโมทนาส่วนบุญ และคำว่า "อนุโมทนา"นี้ มาจากศัพท์ว่า อนุ+มุทฺ+ยุ
อนุ เป็น อุปสรรค แปลว่า น้อย,ภาย.หลัง.ตาม เช่นในคำว่า "อนุชา" แปลว่าน้อง มาจาก อนุ+ชา ชา แปลว่า เกิด ก็เลยแปลว่า ผู้เกิดทีหลัง โดยความก็คือน้องนั่นเอง เราไม่อยากพูดยาว ในการแต่งคำประพันธ์ก็เลยใช้คำว่า"นุช" ก็แปลว่าน้องนั่นเอง. มาดู "อนุโมทนา" ต่อ อนุ บทหน้า ลง มุทฺ ธาตุ ในความยินดี เอา อุ ที่ มุ เป็น โอ เป็น อนุโมท ลง ยุ ปัจจัย แปลง ยุ เป็น อน ลบ อ เสีย เป็น อนุโมทน ทีฆะ อะ เป็น อา สำเร็จรูปเป็น อนุโมทนา แปลว่าตามชื่นชมยินดี คำว่า มุทิตา ในพรหมวิหาร ๔ ก็เช่นกัน มาจากธาตุเดียวกัน แต่ลงปัจจัยคนละตัว มุทิตา ลง ตา ปัจจัย ในภาวตัทธิท เวลาแปลๆออกสำเนียงว่า ความเป็นผู้...
คำว่า มุทิตาจิต ก็ดี มุทิตาสักการะก็ดี อนุโมทนา ก็ ใช้ต่างกันอยู่นะ ผู้ใหญ่แสดงความชื่นชมยินดีในความสำเร็จกับผู้น้อย เขานิยมใช้ มุทิตาจิต ถ้าผู้น้อยใช้กับผู้ใหญ่ เขานิยมใช้ มุทิตาสักการะ (อันนี้ในส่วนของพระสงฆ์นะ ในส่วนของฆราวาส คงจะใช้ มุทิตาจิต สมอกันหมด อย่างในเวลากินเลี้ยงส่ง ในโอกาสย้าย หรือมารับตำแหน่งใหม่)
อันนี้ก็เป็นเพียงข้อคิดเห็นเล็กๆน้อยๆ ถูกไม่ถูกคุณครูก็ตรองดูเถิด คุณครูพอดีอาตมาเขียนเรื่อง "จันทร์ เป็นนิยายอิงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา คุณครูว่างก็ไปแนะนำ "จันทร์"ที่ จินตนิยายอิงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ด้วย มีอะไรแนะนำสั่งสอนเธอก็จักเป็นประโยชน์มาก
แก้ใหม่คำว่า บุญกิริยาวัตถุ พิมพ์ตกไปคำนึงครับ
แต่งได้ไพเราะมากครับ...
 |
ละสังขารดับสุขโศกลาโลกแล้ว โลกยังแว่วแนวทางธรรมที่พร่ำสอน
มิยลยินสดับใดในอาวรณ์ มิทุกข์ร้อนใดใดในอบาย
"บัว"ทิ้งกลีบรีบละสังสารวัฎ เคยจรัสพราวแสงแห่งความหมาย
คือแสงทอง "แสงธรรมนำหลักใจ" จารึกไว้ธรรมยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน
กราบนมัสการพระคุณเจ้าพระมหาวินัย ภูริปญฺโญ ทิวาพัฒน์
- พระคุณเจ้ามีความแตกฉานในเรื่องของภาษาเป็นอย่างยิ่ง
- ครูอิงเคยเรียนเนื้อหาแบบนี้สมัยปริญญาตรี ตอนนั้นอายุยังน้อย ความรู้สึกนึกคิดในเรื่องของวัฒนธรรมด้านต่าง ๆ ยังพร่องอยู่มาก จึงมิค่อยได้ใส่ใจนัก
- เมื่อเป็นครู ก็ไม่ค่อยได้ใช้ความรู้ลึกแบบนี้ ทำให้ความรู้เดิมมิอาจงอกเงย
- ครูอิงสงสัยอีกแหละค่ะ สงสัยว่า ในเมื่อ การแสดงความชื่นชมยินดีในความสำเร็จกับผู้น้อย เขานิยมใช้ มุทิตาจิต
- เช่นนี้แล้ว ทำไมเวลาครูเกษียณอายุ จึงใช้คำว่า ไปร่วมงานมุทิตาจิต เขาใช้ผิดหรือเปล่าคะ ในเมื่อผู้ที่เกษียณอายุ คือผู้ใหญ่ ผู้ที่ไปร่วมงานคือผู้น้อย
- ขอบพระคุณพระคุณเจ้าที่ให้ความกระจ่าง เรื่อง คำ อนุโมทนาบุญ ค่ะ
- ครูอิงเคยตามท่านวิโรจน์ไปอ่าน เรื่อง "จันทร์" ครั้งหนึงแล้วค่ะ แต่มิได้ทิ้งร่องรอยไว้ จะกลับไปเก็บรายละเอียดอีกรอบค่ะ
แต่งได้ไพเราะมากครับ...
