ช่วงเช้าวันนี้ผู้เขียนเข้าสอนนักเรียนชั้น ม.๑แทนคุณครูที่ลากิจ
ทันทีที่เข้าไปถึงห้องก็เห็นเด็กผู้หญิงตบหน้าเด็กผู้ชายฉาดใหญ่ข้อหาไปล้อเลียนเธอว่า "แต่งให้ตายก็ไม่สวย"
เมื่อเรียกเด็กมาตักเตือนลงโทษเสร็จจึงเดินไปพูดคุยกับเด็กผู้ชายซึ่งนั่งคลำแก้มป้อย ๆ ด้วยความเจ็บแถมเริ่มมีรอยสีแดงเพราะแรงตบขึ้นเป็นนิ้ว...เพื่อให้เด็กได้ผ่อนคลาย
ครู : เป็นยังไงเจ็บไหมคะ
นักเรียน : เจ็บครับ
ครู : เข็ดไหมคะ
นักเรียน : เข็ดครับ
ครู : ในชีวิตเคยถูกใครตบหน้าบ้างไหม ?
นักเรียน : ไม่เคยครับ เคยแต่โดนถีบครับ....
ครู : ใครคะที่ถีบเธอ
นักเรียน : ผู้หญิงห้องสี่ครับ
ผู้เขียนรู้สึกขบขันแต่ก็เจ็บลึก ๆในใจ ที่เห็นเด็กไทยวันนี้มักแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ทั้งโจทก์และจำเลยมีนิสัยก้าวร้าวพอ ๆ กัน...อีกทั้งตัวอย่างของผู้ใหญ่แย่ๆ ที่มีให้พบเห็นไม่เว้นแต่ละวันในหน้าหนังสือพิมพ์..
ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือสื่อสารมวลชนแขนงต่าง ๆ ที่ขาดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม ป้อนความรุนแรง ป้อนกามราคะให้เด็กไม่เว้นแต่ะละว้นเพื่อผลประโยชน์บนความหายนะของเด็กไทย...
ละครฉากเล็ก ๆ ในวันนี้อาจกลายเป็นละครจากชีวิตจริงที่ยิ่งใหญ่ในวันหน้า เมื่อจิตวิญญาณของพวกเขาค่อย ๆ ซึมซับหมอกควันแห่งชีวิตจนกลายเป็นความเคยชิน และด้านชา
ต่อความดีและความเมตตาที่พึงมีต่อกัน...
พ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องมีไหมใครคิดถึง...อนาคตของชาติที่นับวันจะเพิ่มปัญหา....
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต
น้านนะซีครับ ช่างน่าคิดว่าต้องสอนอย่างไรให้ความรุ่นแรงหมดไป ไม่อยากเห็นเด็กนักเรียนตีกัน
สวัสดีค่ะ
เป็นบันทึกที่ชวนคิด...
ความรุนแรงกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในสังคมปัจจุับันและที่น่าเศร้าก็ดังที่อาจารย์กล่าวไว้ค่ะ..."ละครฉากเล็ก ๆ ในวันนี้อาจกลายเป็นละครจากชีวิตจริงที่ยิ่งใหญ่ในวันหน้า"
คงต้องร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และทุกคนในสังคมค่ะ
(^__^)
ส่วนใหญ่การยอกล้อเด็กมัธยมจะเล่นกันแรงนะครับ
มีเรื่องที่ยอกล้อแต่ต้องมาคุยกันที่ห้อง ผอ.ก็บ่อยๆ
ผู้หญิงถีบผู้ชายก็เคยเห็น ตบยังไม่เห็นครับ บางทีการถีบก็เหมือนผู้ชายยินยอมครับ เพราะไปแกล้งเขาก่อน
ปฏิกิริยาที่ตอบโต้โดยใช้ความรุนแรง มาจากการขาดขันติ ความอดทน อดกลั้น ซึ่งต้องใช้เวลาฝึกฝนจิตมิให้ตกอยู่ภายใต้โทสะจริตเข้าครอบงำ..บวกกับการมีเมตตาธรรมต่อกัน..ที่จะละลายพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ลงได้..พุทธศาสนาจะช่วยกล่อมเกลาจริยาวัตรเหล่านี้ให้ซึมซับลงสู่จิตสำนึกทีละน้อยจนแก่กล้ามากขึ้นเป็นลำดับ..
..พี่ใหญ่หวังว่า โรงเรียนต่างๆจะบรรจุการอบรมศีลธรรมเหล่านี้ ไว้ในกิจกรรมหลักของนักเรียนด้วยนะคะ..
..ขอบคุณที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจน้องๆในโครงการกล้าใหม่-ใฝ่รู้ ปี ๕ ค่ะ..
เด็กประถมก็เริ่มจะตบ ตี ถีบ..ล้อเล่นกัน
เด็ก ป.1 เล่นเป็นพระเอกละครที่เตะ ต่อย ตีเก่ง
แล้วก็ต่อสู้กันพัลวัน...เจ็บก็ร้องไห้มาฟ้องครู..บ่อยๆ
การตัดสินปัญหาต่างๆของทั้งเด็กและผู้ใหญ่เดี่ยวนี้...น่ากลัวและรุนแรงขึ้นทุกวัน
ไม่รู้ไปสรรค์หาวิธีการกันมาจากไหน
แบบอย่างที่ไม่ดีมาจากหลายที่นะคะ ทั้งผู้ใหญ่ทั้งสื่อ...
เห็นทีจะต้องเข้มงวดเกี่ยวกับวิชาศีลธรรมกันให้มากขึ้นเหมือนคนสมัยก่อนๆ
แวะมาฟังด้วยคนค่ะ
มาชม
ฟังเพลงเด็กร้องสมัยนี้ มีแววศิลปินแต่เด็ก ๆ นะครับ
ขอคุยด้วยคนเรื่องนี้นะ
อ่านความคิดและข้อเสนอแนะของทุกคนก็เห็นด้วยคะ
และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับคุณชำนาญ ที่ว่าทุกปัญหานั้นเกี่ยวพันกันยุ่งจริง ๆ
ทุกฝ่ายต้องประสานกันจึงจะช่วยได้ และต้องทำกันอย่างจริงจังทั้งระบบ
ไม่ยากหรอกถ้าทำด้วย "รักเหนือรัก" ของทุกคน แต่รักด้วยเหตุผล
ความรักมอบให้กันได้ทุกวันเนอะค่ะ ขอบคุณที่แวะไปมอบน้ำใจให้ค่ะ