|
ละสังขารดับสุขโศกลาโลกแล้ว โลกยังแว่วแนวทางธรรมที่พร่ำสอน
มิยลยินสดับใดในอาวรณ์ มิทุกข์ร้อนใดใดในอบาย
"บัว"ทิ้งกลีบรีบละสังสารวัฎ เคยจรัสพราวแสงแห่งความหมาย
คือแสงทอง "แสงธรรมนำหลักใจ" จารึกไว้ธรรมยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน
****************************
ขอบพระคุณค่ะ
พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ
ในส่วนของฆราวาสก็เห็นเขาใช้คำว่า"มุทิตาจิต"เสมอกันหมด สงสงคำนี้จะเป็นคำกลางๆสำหรับฆราวาส แต่ในส่วนของพระสงฆ์ เห็นท่านใช้แยกกันตามที่เขียนไว้นั่นแล สำหรับเรื่องฆราวาสเป็นไปอย่าไร อาตมาก็ไม่ค่อยชัดเจน เพราะได้ใช้ชีวิตเป็นฆราวาสมาน้อยเหลือเกิน ตอนที่เป็นฆราวาสนั้นก็ยังเป็นเด็ก ยังไม่รู้เรื่องอะไร คำว่า มุทิตา นี่เป็นคำที่ไพเราะเหมาะที่จะนำไปตั้งเป็นชื่อเด็กผู้หญิง เป็นภาวะจิตใจที่ประเสริฐ ที่ยินดีในความสำเร็จของคนอื่น ถึงแม้คุณธรรมข้อนี้จะมีในเด็กก็ทำให้เด็กคนนั้นเป็นคนที่น่ารัก น่าสนับสนุนส่งเสริม ถ้ามีอยู่ในผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ น่านับถือ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ไร้ซึ่งมุทิตา ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดี อคติ หรือ ความไม่ดีอย่างอื่นที่มีอยู่ในใจแล้ว ก็จะเจริญงอกงามขึ้นมาอีก ความไม่ดีอย่างอื่นที่ยังไม่เกิดก็จักเกิดขึ้น เพราะอาศัยจิตใจที่ตั้งไว้ในความเห็นผิด..
พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ
ในส่วนของฆราวาสก็เห็นเขาใช้คำว่า"มุทิตาจิต"เสมอกันหมด สงสงคำนี้จะเป็นคำกลางๆสำหรับฆราวาส แต่ในส่วนของพระสงฆ์ เห็นท่านใช้แยกกันตามที่เขียนไว้นั่นแล สำหรับเรื่องฆราวาสเป็นไปอย่าไร อาตมาก็ไม่ค่อยชัดเจน เพราะได้ใช้ชีวิตเป็นฆราวาสมาน้อยเหลือเกิน ตอนที่เป็นฆราวาสนั้นก็ยังเป็นเด็ก ยังไม่รู้เรื่องอะไร คำว่า มุทิตา นี่เป็นคำที่ไพเราะเหมาะที่จะนำไปตั้งเป็นชื่อเด็กผู้หญิง เป็นภาวะจิตใจที่ประเสริฐ ที่ยินดีในความสำเร็จของคนอื่น ถึงแม้คุณธรรมข้อนี้จะมีในเด็กก็ทำให้เด็กคนนั้นเป็นคนที่น่ารัก น่าสนับสนุนส่งเสริม ถ้ามีอยู่ในผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ น่านับถือ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ไร้ซึ่งมุทิตา ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดี อคติ หรือ ความไม่ดีอย่างอื่นที่มีอยู่ในใจแล้ว ก็จะเจริญงอกงามขึ้นมาอีก ความไม่ดีอย่างอื่นที่ยังไม่เกิดก็จักเกิดขึ้น เพราะอาศัยจิตใจที่ตั้งไว้ในความเห็นผิด..
รพีพรรณ เอี่ยมสำอางค์
ชื่นชอบมากค่ะ
บทกรวทน้ำจะมี อิทัง เม กับ อิทัง โน ต่างกันยังไงค่ะ